พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,313 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานบริการอาบน้ำนวด/อบตัว: การประเมินภาษีการค้าตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภท 4 ชนิด 2
โจทก์ประกอบกิจการเปิดบริการลูกค้ารวม 5 ประเภท ได้แก่การบริหารร่างกาย อบ ตัวด้วยไอน้ำแบบซาวน่า กระชับกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าเรียกว่า เอส.ซี. ลดตะโพกด้วยเครื่องสั่นและลดหน้าท้องเรียกว่า อาร์.ซี. และนวด ในสถานที่แห่งเดียวกันโดยคิดค่าบริการรวมกันตามจำนวนครั้งที่มารับบริการ กิจการของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการให้บริการในสถานอาบน้ำ นวด หรืออบ ตัวตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการหรือสถานนวด หรืออบ ตัวอย่างอื่นตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 4 ชนิด 2 โจทก์จะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 10ของรายรับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานบริการอาบน้ำนวดอบตัว: การประเมินภาษีการค้าจากรายรับรวม แม้แบ่งประเภทบริการ
โจทก์ประกอบกิจการเปิดบริการลูกค้ารวม 5 ประเภท ได้แก่การบริหารร่างกาย อบตัวด้วยไอน้ำแบบซาวน่า กระชับกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าเรียกว่าเอส.ซี ลดตะโพกด้วยเครื่องสั่นและลดหน้าท้องเรียกว่าอาร์.ซี และนวด ในสถานที่แห่งเดียวกันโดยคิดค่าบริการรวมกันตามจำนวนครั้งที่มารับบริการ กิจการของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการให้บริการ ในสถานอาบน้ำ นวดหรืออบตัวตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการหรือสถานนวดหรืออบตัวอย่างอื่นตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 4 ชนิด 2 โจทก์จะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 10 ของรายรับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สถานบริการอาบน้ำนวดอบตัว: การประเมินภาษีการค้าตามประเภทบริการที่รวมกัน
โจทก์ประกอบกิจการเปิดบริการลูกค้ารวม 5 ประเภท ได้แก่การบริหารร่างกาย อบตัวด้วยไอน้ำแบบซาวน่า กระชับกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าเรียกว่าเอส.ซี ลดตะโพกด้วยเครื่องสั่นและลดหน้าท้องเรียกว่าอาร์.ซี และนวด ในสถานที่แห่งเดียวกันโดยคิดค่าบริการรวมกันตามจำนวนครั้งที่มารับบริการ กิจการของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการให้บริการ ในสถานอาบน้ำ นวดหรืออบตัวตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการหรือสถานนวดหรืออบตัวอย่างอื่นตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 4 ชนิด 2 โจทก์จะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 10 ของรายรับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2374/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินโดยอาศัยอนุญาตจากเจ้าของ ไม่ก่อให้เกิดสิทธิครอบครองปรปักษ์ แม้ครอบครองนาน
ผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทโดยขออาศัยผู้คัดค้านเจ้าของที่ดินย่อมไม่ก่อให้เกิดสิทธิปรปักษ์กับเจ้าของที่ดิน แม้จะครอบครองนานเพียงใด ก็ไม่ได้สิทธิในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2374/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองที่ดินโดยขออาศัย ไม่ก่อให้เกิดสิทธิปรปักษ์ แม้ครอบครองนาน
ผู้ร้องครอบครองที่ดินพิพาทโดยขออาศัยผู้คัดค้านเจ้าของที่ดินย่อมไม่ก่อให้เกิดสิทธิปรปักษ์กับเจ้าของที่ดิน แม้จะครอบครองนานเพียงใด ก็ไม่ได้สิทธิในที่ดินโดยการครอบครองปรปักษ์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิป้องกันตัวชอบด้วยกฎหมาย: การป้องกันการจับกุมโดยไม่มีอำนาจ และการใช้กำลังเกินสมควร
ผู้ตายกับพวกจะเข้าไปจับกุมจำเลยในข้อหาทำร้ายร่างกายแต่การกระทำของจำเลยมิใช่ความผิดซึ่งหน้า ผู้ตายกับพวกเป็นเพียงราษฎรย่อมไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะจับกุมจำเลยได้โดยลำพังตามป.วิ.อ. มาตรา 79 จำเลยจึงมีสิทธิป้องกันเพื่อให้พ้นที่จะต้องถูกจับได้ แต่การที่จำเลยใช้เหล็กขูดชาฟท์ แทงผู้ตายถูกที่หน้าอกซ้ายส่วนล่างใต้ นมเหนือชายโครงถึงแก่ความตายในคืนเกิดเหตุนั้นเองแสดงว่าจำเลยแทงโดยแรงและเลือกแทงถูกที่อวัยวะสำคัญ โดยไม่ปรากฎว่าผู้ตายกับพวกมีอาวุธหรือแสดงอาการในลักษณะที่จะทำร้ายจำเลยนอกเหนือจากการกระทำเพื่อจับกุมเท่านั้น การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวที่เกินสมควรแก่เหตุ กรณีราษฎรไม่มีอำนาจจับกุมผู้กระทำผิด
กรณีที่มิใช่เป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า ราษฎรย่อมไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะจับกุมผู้กระทำความผิด ดังนั้น การที่ ข.กับผู้ตายซึ่งเป็นเพียงราษฎรจะเข้าจับกุมจำเลยภายหลังเกิดเหตุจำเลยทำร้ายผู้อื่นแล้ว จำเลยย่อมมีสิทธิป้องกันเพื่อให้พ้นจากการที่จะต้องถูกจับได้ แต่การที่จำเลยใช้เหล็กขูดชาฟท์แทงผู้ตายที่หน้าอกส่วนล่างใต้นมเหนือชายโครงซ้าย และผู้ตายถึงแก่ความตายในคืนเกิดเหตุนั้นเอง แสดงว่าจำเลยแทงโดยแรง และเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยเลือกแทงที่อวัยวะสำคัญ โดยไม่ปรากฏว่า ช.กับผู้ตายมีอาวุธหรือแสดงอาการในลักษณะที่จะทำร้ายจำเลยนอกเหนือจากการกระทำเพื่อจับกุมจำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2353/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิป้องกันตัวชอบด้วยกฎหมายเมื่อถูกประชาชนจับกุมโดยไม่มีอำนาจ แต่การกระทำเกินสมควรแก่เหตุถือเป็นความผิด
กรณีที่มิใช่เป็นการกระทำความผิดซึ่งหน้า ราษฎรย่อมไม่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะจับกุมผู้กระทำความผิด ดังนั้น การที่ ข.กับผู้ตายซึ่งเป็นเพียงราษฎรจะเข้าจับกุมจำเลยภายหลังเกิดเหตุจำเลยทำร้ายผู้อื่นแล้ว จำเลยย่อมมีสิทธิป้องกันเพื่อให้พ้นจากการที่จะต้องถูกจับได้ แต่การที่จำเลยใช้เหล็กขูดชาฟท์แทงผู้ตายที่หน้าอกส่วนล่างใต้นมเหนือชายโครงซ้าย และผู้ตายถึงแก่ความตายในคืนเกิดเหตุนั้นเอง แสดงว่าจำเลยแทงโดยแรง และเป็นที่เห็นได้ว่าจำเลยเลือกแทงที่อวัยวะสำคัญ โดยไม่ปรากฏว่า ช.กับผู้ตายมีอาวุธหรือแสดงอาการในลักษณะที่จะทำร้ายจำเลยนอกเหนือจากการกระทำเพื่อจับกุมจำเลย การกระทำของจำเลยจึงเป็นการป้องกันเกินสมควรแก่เหตุ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2268/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาทหลายฉบับ: การลงโทษตามกรรมต่างกัน & ฟ้องไม่เคลือบคลุม
จำเลยออกเช็คพิพาทรวม 3 ฉบับ เพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์แม้ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินไปในวันเดียวกันทุกฉบับ แต่การออกเช็คดังกล่าวเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งจำเลยผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างกันได้การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าว จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรม ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นการยืนยันว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นชำระหนี้แม้จะมิได้ระบุว่าชำระหนี้ในมูลหนี้อะไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา.
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นการยืนยันว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นชำระหนี้แม้จะมิได้ระบุว่าชำระหนี้ในมูลหนี้อะไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2268/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: การออกเช็คหลายฉบับถือเป็นความผิดหลายกรรม และฟ้องไม่เคลือบคลุมหากระบุเจตนาชำระหนี้
จำเลยออกเช็คพิพาทรวม 3 ฉบับเพื่อชำระหนี้ให้แก่โจทก์แม้ธนาคารได้ปฏิเสธการจ่ายเงินไปในวันเดียวกันทุกฉบับ แต่การออกเช็คดังกล่าวเป็นการสั่งให้ธนาคารจ่ายเงินตามจำนวนและวันที่ที่ปรากฏในเช็ค ซึ่งจำเลยผู้ออกเช็คอาจมีเงินจ่ายตามเช็คหรือมีเจตนาให้ใช้เงินตามเช็คแต่ละฉบับหรือไม่แตกต่างกันได้การที่จำเลยออกเช็คหลายฉบับและธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินดังกล่าว จึงเป็นการกระทำผิดหลายกรรม ศาลต้องลงโทษจำเลยทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นการยืนยันว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นชำระหนี้แม้จะมิได้ระบุว่าชำระหนี้ในมูลหนี้อะไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา.
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยออกเช็คพิพาทเพื่อชำระหนี้แก่โจทก์อันเป็นการยืนยันว่าจำเลยมีเจตนาจะใช้เช็คนั้นชำระหนี้แม้จะมิได้ระบุว่าชำระหนี้ในมูลหนี้อะไรก็ไม่เป็นฟ้องเคลือบคลุม เพราะเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา.