พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2,242 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3660/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฉ้อโกงประชาชน: เน้นเจตนาหลอกลวง ไม่จำกัดจำนวนผู้เสียหาย
การแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนในความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343 ไม่ถือเอาจำนวนผู้เสียหายที่ถูกหลอกลวงมากหรือน้อยเป็นหลัก แต่ถือเจตนาแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนเป็นสำคัญ เมื่อจำเลยได้หลอกลวงผู้เสียหายและบุคคลอื่นๆในท้องที่หลายจังหวัดให้มาสมัครไปทำงานต่างประเทศกับจำเลยโดยรับรองว่ามีงานให้ทำและจะได้ไปทำงานเร็ว เป็นเหตุให้ผู้เสียหายหลงเชื่อมาสมัครงานและชำระเงินให้ แต่จำเลยไม่สามารถจัดส่งไปทำงานและไม่ยอมคืนเงินแก่ผู้เสียหาย การกระทำของจำเลยเป็นการฉ้อโกงประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 343
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บ้านปลูกสร้างติดที่ดินของผู้อื่น แม้ถูกยึดเพื่อขายทอดตลาด ก็ยังถือเป็นอสังหาริมทรัพย์ และเปิดให้มีการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงได้
แม้บ้านพิพาทจะปลูกสร้างอยู่ในที่ดินของบุคคลอื่นและโจทก์ได้นำยึดขายทอดตลาดเพื่อให้ผู้ซื้อรื้อถอนเอาไป แต่สภาพของบ้าน ก่อนมีการรื้อถอนย่อมเป็นอสังหาริมทรัพย์เพราะได้ปลูกสร้างไว้ ติดกับที่ดิน ผู้ร้องขัดทรัพย์ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด จึงเป็นคดีเกี่ยวด้วย อสังหาริมทรัพย์ ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3497/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
บ้านแม้ปลูกบนที่ดินผู้อื่น ก็เป็นอสังหาริมทรัพย์ ยึดขายทอดตลาดได้ ผู้มีสิทธิอุทธรณ์ได้
แม้บ้านพิพาทจะปลูกสร้างอยู่ในที่ดินของบุคคลอื่นและโจทก์ได้นำยึดขายทอดตลาดเพื่อให้ผู้ซื้อรื้อถอนเอาไป แต่สภาพของบ้านก่อนมีการรื้อถอนย่อมเป็นอสังหาริมทรัพย์เพราะได้ปลูกสร้างไว้ติดกับที่ดิน ผู้ร้องขัดทรัพย์ขอให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึด จึงเป็นคดีเกี่ยวด้วย อสังหาริมทรัพย์ ไม่ต้องห้ามอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3486/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาและลักทรัพย์ ศาลพิพากษาจำคุกตลอดชีวิต ลดโทษตามกฎหมาย
จำเลยทั้งสองกับพวกดื่มสุราอยู่ด้วยกัน แล้วจำเลยที่ 2 ให้ผู้ตายดื่มสุรา ผู้ตายไม่ดื่ม พวกจำเลยพูดว่าถ้าไม่ดื่มจะถูกตบ ผู้เสียหายพูดว่าไม่ดื่มแค่นี้จะถูกตบด้วยหรือ จำเลยที่ 1 ใช้แก้วสุราตบหน้าผู้เสียหายจนล้มลงแล้วลุกขึ้น จำเลยที่ 1 ชักปืนออกมา ผู้ตายวิ่งหนีผู้เสียหายวิ่งตาม จำเลยที่ 1 ยิงปืน 2 นัด ถูก ผู้ตายถึงแก่ความตาย จากนั้นจำเลยที่ 1 ขับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายไป เมื่อถึงคอสะพานก็จอดให้จำเลยที่ 2นั่งซ้อนท้ายไปด้วย ดังนี้ การยิงผู้ตายและเอารถจักรยานยนต์ ของผู้เสียหายไปเป็นการกระทำของจำเลยที่ 1 เพียงผู้เดียว จำเลยที่ 2 มิได้ร่วมกระทำความผิดด้วย ทั้งเหตุที่ จำเลยที่ 1 ยิงผู้ตายก็เนื่องจากผู้ตายไม่ยอมดื่มสุรา มิใช่ประสงค์จะแย่งชิงรถของผู้เสียหาย การเอารถไปก็เพื่อ จะหลบหนีให้พ้นจากการจับกุมหลังจากที่ได้กระทำผิด ฐานฆ่าผู้ตาย จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานฆ่าผู้อื่นตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 และฐานลักทรัพย์ตาม มาตรา 335 ส่วนจำเลยที่ 2 ไม่มีความผิด