คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมประสงค์ พานิชอัตรา

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 206 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1738/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่า vs. ทำร้ายร่างกายสาหัส: การพิจารณาความผิดฐานพยายามฆ่าจากพฤติการณ์และการกระทำ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยใช้มีดปลายแหลมแทงผู้เสียหายหลายทีโดยเจตนาฆ่าจำเลยลงมือกระทำความผิดไปตลอดแล้วแต่การกระทำนั้นไม่บรรลุผลผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย เพียงแต่ได้รับบาดเจ็บสาหัสป่วยเจ็บด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า 20 วัน และประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่า 20 วัน ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 288, 297 คำบรรยายฟ้องดังกล่าวยืนยันเจตนาในการกระทำผิดของจำเลยว่ามีเจตนาฆ่าผู้เสียหายแต่เพียงสถานเดียวส่วนที่บรรยายต่อมาว่าผู้เสียหายเพียงแต่ได้รับอันตรายแก่กายสาหัสนั้น เป็นแต่เพียงผลที่เกิดจากความผิดฐานเจตนาฆ่าผู้เสียหายเท่านั้น แม้โจทก์จะอ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 มาในคำขอท้ายฟ้องด้วย ก็เป็นการขอตามผลที่เกิดจากการกระทำผิดของจำเลย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของความผิดตามที่โจทก์บรรยายยืนยันมาแล้วเท่านั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288,80,78 จำคุก 6 ปี 8 เดือนศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297, 78 จำคุก 2 ปีเป็นการพิพากษาแก้ทั้งบทและแก้ทั้งโทษ จึงเป็นการแก้ไขมากโจทก์ย่อมมีสิทธิฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
จำเลยใช้มีดปลายแหลม 2 คม เฉพาะตัวมีดยาว 17 เซนติเมตรกว้าง 2 เซนติเมตรแทงผู้เสียหายครั้งแรกถูกที่โคนแขนซ้ายเพราะผู้เสียหายเอี้ยวหลบทันเป็นการแทงในระดับทรวงอกที่มีอวัยวะส่วนสำคัญของร่างกาย เมื่อผู้เสียหายวิ่งหนี จำเลยยังวิ่งไล่ตามและแทงซ้ำอีกที่ด้านหลังถูกบริเวณเอวจนคมมีดทะลุลำไส้ใหญ่ แสดงว่าเป็นการแทงโดยแรง ผู้เสียหายต้องวิ่งหนีและร้องเรียกให้คนช่วย จำเลยจึงได้หลบหนีไป แพทย์ผู้ตรวจเบิกความว่าบาดแผลของผู้เสียหายหากรักษาไม่ทันท่วงทีอาจถึงแก่ความตายได้และจะต้องใช้เวลารักษาประมาณ 60 วันพฤติการณ์ดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า จำเลยแทงผู้เสียหายโดยมีเจตนาฆ่า

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1715/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการข่มขืนกระทำชำเรา: การกระทำที่สนับสนุนและถือว่าเป็นการร่วมกระทำผิด
ก่อนเกิดเหตุจำเลยอยู่ในกลุ่มของพวกที่ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหาย และขณะเกิดเหตุจำเลยนั่งอยู่กับพวกที่โต๊ะใกล้ห้องน้ำที่เกิดเหตุถือเสื้อให้เพื่อนที่เข้าไปข่มขืนกระทำชำเรา และเพื่อดูเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วแจ้งเหตุร้ายแก่ผู้กระทำผิด ถือได้ว่าจำเลยร่วมกระทำผิดแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1715/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความร่วมมือในการข่มขืนกระทำชำเรา: การสนับสนุนและรู้เห็นการกระทำผิด
ก่อนเกิดเหตุจำเลยอยู่ในกลุ่มของพวกที่ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายและขณะเกิดเหตุจำเลยนั่งอยู่กับพวกที่โต๊ะใกล้ห้องน้ำที่เกิดเหตุถือเสื้อให้เพื่อนที่เข้าไปข่มขืนกระทำชำเราและเพื่อดูเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้วแจ้งเหตุร้ายแก่ผู้กระทำผิดถือได้ว่าจำเลยร่วมกระทำผิดแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจหน้าที่เจ้าพนักงานเลือกตั้งในการจัดการสิ่งพิมพ์หาเสียงนอกที่เลือกตั้ง และขอบเขตความรับผิดชอบของเจ้าพนักงานท้องถิ่น
สิ่งพิมพ์ตามกฎหมายว่าด้วยการพิมพ์ แผ่นประกาศ หรือสิ่งอื่นใดซึ่งใช้ในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งแม้จะเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือพรรคการเมืองใดก็ตามหากมิได้มีอยู่ภายในที่เลือกตั้งซึ่งเป็นสถานที่ที่กำหนดให้ทำการลงคะแนนเลือกตั้งรวมถึงบริเวณที่กำหนดขึ้นโดยรอบที่เลือกตั้งเจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งก็ไม่มีอำนาจทำลาย ปกปิด หรือนำออกไปตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522เมื่อคำฟ้องของโจทก์อ้างว่าแท็งก์น้ำของทางราชการซึ่งระบุชื่อ ป. และส.ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นตั้งอยู่ทั่วไปภายในเขตเลือกตั้ง มิใช่อยู่ภายในที่เลือกตั้ง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ การโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 10 วรรคสองผู้ที่มีหน้าที่ทำลายปกปิด ลบ หรือล้างข้อความ ภาพหรือรูปรอยดังกล่าวคือเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2503มาตรา 3 ซึ่งให้นิยามไว้ว่าในเขตเทศบาลหมายความว่านายกเทศมนตรีในเขตสุขาภิบาลหมายความว่าประธานกรรมการสุขาภิบาลและในท้องที่นอกเขตเทศบาลหรือสุขาภิบาลหมายความว่านายอำเภอจำเลยไม่ใช่นายกเทศมนตรี ประธานกรรมการสุขาภิบาล หรือนายอำเภอย่อมไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติการอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1695/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจเจ้าพนักงานเลือกตั้งในการจัดการสิ่งพิมพ์โฆษณาหาเสียงนอกสถานที่ลงคะแนน และความรับผิดชอบของเจ้าพนักงานท้องถิ่น
สิ่งพิมพ์ตามกฎหมายว่าด้วยการพิมพ์ แผ่นประกาศ หรือสิ่งอื่นใดซึ่งใช้ในการโฆษณาหาเสียงเลือกตั้ง แม้จะเป็นคุณหรือโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือพรรคการเมืองใดก็ตาม หากมิได้มีอยู่ภายในที่เลือกตั้งซึ่งเป็นสถานที่ที่กำหนดให้ทำการลงคะแนนเลือกตั้งรวมถึงบริเวณที่กำหนดขึ้นโดยรอบที่เลือกตั้ง เจ้าพนักงานผู้ดำเนินการเลือกตั้งก็ไม่มีอำนาจทำลาย ปกปิด หรือนำออกไปตามที่บัญญัติไว้ใน มาตรา 11 แห่งพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 เมื่อคำฟ้องของโจทก์อ้างว่าแท็งก์น้ำของทางราชการซึ่งระบุชื่อ ป. และ ส.ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นตั้งอยู่ทั่วไปภายในเขตเลือกตั้ง มิใช่อยู่ภายในที่เลือกตั้ง จึงถือไม่ได้ว่าจำเลยจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์
การโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งอันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2522 มาตรา 10 วรรคสอง ผู้ที่มีหน้าที่ทำลาย ปกปิด ลบ หรือล้างข้อความ ภาพ หรือรูปรอยดังกล่าวคือเจ้าพนักงานท้องถิ่นตามพระราชบัญญัติรักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2503 มาตรา 3 ซึ่งให้นิยามไว้ว่า ในเขตเทศบาลหมายความว่านายกเทศมนตรีในเขตสุขาภิบาลหมายความว่าประธานกรรมการสุขาภิบาล และในท้องที่นอกเขตเทศบาลหรือสุขาภิบาลหมายความว่านายอำเภอ จำเลยไม่ใช่นายกเทศมนตรี ประธานกรรมการสุขาภิบาล หรือนายอำเภอ ย่อมไม่มีหน้าที่ต้องปฏิบัติการอย่างใด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาทำร้ายร่างกายสาหัส: พฤติการณ์การทำร้าย, ลักษณะบาดแผล, และการขาดเจตนาฆ่า
ผู้เสียหายและจำเลยต่างมีสามีคนเดียวกันอยู่คนละบ้าน วันเกิดเหตุผู้เสียหายไปหาสามีที่บ้านจำเลยแล้วเกิดโต้เถียงกันในเรื่องหึงหวงสามี จำเลยจึงเอามีดทำครัวมาฟันผู้เสียหายในบ้านทันทีทันใดโดยมิได้คาดคิดมาก่อน ผู้เสียหายถูกจำเลยฟันมีบาดแผลที่หนังศีรษะและข้อศอกข้างขวาแล้วผู้เสียหายล้มลงหมดสติ จำเลยมีโอกาสเลือกฟันผู้เสียหายได้อีก แต่กลับไม่ฟันตรงอวัยวะสำคัญโดยฟันที่ขาข้างซ้ายด้านข้างของผู้เสียหาย บาดแผลทั้งหมดเสียเลือดไม่มาก ไม่ทำให้ถึงแก่ความตายคงมีเฉพาะบาดแผลที่ข้อศอกที่ทำให้ข้อศอกอาจใช้การไม่ได้เท่านั้น และปรากฏว่าใช้เวลารักษา1 เดือน 10 วันหาย เพียงเท่านี้ยังไม่พอที่จะแสดงให้เห็นเจตนาฆ่า จำเลยควรมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ทำร้ายร่างกายสาหัส: เจตนาฆ่าไม่ปรากฏ แม้ฟันหลายครั้ง แต่บาดแผลไม่รุนแรงถึงชีวิต
ผู้เสียหายและจำเลยต่างมีสามีคนเดียวกันอยู่คนละบ้านวันเกิดเหตุผู้เสียหายไปหาสามีที่บ้านจำเลยแล้วเกิดโต้เถียงกันในเรื่องหึงหวงสามีจำเลยจึงเอามีดทำครัวมาฟันผู้เสียหายในบ้านทันทีทันใดโดยมิได้คาดคิดมาก่อนผู้เสียหายถูกจำเลยฟันมีบาดแผลที่หนังศีรษะและข้อศอกข้างขวาแล้วผู้เสียหายล้มลงหมดสติจำเลยมีโอกาสเลือกฟันผู้เสียหายได้อีกแต่กลับไม่ฟันตรงอวัยวะสำคัญโดยฟันที่ขาข้างซ้ายด้านข้างของผู้เสียหายบาดแผลทั้งหมดเสียเลือดไม่มาก ไม่ทำให้ถึงแก่ความตายคงมีเฉพาะบาดแผลที่ข้อศอกที่ทำให้ข้อศอกอาจใช้การไม่ได้เท่านั้นและปรากฏว่าใช้เวลารักษา1 เดือน 10 วันหาย เพียงเท่านี้ยังไม่พอที่จะแสดงให้เห็นเจตนาฆ่าจำเลยควรมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายสาหัส ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 297

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รั้วบังแสงทางลมเกินควร ก่อความเสียหาย/เดือดร้อน เจ้าของที่ดินมีสิทธิรื้อได้ แม้ได้รับอนุญาต
รั้วที่จำเลยที่ 1 สร้างเป็นกำแพงทึบมีความสูงถึง 2.70 เมตรส่วนอีกสามด้านไม่ได้สร้างเช่นนั้น เมื่อพิจารณาถึงสภาพและตำแหน่งที่ตั้งอยู่ของบ้านโจทก์ซึ่งปลูกค่อนมาทางแนวเขตที่ดินด้านทิศใต้ติดต่อกับที่ดินที่จำเลยที่ 1 สร้างรั้วกำแพงทึบโดยชายคาชั้นล่างของบ้านโจทก์ด้านใกล้แนวเขตที่ดินมีความสูงจากพื้นดินระหว่าง 3 ถึง 3.10 เมตร และบ้านโจทก์ไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านชุมชนกลางเมืองประกอบกันแล้ว เห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้สร้างรั้วกำแพงทึบสูงเกินสมควร เป็นเหตุให้บังแสงสว่างและทางลมที่จะเข้าไปในห้องชั้นล่างของบ้านโจทก์เป็นบางส่วน ย่อมจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ข้างเคียง หรืออย่างน้อยก็ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญเกินกว่าที่ควรคาดคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเกิดขึ้นตามปกติ โจทก์จึงมีสิทธิที่จะปฏิบัติการเพื่อยังให้ความเสียหายหรือความเดือดร้อนรำคาญนั้นให้สิ้นไปได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337 แม้ว่ารั้วที่จำเลยที่ 1สร้างนั้นจะได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้วก็ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1510/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รั้วบังแสงทางลม ก่อความเดือดร้อนเกินควร เจ้าของที่ดินมีสิทธิรื้อได้ แม้ได้รับอนุญาต
รั้วที่จำเลยที่ 1 สร้างเป็นกำแพงทึบมีความสูงถึง 2.70เมตรส่วนอีกสามด้านไม่ได้สร้างเช่นนั้น เมื่อพิจารณาถึงสภาพและตำแหน่งที่ตั้งอยู่ของบ้านโจทก์ซึ่งปลูกค่อนมาทางแนวเขตที่ดินด้านทิศใต้ติดต่อกับที่ดินที่จำเลยที่ 1สร้างรั้วกำแพงทึบโดยชายคาชั้นล่างของบ้านโจทก์ด้านใกล้แนวเขตที่ดินมีความสูงจากพื้นดินระหว่าง 3 ถึง 3.10 เมตรและบ้านโจทก์ไม่ได้ตั้งอยู่ในย่านชุมชนกลางเมืองประกอบกันแล้วเห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 ได้สร้างรั้วกำแพงทึบสูงเกินสมควร เป็นเหตุให้บังแสงสว่างและทางลมที่จะเข้าไปในห้องชั้นล่างของบ้านโจทก์เป็นบางส่วนย่อมจะก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์ข้างเคียงหรืออย่างน้อยก็ก่อให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญเกินกว่าที่ควรคาดคิดหรือคาดหมายได้ว่าจะเกิดขึ้นตามปกติโจทก์จึงมีสิทธิที่จะปฏิบัติการเพื่อยังให้ความเสียหายหรือความเดือดร้อนรำคาญนั้นให้สิ้นไปได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1337แม้ว่ารั้วที่จำเลยที่ 1 สร้างนั้นจะได้รับอนุญาตจากทางราชการแล้วก็ ตาม

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1499/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฟ้องคดีอาญา จำเลยต้องกระทำความผิดตามที่บรรยายในฟ้อง หากศาลรับฟังพยานหลักฐานเกินกว่าที่กล่าวอ้างในฟ้อง เป็นการไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษฐานจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำและกระทำการปลอมปนน้ำมันที่จำหน่ายโดยบรรยายฟ้องว่า จำเลยซึ่งเป็นผู้ค้าน้ำมันร่วมกันจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเบนซินชนิดพิเศษซึ่งมีคุณภาพต่ำกว่าคุณภาพที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดและร่วมกันกระทำการปลอมปนน้ำมันดังกล่าวด้วยเป็นฟ้องที่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5) แล้ว โจทก์มิได้บรรยายในฟ้องถึงน้ำมันเชื้อเพลิงที่มีคุณภาพต่ำกว่าคุณภาพที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดไว้ในครอบครองมีปริมาณตั้งแต่ 200 ลิตรขึ้นไปเพื่อให้เข้าข้อสันนิษฐานของกฎหมายว่าจำเลยเป็นผู้กระทำการปลอมน้ำมันเชื้อเพลิงดังกล่าวเพื่อจำหน่ายโจทก์จึงจะนำสืบข้อเท็จจริงดังกล่าวหาได้ไม่และศาลก็รับฟังข้อเท็จจริงนั้นมาปรับบทกฎหมายซึ่งมิได้บรรยายมาในฟ้องไม่ได้
of 21