พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,197 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้รถยนต์ที่มีเอกสารปลอมต่อเจ้าพนักงาน และความผิดกรรมเดียวจากการแสดงเอกสารปลอมทั้งหมด
จำเลยนำรถยนต์ที่มีหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมออกใช้ขับไปในที่ต่าง ๆ และแสดงต่อเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งขอตรวจดูความถูกต้องของรถ เป็นการใช้รถยนต์และอ้างหรือแสดงรถยนต์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจ เมื่อรถยนต์มีหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมย่อมถือได้ว่าจำเลยใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมต่อเจ้าพนักงานตำรวจแล้ว แม้ว่าหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์จะอยู่ในลักษณะที่ปกปิดก็ตามและการที่จำเลยอ้างหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมต่อเจ้าพนักงานตำรวจย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยใช้เอกสารดังกล่าวด้วย จำเลยใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์ปลอม หมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอม แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม และแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมโดยมีเจตนาอย่างเดียวกันคือเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ารถยนต์คันที่จำเลยขับนั้นเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมายจึงเป็นความผิดกรรมเดียว โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยอ้างหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอม แม้จะมิได้บรรยายไว้โดยชัดแจ้งว่าจำเลยใช้หมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอม ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยใช้เอกสารปลอมดังกล่าวด้วย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 414/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้รถยนต์ที่มีเอกสารปลอม และการอ้างเอกสารปลอมต่อเจ้าพนักงานตำรวจ เป็นความผิดฐานใช้เอกสารปลอมกรรมเดียว
จำเลยนำรถยนต์ที่มีหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมออกใช้ขับไปในที่ต่าง ๆ และแสดงต่อเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งขอตรวจดูความถูกต้องของรถ เป็นการใช้รถยนต์และอ้างหรือแสดงรถยนต์ต่อเจ้าพนักงานตำรวจเมื่อรถยนต์มีหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมย่อมถือได้ว่าจำเลยใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมต่อเจ้าพนักงานตำรวจแล้ว แม้ว่าหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์จะอยู่ในลักษณะที่ปกปิดก็ตาม และการที่จำเลยอ้างหมายเลขเครื่องยนต์และหมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอมต่อเจ้าพนักงานตำรวจ ย่อมมีความหมายอยู่ในตัวว่าจำเลยใช้เอกสารดังกล่าวด้วย
จำเลยใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์ปลอม หมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอม แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม และแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมโดยมีเจตนาอย่างเดียวกันคือเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ารถยนต์คันที่จำเลยขับนั้นเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นความผิดกรรมเดียว.
จำเลยใช้และอ้างหรือแสดงหมายเลขเครื่องยนต์ปลอม หมายเลขตัวถังรถยนต์ปลอม แผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์ปลอม และแผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีปลอมโดยมีเจตนาอย่างเดียวกันคือเพื่อให้เจ้าพนักงานตำรวจเห็นว่ารถยนต์คันที่จำเลยขับนั้นเป็นรถยนต์ที่ถูกต้องตามกฎหมาย จึงเป็นความผิดกรรมเดียว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 345-346/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีของผู้เช่าซื้อ: ผู้เช่าซื้อโดยชอบมีอำนาจฟ้องเรียกค่าเสียหายจากผู้ทำละเมิดต่อรถยนต์ที่เช่าซื้อ
โจทก์เช่าซื้อรถยนต์ต่อจาก ม. และการเช่าซื้อดังกล่าวอยู่ในความยินยอมของบริษัท ส. ผู้ให้เช่าซื้อเดิม ดังนี้โจทก์เป็นผู้เช่าซื้อโดยชอบและครอบครองรถยนต์คันดังกล่าวตามสัญญา จึงมีอำนาจฟ้องผู้ทำละเมิดให้รถที่เช่าซื้อนั้นเสียหายได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมโดยไม่ยินยอมคู่สมรส: สิทธิในการฟ้องเพิกถอน
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมซึ่งคู่สมรสฝ่ายหนึ่งกระทำลงโดยไม่ได้รับความยินยอมของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งย่อมไม่สมบูรณ์ไม่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์และสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายในฐานะผู้รับบุตรบุญธรรมกับบุตรบุญธรรมแต่อย่างใด การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับจำเลยเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่ง อ. ได้กระทำลงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ผู้เป็นคู่สมรส จึงเป็นการฟ้องขอให้แสดงว่าฐานะของ อ. และจำเลยมิได้มีการเปลี่ยนแปลงเพราะการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมซึ่งไม่สมบูรณ์ดังกล่าว หาใช่เป็นการใช้สิทธิเรียกร้องเพื่อเพิกถอนฐานะความเป็นผู้รับบุตรบุญธรรมกับบุตรบุญธรรมไม่กรณีจึงไม่อยู่ในบังคับของบทบัญญัติว่าด้วยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 163 และมาตรา 164 และเมื่อไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายกำหนดระยะเวลาที่โจทก์อาจฟ้องคดีเช่นว่านี้ได้แล้วโจทก์ผู้มีส่วนได้เสียย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องคดีดังกล่าวได้เสมอ.(วินิจฉัยโดยประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2531)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 344/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมโดยไม่ได้รับความยินยอมจากคู่สมรส: คดีไม่ขาดอายุความ
การจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมซึ่งคู่สมรสฝ่ายหนึ่งกระทำลงโดยไม่ได้รับความยินยอมของคู่สมรสอีกฝ่ายหนึ่งย่อมไม่สมบูรณ์ไม่ก่อให้เกิดความสัมพันธ์และสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายในฐานะผู้รับบุตรบุญธรรมกับบุตรบุญธรรมแต่อย่างใด การที่โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนการจดทะเบียนรับจำเลยเป็นบุตรบุญธรรม ซึ่ง อ. ได้กระทำลงโดยไม่ได้รับความยินยอมจากโจทก์ผู้เป็นคู่สมรส จึงเป็นการฟ้องขอให้แสดงว่าฐานะของ อ. และจำเลยมิได้มีการเปลี่ยนแปลงเพราะการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมซึ่งไม่สมบูรณ์ดังกล่าว หาใช่เป็นการใช้สิทธิเรียกร้องเพื่อเพิกถอนฐานะความเป็นผู้รับบุตรบุญธรรมกับบุตรบุญธรรมไม่ กรณีจึงไม่อยู่ในบังคับของบทบัญญัติว่าด้วยอายุความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 163 และมาตรา 164และเมื่อไม่มีบทบัญญัติของกฎหมายกำหนดระยะเวลาที่โจทก์อาจฟ้องคดีเช่นว่านี้ได้แล้ว โจทก์ผู้มีส่วนได้เสียย่อมมีสิทธิที่จะฟ้องคดีดังกล่าวได้เสมอ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องคดีเนื่องจากไม่ชำระค่าธรรมเนียมศาลตามกำหนด แม้จะขอขยายเวลา และผลกระทบต่อการขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ต่อมาโจทก์แถลงไม่ติดใจขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา และขอขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมอีก 10 วัน ศาลชั้นต้นอนุญาตในวันเดียวกัน และสั่งว่าหากไม่นำเงินมาวางภายใน 10 วันถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง โดยโจทก์ได้ลงลายมือชื่อในช่องหมายเหตุในคำร้องที่ระบุว่าข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว ดังนี้ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งศาลในวันนั้นแล้ว เมื่อถึงวันครบกำหนดโจทก์ไม่นำเงินมาชำระค่าธรรมเนียม คำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมมีผลทันทีโดยไม่ต้องมีคำสั่งอีกซึ่งคำสั่งทิ้งฟ้องของศาลชั้นต้นเท่ากับเป็นคำสั่งไม่รับฟ้อง และเมื่อศาลไม่รับฟ้องแล้วโจทก์จะร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาโดยขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์อีกไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาชำระค่าฤชาธรรมเนียมและการทิ้งฟ้อง: ผลกระทบต่อการดำเนินคดี
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ต่อมาโจทก์แถลงไม่ติดใจขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา และขอขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมอีก 10 วัน ศาลชั้นต้นอนุญาตในวันเดียวกัน และสั่งว่าหากไม่นำเงินมาวางภายใน 10 วันถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง โดยโจทก์ได้ลงลายมือชื่อในช่องหมายเหตุในคำร้องที่ระบุว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว ดังนี้ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งในวันนั้นแล้ว เมื่อถึงวันครบกำหนดโจทก์ไม่นำเงินมาชำระค่าธรรมเนียมคำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมมีผลทันทีโดยไม่ต้องมีคำสั่งอีก ซึ่งคำสั่งทิ้งฟ้องของศาลชั้นต้นเท่ากับเป็นคำสั่งไม่รับฟ้อง และเมื่อศาลไม่รับฟ้องแล้วโจทก์จะร้องขอดำเนินคดีอย่างอนาถาโดยขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 273/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทิ้งฟ้องเนื่องจากไม่ชำระค่าฤชาธรรมเนียมตามกำหนด และผลของการไม่รับฟ้องต่อการขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา
โจทก์ยื่นคำร้องขอฟ้องคดีอย่างคนอนาถา ต่อมาโจทก์แถลงไม่ติดใจขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถา และขอขยายเวลาวางเงินค่าฤชาธรรมเนียมอีก 10 วัน ศาลชั้นต้นอนุญาตในวันเดียวกัน และสั่งว่าหากไม่นำเงินมาวางภายใน 10 วันถือว่าโจทก์ทิ้งฟ้อง โดยโจทก์ได้ลงลายมือชื่อในช่องหมายเหตุในคำร้องที่ระบุว่า ข้าพเจ้ารอฟังคำสั่งอยู่ ถ้าไม่รอถือว่าทราบแล้ว ดังนี้ต้องถือว่าโจทก์ทราบคำสั่งศาลในวันนั้นแล้ว เมื่อถึงวันครบกำหนดโจทก์ไม่นำเงินมาชำระค่าธรรมเนียม คำสั่งของศาลชั้นต้นย่อมมีผลทันทีโดยไม่ต้องมีคำสั่งอีกซึ่งคำสั่งทิ้งฟ้องของศาลชั้นต้นเท่ากับเป็นคำสั่งไม่รับฟ้อง และเมื่อศาลไม่รับฟ้องแล้วโจทก์จะร้องขอดำเนินคดีอย่างคนอนาถาโดยขอให้ศาลชั้นต้นไต่สวนคำร้องของโจทก์อีกไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 253/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่มาศาลตามนัดหมายของทนายโจทก์ ถือเป็นการละเลยคดี และไม่มีเหตุสมควร แม้จะอยู่ในบริเวณศาล
ทนายโจทก์ยื่นคำร้องขอให้ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง ศาลอนุญาตให้ตามวันและเวลาที่ทนายโจทก์ขอ ครั้นถึงวันนัดปรากฏว่าทนายโจทก์มาศาลตัวโจทก์ไม่มาและทนายโจทก์ติดว่าความหลายคดีในศาลเดียวกันแต่มิได้แจ้งเหตุขัดข้องดังกล่าวให้ศาลทราบ ดังนี้ เมื่อทนายโจทก์ไม่เข้าห้องพิจารณาตามกำหนดนัด ก็ถือว่าไม่มาศาลตามกำหนดนัดนั่นเอง ทนายโจทก์จะอยู่ในบริเวณศาลหรือไม่ หาใช่ข้อสำคัญไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 248/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองบุตรนอกกฎหมาย: พฤติการณ์ต้องแสดงเจตนาชัดเจนต่อสาธารณชน มิใช่เพียงการให้ความอุปถัมภ์ทั่วไป
แม้ข้อเท็จจริงจะฟังได้ว่า ก. เป็นบิดาโจทก์ แต่พฤติการณ์ที่ ก. แสดงออกมีเพียงว่า ก. นำเงินไปให้มารดาโจทก์ที่โรงพยาบาลในวันที่โจทก์เกิด และก่อนมารดาโจทก์จะออกจากโรงพยาบาล ก. ก็ได้ไปเยี่ยมอีกครั้งหนึ่ง เมื่อออกไปอยู่บ้าน ก. ก็ไปเยี่ยมและส่งเสียมารดาโจทก์และโจทก์ เมื่อโจทก์เข้าเรียนเมื่ออายุ 4 ปี ก. เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายตลอดมาจน ก. ถึงแก่กรรม เพียงเท่านี้ยังถือไม่ได้ว่าโจทก์เป็นบุตรนอกกฎหมายที่ ก. รับรองแล้ว.(ที่มา-ส่งเสริม)