คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมศักดิ์ เกิดลาภผล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,197 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2113-2114/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิครอบครองที่ดินเช่า: การครอบครองโดยอาศัยสิทธิเช่าของผู้อื่น ไม่อาจอ้างสิทธิครอบครองยันเจ้าของที่ดินได้
ที่ดินที่ ส. เช่าและให้จำเลยที่ 2 ผู้เป็นบุตรปลูกบ้านอยู่ เป็นที่ดินซึ่งอยู่ติดกับที่ดินของโจทก์ด้านทิศเหนือแม้ที่ดินเฉพาะตรงที่จำเลยที่ 2 ปลูกบ้านอยู่นี้จะเป็นที่ดินนอกโฉนดของโจทก์แต่ก็เป็นที่ดินที่โจทก์มีสิทธิครอบครอง และ ส.ก็ยอมรับสิทธิของ ม.ผู้ซึ่งครอบครองที่ดินแทนโจทก์โดยการทำสัญญาเช่าที่ดินดังกล่าวจาก ม.ทั้งการที่จำเลยที่ 2 ปลูกบ้านอยู่ก็โดยอาศัยสิทธิการเช่าของ ส.จึงไม่อาจอ้างสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทส่วนนี้ยันโจทก์ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2112/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำหลังมีคำพิพากษา – บทบัญญัติมาตรา 296 ทวิ
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนครัวที่รุกล้ำออกจากที่ดินของโจทก์ ถ้าจำเลยไม่รื้อถอนให้โจทก์รื้อถอนได้โดยค่าใช้จ่ายเป็นของจำเลย ปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่10) พ.ศ. 2527 ออกใช้บังคับซึ่งมาตรา 12 ให้เพิ่มเติมบทมาตรา 296 ทวิ เป็นว่า'ในกรณีที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาถูกพิพากษาให้ขับไล่ หรือต้องออกไป หรือต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยหรือทรัพย์ที่ครอบครอง ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามคำบังคับเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะยื่นคำขอฝ่ายเดียว โดยทำเป็นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้จัดการให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเข้าครอบครองทรัพย์ดังกล่าว' ดังนั้นโจทก์จึงชอบที่จะร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการรื้อถอนครัวของจำเลยที่รุกล้ำออกไปได้ จะให้โจทก์รื้อถอนเองโดยให้ศาลบังคับให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2112/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างรุกล้ำและการบังคับคดีตามกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยรื้อถอนครัวที่รุกล้ำออกจากที่ดินของโจทก์ถ้า จำเลยไม่รื้อถอน ให้โจทก์หรือคนที่มอบหมายจากโจทก์รื้อถอนโดยค่าใช้จ่ายเป็นของจำเลย ศาลชั้นต้นพิพากษาตามที่โจทก์ขอในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มี พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.พ.มาตรา 12 ให้เพิ่มเติมบทมาตรา 296 ทวิ โจทก์จึงชอบที่จะร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการรื้อถอนครัวของจำเลยที่รุกล้ำออกไปได้จะให้โจทก์รื้อเองโดยให้ศาลบังคับให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2112/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง: เจ้าหนี้มีสิทธิขอศาลสั่งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการแทนตนเองตาม พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมวิธีพิจารณาความแพ่ง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยขอให้ศาลพิพากษาให้จำเลยรื้อถอนครัวที่รุกล้ำออกจากที่ดินของโจทก์ ถ้าจำเลยไม่รื้อถอนให้โจทก์รื้อถอนได้โดยค่าใช้จ่ายเป็นของจำเลย ปรากฏว่าในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ได้มีพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่10) พ.ศ. 2527 ออกใช้บังคับซึ่งมาตรา 12 ให้เพิ่มเติมบทมาตรา 296 ทวิ เป็นว่า 'ในกรณีที่ลูกหนี้ตามคำพิพากษาถูกพิพากษาให้ขับไล่ หรือต้องออกไป หรือต้องรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจากอสังหาริมทรัพย์ ที่อยู่อาศัยหรือทรัพย์ที่ครอบครอง ถ้าลูกหนี้ตามคำพิพากษาไม่ปฏิบัติตามคำบังคับเจ้าหนี้ตามคำพิพากษาชอบที่จะยื่นคำขอฝ่ายเดียว โดยทำเป็นคำร้องต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีให้จัดการให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษาเข้าครอบครองทรัพย์ดังกล่าว' ดังนั้นโจทก์จึงชอบที่จะร้องขอต่อศาลให้มีคำสั่งตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการรื้อถอนครัวของจำเลยที่รุกล้ำออกไปได้ จะให้โจทก์รื้อถอนเองโดยให้ศาลบังคับให้จำเลยเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2022/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกันภัยรถบรรทุกรวมสาลี่: สาลี่ถือเป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์ที่ได้รับประกัน
รถยนต์บรรทุกที่จำเป็นต้องพ่วงสาลี่ เพื่อความสะดวกในการบรรทุกของ เมื่อสาลี่ พ่วงอยู่กับรถยนต์บรรทุกย่อมถือได้ว่าสาลี่เป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์บรรทุก การที่สาลี่ ของรถยนต์บรรทุกคันที่จำเลยรับประกันภัยค้ำจุนไว้เลื่อนหลุดไปทำความเสียหายให้รถยนต์คันอื่น จำเลยจะอ้างว่าไม่ได้รับประกันภัยสาลี่ ด้วยเพื่อให้หลุดพ้นจากความรับผิดหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2022/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยรถยนต์ครอบคลุมถึงส่วนประกอบที่จำเป็น เช่น สาลี่ที่ใช้ในการบรรทุก หากส่วนประกอบนั้นหลุดทำให้เกิดความเสียหาย ผู้รับประกันภัยต้องรับผิดชอบ
จำเลยที่ 3 รับประกันรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 ไว้รถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 จำเป็นต้องพ่วงสาลี่เพื่อความสะดวกในการบรรทุกของสาลี่ที่พ่วงอยู่กับรถยนต์บรรทุกย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์บรรทุกด้วย เมื่อสาลี่ของรถยนต์บรรทุกที่จำเลยที่ 3 รับประกันเลื่อนหลุดมาทำให้รถยนต์ผู้อื่นเสียหายจำเลยที่ 3 จะอ้างว่าไม่ได้รับประกันสาลี่ด้วยเพื่อให้พ้นจากความรับผิดตามสัญญาประกันภัยหาได้ไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2022/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันภัยครอบคลุมถึงส่วนประกอบที่จำเป็นของรถยนต์ แม้ไม่ได้ระบุชัดเจน การหลุดของสาลี่ถือเป็นความเสียหายที่ประกันภัยคุ้มครอง
จำเลยที่ 3 รับประกันรถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 ไว้รถยนต์บรรทุกของจำเลยที่ 1 จำเป็นต้องพ่วงสาลี่เพื่อความสะดวกในการบรรทุกของสาลี่ที่พ่วงอยู่กับรถยนต์บรรทุกย่อมถือเป็นส่วนหนึ่งของรถยนต์บรรทุกด้วย เมื่อสาลี่ของรถยนต์บรรทุกที่จำเลยที่ 3 รับประกันเลื่อนหลุดมาทำให้รถยนต์ผู้อื่นเสียหายจำเลยที่ 3 จะอ้างว่าไม่ได้รับประกันสาลี่ด้วยเพื่อให้พ้นจากความรับผิดตามสัญญาประกันภัยหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2017/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาต้องห้าม: การฎีกาข้อเท็จจริงที่จำเลยไม่ได้ยกขึ้นต่อสู้ในศาลชั้นต้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่าของกลางเป็นสิ่งลามกอนาจาร จำเลยให้การรับสารภาพ จึงต้องฟังข้อเท็จจริงว่าของกลางเป็นสิ่งลามกอนาจาร เมื่อศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลย และจำเลยอุทธรณ์เพียงขอให้ศาลอุทธรณ์รอการลงโทษจำคุกการที่จำเลยฎีกาต่อมาว่าของกลางไม่ใช่สิ่งลามกอนาจารจึงเป็นการยกข้อเท็จจริงที่จำเลยมิได้โต้เถียงไว้ในศาลชั้นต้นขึ้นมาอ้าง และเป็นการฎีกาข้อเท็จจริงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ป้องกันเกินสมควร: การใช้มีดแทงเพื่อป้องกันการลวนลามทางเพศในสถานการณ์ที่ผู้กระทำอยู่ในอาการมึนเมา
ผู้ตายหลอกลวงจำเลยว่า บุตรจำเลยป่วยหนัก สามีจำเลยให้ผู้ตายมารับจำเลยไป ผู้ตายขับพาไปถึงที่เปลี่ยวแล้วลวนลามจำเลย จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายอย่างแรง ถูกอวัยวะสำคัญขณะนั้นจำเลยอยู่ในสภาพแต่งกายเรียบร้อยผู้ตายก็ยังนุ่งกางเกงอยู่ ผู้ตายจึงคงลวนลามโดยกอดจูบเท่านั้น ไม่ถึงขั้นจะข่มขืนกระทำชำเราจำเลย กรณียังไม่พอถือว่าเป็นภยันตรายที่จะใกล้จะถึงสำหรับการจะถูกข่มขืนกระทำชำเรา คงเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงเฉพาะที่ผู้ตายกระทำอนาจารเท่านั้นในขณะที่ผู้ตายกอดปล้ำจำเลย ผู้ตายอาเจียนจำเลยยังดิ้นหลุดออกไปได้บ้างแต่ผู้ตายก็เข้ามากอดปล้ำอีก แสดงว่าผู้ตายเมาสุรามากจนแทบจะครองสติไม่ได้จำเลยอาจกระทำการใดเพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องให้ผู้ตายถึงตายก็ได้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายในที่สำคัญจนผู้ตายถึงแก่ความตายจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 69.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การป้องกันตัวเกินสมควรแก่เหตุจากการลวนลามทางเพศ ศาลฎีกาพิจารณาจากพฤติการณ์และสภาพจิตของผู้กระทำ
จำเลยกับผู้ตายไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกัน ผู้ตายเคยสู่ขอจำเลยเป็นภริยาแต่จำเลยไม่ตกลงด้วย ในวันเกิดเหตุผู้ตายเมาสุรามากได้หลอกลวงจำเลยว่าบุตรของจำเลยป่วยหนัก สามีจำเลยให้ผู้ตายมารับจำเลยจำเลยจึงยอมนั่งรถจักรยานยนต์ไปกับผู้ตาย เมื่อไปถึงที่เปลี่ยวผู้ตายลวนลามจำเลยด้วยการกอดปล้ำจำเลย จำเลยใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ทีถูกที่อวัยวะสำคัญ ซึ่งขณะนั้นจำเลยอยู่ในสภาพแต่ง กายเรียบร้อยผู้ตายก็ยังนุ่งกางเกงอยู่ กรณียังไม่พอถือว่า เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงสำหรับการจะถูกข่มขืนกระทำชำเรา เป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงเฉพาะ ที่ผู้ตายกระทำอนาจารเท่านั้นและจำเลยอาจกระทำการใด เพื่อป้องกันโดยไม่จำต้องให้ผู้ตายถึงตาย ก็ได้ การที่จำเลยใช้มีดแทงผู้ตายดังกล่าวจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรกว่าเหตุ.
of 120