พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,197 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2622/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจทนายรับเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความ: การมอบหมายโดยปริยายและการผูกพันตามกฎหมาย
ทนายโจทก์มีอำนาจทำสัญญาประนีประนอมยอมความแทนโจทก์ได้และปรากฏในสัญญาประนีประนอมยอมความว่าจำเลยได้ชำระเงินงวดแรกให้แก่โจทก์ต่อหน้าศาลในวันทำสัญญา เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความ ข้อสัญญายอมเช่นนี้ย่อมชี้ ให้เห็นเจตนาของโจทก์ และทนายโจทก์ชัดแจ้งแล้วว่าตัวโจทก์ได้มอบหมายให้ทนายโจทก์รับเงินงวดแรกที่จำเลยชำระต่อหน้าศาลด้วย ถือได้ว่าโจทก์ได้มอบหมายให้ทนายโจทก์รับเงินงวดแรกแทนโจทก์ด้วย การรับเงินในกรณีเช่นนี้กฎหมายมิได้บังคับว่าจะต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ ทั้งไม่ใช่การรับเงินจากศาลอันจะต้องทำเป็นหนังสือตาม ป.วิ.พ. มาตรา 63 การที่จำเลยชำระเงินงวดแรกให้แก่ทนายโจทก์ต่อหน้าศาลเช่นนี้จึงผูกพันโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2622/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจทนายรับเงินแทนเจ้าหนี้ในสัญญาประนีประนอมยอมความ ถือเป็นการผูกพันเจ้าหนี้
ปรากฏในสัญญาประนีประนอมยอมความว่าจำเลยได้ชำระเงินงวดแรกให้แก่โจทก์ต่อหน้าศาลในวันทำสัญญา เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันทำสัญญาประนีประนอมยอมความย่อมถือได้ว่าโจทก์ได้มอบหมายให้ทนายโจทก์รับเงินงวดแรกแทนโจทก์ด้วยและการรับเงินในกรณีเช่นนี้กฎหมายมิได้บังคับว่าจะต้องทำเป็นหนังสือหรือมีหลักฐานเป็นหนังสือ ทั้งมิใช่การรับเงินจากศาลอันจะต้องทำเป็นหนีงสือ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 63การที่จำเลยชำระเงินงวดแรกให้แก่ทนายโจทก์ต่อหน้าศาลจึงผูกพันโจทก์ผู้เป็นเจ้าหนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐาน: เอกสารที่ไม่ซักค้านในชั้นสืบพยานย่อมไม่รับฟัง
จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อน ขณะจำเลยเบิกความโจทก์มิได้นำเอกสารซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยเป็นผู้ทำขึ้นเองมาถามค้านจำเลยไว้เลย เมื่อตัวโจทก์เบิกความถึงและอ้างส่งเอกสารจำเลยก็คัดค้านว่าศาลไม่ควรรับฟังเอกสารฉบับนี้ เพราะโจทก์ไม่ได้ซักค้านในขณะที่จำเลยเข้าเบิกความ จำเลยไม่มีโอกาสอธิบาย ดังนี้ศาลไม่รับฟังเอกสารดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2599/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังเอกสารประกอบพยานหลักฐาน การนำสืบ และการคัดค้านพยาน
จำเลยเป็นฝ่ายนำสืบก่อน ขณะจำเลยเบิกความโจทก์มิได้นำเอกสารซึ่งโจทก์อ้างว่าจำเลยเป็นผู้ทำขึ้นเองมาถามค้านจำเลยไว้เลย เมื่อตัวโจทก์เบิกความถึงและอ้างส่งเอกสารจำเลยก็คัดค้านว่าศาลไม่ควรรับฟังเอกสารฉบับนี้ เพราะโจทก์ไม่ได้ซักค้านในขณะที่จำเลยเข้าเบิกความ จำเลยไม่มีโอกาสอธิบาย ดังนี้ศาลไม่รับฟังเอกสารดังกล่าวตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 89
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2598/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับรายงานการสาบานต่อหน้าศาล มีผลผูกพันจำเลย แม้จะอ้างว่าคำสาบานนอกเหนือข้อตกลง
โจทก์จำเลยตกลงท้ากันว่า หาก ป. หุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์สาบานได้ว่า จำเลยนำเช็คตามฟ้องมาแลกเงินสดจากโจทก์ตามฟ้องจำเลยยอมแพ้คดี หากป.ไม่ยอมสาบานไม่ว่าแห่งหนึ่งแห่งใด โจทก์ยอมแพ้คดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลได้รายงานต่อศาลว่าได้กล่าวคำสาบานและ ป. กล่าวคำสาบานตามที่คู่ความตกลงกันไว้แล้ว เมื่อจำเลยซึ่งไปฟังการสาบานได้ลงลายมือชื่อไว้โดยไม่ปรากฏข้อทักท้วงต่อเจ้าหน้าที่ศาลว่า ป. กล่าวถ้อยคำนอกเหนือจากที่มีการตกลงกัน จึงถือได้ว่าจำเลยรับรองความถูกต้องของรายงานเจ้าหน้าที่นั้นแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2598/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับรองรายงานเจ้าหน้าที่ศาลจากการลงลายมือชื่อโดยไม่โต้แย้งถือเป็นการยอมรับความถูกต้อง
โจทก์จำเลยตกลงท้ากันว่า หาก ป. หุ้นส่วนผู้จัดการโจทก์สาบานได้ว่า จำเลยนำเช็คตามฟ้องมาแลกเงินสดจากโจทก์ตามฟ้องจำเลยยอมแพ้คดีหากป.ไม่ยอมสาบานไม่ว่าแห่งหนึ่งแห่งใดโจทก์ยอมแพ้คดี ต่อมาเจ้าหน้าที่ศาลได้รายงานต่อศาลว่าได้กล่าวคำสาบานและ ป. กล่าวคำสาบานตามที่คู่ความตกลงกันไว้แล้ว เมื่อจำเลยซึ่งไปฟังการสาบานได้ลงลายมือชื่อไว้โดยไม่ปรากฏข้อทักท้วงต่อเจ้าหน้าที่ศาลว่า ป. กล่าวถ้อยคำนอกเหนือจากที่มีการตกลงกัน จึงถือได้ว่าจำเลยรับรองความถูกต้องของรายงานเจ้าหน้าที่นั้นแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับรางวัลสลากกินแบ่ง แม้สลากหายไป หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นเจ้าของสลาก
เงื่อนไขการรับรางวัลที่ได้ระบุไว้ด้านหลังสลากกินแบ่งทุกฉบับว่าเงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ เป็นข้อกำหนดที่มี ไว้เพื่อจะจ่ายเงินให้เจ้าของสลากกินแบ่งที่แท้จริงป้องกันผู้ทุจริตแอบอ้างมารับเงินรางวัล เพื่อให้มีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัลเท่านั้น ไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหายไป เมื่อโจทก์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัล โจทก์จึงมีสิทธิที่จะได้รับรางวัลสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะอ้างข้อกำหนดนี้เพื่อไม่จ่ายเงินรางวัลให้แก่โจทก์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2578/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับรางวัลสลากกินแบ่ง แม้สลากหาย หากพิสูจน์ได้ว่าเป็นเจ้าของสลาก
เงื่อนไขการรับรางวัลที่ได้ระบุไว้ด้านหลังสลากกินแบ่งทุกฉบับว่าเงินรางวัลจะจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลนำมาขอรับ เป็นข้อกำหนดที่มี ไว้เพื่อจะจ่ายเงินให้เจ้าของสลากกินแบ่งที่แท้จริงป้องกันผู้ทุจริตแอบอ้างมารับเงินรางวัล เพื่อให้มีหลักฐานในการที่จะจ่ายเงินให้แก่ผู้ถูกรางวัลเท่านั้น ไม่ใช่ข้อกำหนดที่จะไม่จ่ายเงินรางวัลแก่ผู้ถูกรางวัลที่สลากหายไป เมื่อโจทก์เป็นเจ้าของสลากกินแบ่งที่ถูกรางวัล โจทก์จึงมีสิทธิที่จะได้รับรางวัลสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลจะอ้างข้อกำหนดนี้เพื่อไม่จ่ายเงินรางวัลให้แก่โจทก์หาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดเกี่ยวกับไม้หวงห้าม ปริมาณไม้ และบทบัญญัติที่ใช้ลงโทษ
พระราชบัญญัติป่าไม้ มาตรา 73 เป็นบทลงโทษของมาตรา 48 เมื่อจำเลยไม่มีความผิดตามมาตรา 48 แล้ว จะลงโทษตามมาตรา 73ไม่ได้มาตรา 73 วรรคสอง ข้อ (1) เป็นบทบัญญัติที่ให้ลงโทษหนักขึ้นสำหรับความผิดที่เกี่ยวกับไม้สัก ไม้ยาง หรือไม้หวงห้ามประเภท ข. แต่ในกรณีที่เป็นไม้ยางหรือไม้หวงห้ามประเภท ข.ที่ไม่ใช่ไม้สักแล้วจะต้องมีปริมาตรไม้เป็นจำนวนเกินกว่า0.20 ลูกบาศก์เมตร ผู้กระทำจึงจะต้องรับโทษหนักขึ้นตามบทกฎหมายดังกล่าว คดีนี้จำเลยเพียงมีไม้ยางแปรรูปปริมาตรไม่เกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตรจำเลยย่อมไม่ต้องรับโทษตามมาตรา 73วรรคสอง ข้อ (1) แม้เมื่อรวมกับไม้ตะเคียนหินแปรรูปซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก.แล้วจะมีปริมาตรเกินกว่า 0.20 ลูกบาศก์เมตรก็ตาม.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2537/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ กรณีมีไม้หวงห้ามและไม้อื่นรวมเกิน 0.20 ลบ.ม. ศาลยืนโทษตามมาตรา 73 วรรคแรก
จำเลยมีไม้ตะเคียน หินแปรรูป ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก.ปริมาตร 0.37 ลูกบาศก์เมตร กับไม้ยางแปรรูปปริมาตร 0.09ลูกบาศก์เมตรไว้ในความครอบครอง รวมเป็นปริมาตรไม้ทั้งสิ้น0.46 ลูกบาศก์เมตร ดังนี้หากจำเลยมีแต่เพียงไม้ยางอย่างเดียวปริมาตรไม่เกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร จำเลยย่อมจะไม่มีความผิดตามมาตรา 48 การที่จำเลยมีไม้หวงห้ามแปรรูปประเภท ก. ด้วย ทำให้ปริมาตรไม้ทั้งหมดเกิน 0.20 ลูกบาศก์เมตร จำเลยไม่ต้องได้รับโทษหนักขึ้นตามมาตรา 73 วรรคสอง (1) คงลงโทษจำเลยตามมาตรา 73วรรคแรกเท่านั้น.