คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมศักดิ์ เกิดลาภผล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,197 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่หยุดรถตามสัญญาณเจ้าพนักงาน ไม่ถือเป็นขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ หากไม่มีการกระทำอื่นเพิ่มเติม
จำเลยขับรถยนต์สิบล้อไปถึงด่านตรวจ ได้รับสัญญาณให้หยุดรถจากเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยืนอยู่ริมถนนบริเวณด่านตรวจนั้นแล้วไม่ปฏิบัติตามโดยจำเลยขับรถผ่านเลยไป ดังนี้ เมื่อไม่ได้ความว่าจำเลยกระทำการอื่นใดนอกเหนือไปจากนี้การกระทำของจำเลยจึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดฐานขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 223/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขับรถฝ่าด่านตรวจและการขัดขวางเจ้าพนักงาน: การกระทำต้องเกินกว่าการไม่ปฏิบัติตามสัญญาณ จึงจะถือเป็นความผิด
จำเลยขับรถยนต์สิบล้อไปถึงด่านตรวจ ได้รับสัญญาณให้หยุดรถจากเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งยืนอยู่ริมถนนบริเวณด่านตรวจนั้นแล้วไม่ปฏิบัติตามโดยจำเลยขับรถผ่านเลยไป ดังนี้ เมื่อไม่ได้ความว่าจำเลยกระทำการอื่นใดนอกเหนือไปจากนี้ การกระทำของจำเลยจึงยังถือไม่ได้ว่าเป็นความผิดฐานขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 213/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญชาติไทยของบุตรเกิดในไทยจากบิดาต่างด้าวมีใบอนุญาต แม้แม่เป็นญวนอพยพ ไม่ถูกเพิกถอนสัญชาติ
บุคคลซึ่งเกิดในประเทศไทยโดยมีบิดาที่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองโดยชอบ ย่อมได้รับสัญชาติไทยและไม่อยู่ในข่ายที่จะถูกเพิกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 337 แม้มารดาของบุคคลเหล่านั้นจะเป็นคนต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองก็ตาม.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมผูกพันทายาท การอ้างการครอบครองปรปักษ์ทำลายข้อตกลงไม่ได้
โจทก์และบิดาจำเลยถือกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วมกัน ต่อมาได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมต่อเจ้าพนักงานที่ดินโดยบันทึกข้อตกลงแบ่งแยกให้บิดาจำเลยได้เนื้อที่ 1 ใน 5 ส่วน โจทก์และบิดาจำเลยลงชื่อไว้ บันทึกนี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และเป็นข้อตกลงเรื่องแบ่งกรรมสิทธิ์รวมระหว่างเจ้าของรวมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1364 จึงผูกพันโจทก์และบิดาจำเลย เมื่อบิดาจำเลยตายจำเลยรับมรดกที่ดินมาก็ย่อมผูกพันจำเลยด้วย การที่โจทก์อ้างว่าต้องแบ่งตามที่โจทก์ครอบครอง เป็นการขัดกับข้อความในบันทึกข้อตกลงส่วนที่โจทก์ยื่นคำขอยกเลิกคำขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวม โดยกระทำไปฝ่ายเดียวอ้างว่าบิดาจำเลยตายแล้วนั้น ไม่มีผลทำให้ข้อตกลงเรื่องแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมระงับไปเพราะจำเลยซึ่งเป็นทายาทมิได้ยินยอม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 183/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อตกลงแบ่งกรรมสิทธิ์รวมผูกพันทายาท การยกเลิกข้อตกลงโดยฝ่ายเดียวทำไม่ได้หากทายาทไม่ยินยอม
โจทก์และบิดาจำเลยถือกรรมสิทธิ์ที่ดินร่วมกัน ต่อมาได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมต่อเจ้าพนักงานที่ดินโดยบันทึกข้อตกลงแบ่งแยกให้บิดาจำเลยได้เนื้อที่ 1 ใน 5 ส่วน โจทก์และบิดาจำเลยลงชื่อไว้ บันทึกนี้เป็นสัญญาประนีประนอมยอมความตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 850 และเป็นข้อตกลงเรื่องแบ่งกรรมสิทธิ์รวมระหว่างเจ้าของรวมตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1364 จึงผูกพันโจทก์และบิดาจำเลย เมื่อบิดาจำเลยตายจำเลยรับมรดกที่ดินมาก็ย่อมผูกพันจำเลยด้วย การที่โจทก์อ้างว่าต้องแบ่งตามที่โจทก์ครอบครอง เป็นการขัดกับข้อความในบันทึกข้อตกลง ส่วนที่โจทก์ยื่นคำขอยกเลิกคำขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวมโดยกระทำไปฝ่ายเดียวอ้างว่าบิดาจำเลยตายแล้วนั้น ไม่มีผลทำให้ข้อตกลงเรื่องแบ่งแยกกรรมสิทธิ์รวมระงับไปเพราะจำเลยซึ่งเป็นทายาทมิได้ยินยอม.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฉ้อโกงประชาชน: ศาลไม่ต้องปรับบทลงโทษซ้ำหากลงโทษตามมาตราอื่นแล้ว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงประชาชนโดยอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,343 ดังนี้ เมื่อศาลลงโทษจำเลยตามมาตรา 343 แล้ว ก็ไม่ต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา 341 อีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงประชาชนจัดส่งคนงานต่างประเทศ: จำเลยมีความผิดฐานฉ้อโกงตามมาตรา 343 ไม่ต้องปรับบทมาตรา 341
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานฉ้อโกงประชาชนโดยอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 341,343 ดังนี้ เมื่อศาลลงโทษจำเลยตามมาตรา 343 แล้ว ก็ไม่ต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา 341 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 123/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีเรียกราคาซื้อขายที่ดิน: เจ้าของที่ดินแปลงใดมีสิทธิฟ้องเรียกราคาเฉพาะที่ดินแปลงนั้น
แม้โจทก์ทั้งสองทำสัญญาจะขายที่ดินสองแปลงให้จำเลยในสัญญาฉบับเดียวกัน แปลงแรกโฉนดเลขที่ 89385 เป็นชื่อโจทก์ที่ 1 แปลงที่สองโฉนดเลขที่ 89384 เป็นชื่อโจทก์ที่ 2 ในราคา 2,000,000 บาทและ 600,000 บาท ตามลำดับ โจทก์ที่ 1 ได้จดทะเบียนโอนที่ดินโฉนดเลขที่ 89385 ให้จำเลยเรียบร้อยแล้ว แต่จำเลยยังชำระราคาไม่ครบ โจทก์ทั้งสองจึงฟ้องเรียกราคาที่ดินแปลงของโจทก์ที่ 1เช่นนี้ โจทก์ที่ 1 แต่ผู้เดียวมีอำนาจฟ้อง ส่วนโจทก์ที่ 2 หามีส่วนได้เสียไม่ และไม่มีสิทธิที่จะได้รับชำระราคาที่ดิน โจทก์ที่ 2 จึงมิได้ถูกโต้แย้งสิทธิ จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 117/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเลิกสัญญาเช่าโดยไม่ชอบธรรมหลังผู้เช่าเสียชีวิต ทายาทมีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ให้เช่าและผู้เช่ารายใหม่
การที่จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นภรรยาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายของผู้ตายและไม่ใช่ทายาท กับจำเลยที่ 2 ผู้ให้เช่า ทำการจดทะเบียนเลิกสัญญาเช่าที่ผู้ตายทำขึ้นโดยทราบดีว่ามีข้อสัญญาว่าถ้าผู้เช่าวายชนม์ ให้สิทธิและหน้าที่ของผู้เช่าตกทอดไปยังทายาทของผู้เช่านั้น เป็นการร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ซึ่งเป็นทายาทของผู้ตาย.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดหลายกรรม: ครอบครองกัญชา vs. นำสิ่งของต้องห้ามเข้าเรือนจำ
ความผิดฐานมีกัญชาไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตกับความผิดฐานนำสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำ เป็นความผิดต่อกฎหมายคนละฉบับ ซึ่งอาศัยเจตนาในการกระทำผิดแตกต่างแยกจากกันได้ สำหรับความผิดฐานมีกัญชาไว้ในครอบครองนั้น สาระสำคัญอยู่ที่การไม่ได้รับอนุญาตตามกฎหมายจำเลยมีกัญชาไว้ในครอบครองเมื่อใด ก็เกิดเป็นความผิดสำเร็จขึ้นเมื่อนั้นส่วนการนำกัญชาซึ่งเป็นสิ่งของต้องห้ามเข้าไปในเรือนจำ ย่อมเป็นความผิดเมื่อจำเลยฝ่าฝืนนำเข้าไป ซึ่งเป็นการกระทำอีกกรรมหนึ่งต่างหากเพราะจำเลยมีเจตนาที่แยกต่างหากจากการกระทำผิดฐานแรก แม้กัญชาของกลางในความผิดทั้งสองฐานนี้เป็นจำนวนเดียวกันก็ตามการที่จำเลยมีกัญชาไว้ในความครอบครองและนำกัญชาดังกล่าวเข้าไปในเรือนจำ จึงเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน.
of 120