พบผลลัพธ์ทั้งหมด 124 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 153/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การครอบครองลูกระเบิด: พยานหลักฐานขัดแย้ง, พยานเบิกความเพื่อพ้นผิด, และการยกประโยชน์แห่งความสงสัย
คำเบิกความของ ก. เป็นการซัดทอดจำเลยเพื่อให้ตนเองพ้นผิดเมื่อ ก. เบิกความเป็นพยานตนเองในฐานะที่เป็นจำเลยในอีกคดีหนึ่งซึ่งศาลชั้นต้นพิจารณารวมกับคดีนี้เท่านั้น หาใช่เป็นการเบิกความในฐานะเป็นพยานโจทก์ไม่ จึงเอาคำของ ก. มาฟังลงโทษจำเลยหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 150/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อจำเลยไม่โต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฟ้องจำเลยในข้อหาความผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้ต่อสู้ขัดขวางและพยายามฆ่าเจ้าพนักงาน ในความผิดต่อ พระราชบัญญัติป่าไม้จำเลยให้การรับสารภาพ ศาลชั้นต้นพิพากษา ลงโทษจำเลย และริบรถยนต์ของกลาง จำเลยมิได้อุทธรณ์ขอให้ริบของกลาง ดังนั้น คดีเฉพาะกระทงความผิดตามพระราชบัญญัติป่าไม้ จึงเป็นอันยุติตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น ไม่ชอบที่ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นไม่ริบรถยนต์ของกลาง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 30/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานยักยอกเช็คและการสั่งจ่ายเช็คจากแบบพิมพ์เช็คยังไม่กรอกรายการ
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่าไม่ปรากฏจำเลยที่ 2 ได้ร่วมในการกระทำผิดคดีสำหรับจำเลยที่ 2 ไม่มีมูล พิพากษายกฟ้องศาลอุทธรณ์พิพากษายืน ดังนี้ จึงเป็นคดีซึ่งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องโจทก์โดยอาศัยข้อเท็จจริง โจทก์ฎีกาว่าจำเลยที่ 2 ได้ร่วมกระทำผิดเป็นการฎีกาโต้เถียงในปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 220 ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย การที่จำเลยที่ 1 เอาเช็คขีดคร่อมเฉพาะของโจทก์ไปขึ้นเงินเป็นของจำเลยที่ 1 ย่อมเป็นการทำให้เช็คนั้นไร้ประโยชน์ที่จะใช้ได้อีกตามบทบัญญัติของประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 ส่วนที่จำเลยที่ 1เอาแบบพิมพ์เช็คของโจทก์มากรอกรายการสั่งจ่ายเงินให้แก่จำเลยที่ 1 เองแบบพิมพ์เช็คที่ยังไม่ได้กรอกรายการนี้ยังมิได้ทำให้ปรากฏความหมายหรือเป็นหลักฐานแห่งความหมายอย่างใดเลย จึงไม่เป็นเอกสารตามมาตรา 1(7) แห่งประมวลกฎหมายอาญา แม้จำเลยที่ 1 จะได้เอาแบบพิมพ์เช็คของโจทก์ไปใช้ดังที่โจทก์ฟ้อง ก็หาเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 188 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4027/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คผู้สั่งจ่ายเสียชีวิต: ธนาคารไม่ต้องจ่ายเงิน ผู้ทรงเช็คไม่ต้องเรียกเก็บเงินก่อนกำหนด
กรณีที่ผู้สั่งจ่ายเช็คตาย อำนาจและหน้าที่ของธนาคารซึ่งใช้เงินตามเช็คสิ้นสุดลงเมื่อธนาคารทราบว่าผู้สั่งจ่ายตาย ผู้ทรงเช็คจึงไม่ต้องนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคารอีก กรณีเช่นนี้ไม่อยู่ในบังคับว่าผู้ทรงเช็คจะต้องนำเช็คเรียกเก็บเงินจากธนาคารเสียก่อนดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990แม้จะถือว่าการนำเช็คไปยื่นต่อธนาคารก่อนกำหนดวันสั่งจ่ายเงินเป็นการมิชอบ ก็หาทำให้ผู้สลักหลังพ้นความรับผิดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4027/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดหน้าที่ธนาคารเมื่อผู้สั่งจ่ายเช็คเสียชีวิต ผู้ทรงเช็คไม่ต้องเรียกเก็บเงินก่อน
กรณีที่ผู้สั่งจ่ายเช็คตาย อำนาจและหน้าที่ของธนาคารซึ่งใช้เงินตามเช็คสิ้นสุดลงเมื่อธนาคารทราบว่าผู้สั่งจ่ายตาย ผู้ทรงเช็คจึงไม่ต้องนำเช็คไปขอรับเงินจากธนาคารอีก กรณีเช่นนี้ไม่อยู่ในบังคับว่าผู้ทรงเช็คจะต้องนำเช็คเรียกเก็บเงินจากธนาคารเสียก่อนดังที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 990 แม้จะถือว่าการนำเช็คไปยื่นต่อธนาคารก่อนกำหนดวันสั่งจ่ายเงินเป็นการมิชอบ ก็หาทำให้ผู้สลักหลังพ้นความรับผิดไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3812/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจำหน่ายทรัพย์สินของผู้อื่นโดยตกลงราคา ไม่เข้าข่ายตัวแทนหรือยักยอก เป็นผิดสัญญา
จำเลยรับสร้อยคอและสร้อยข้อมือทองคำของโจทก์ไปจำหน่ายโดยกำหนดราคากันไว้จะขายเกินหรือต่ำกว่าราคาที่โจทก์กำหนดก็ได้เมื่อขายได้แล้วต้องส่งเงินให้แก่โจทก์ตามราคาที่กำหนดโดยได้เปอร์เซ็นถ้าขายไม่ได้ก็นำมาคืน ดังนี้ไม่ใช่เรื่องตัวแทน หรือจำเลยได้รับมอบหมายให้รับราคาสร้อยไว้แทนโจทก์ เมื่อจำเลยไม่คืนสร้อยและว่าเอาเงินไปใช้หมดแล้ว เป็นเรื่องผิดสัญญาทางแพ่งเท่านั้น ไม่มีความผิดฐานยักยอกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3650/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความชัดเจนของฟ้องอาญาฐานลักทรัพย์ และการปรับบทลงโทษ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยลักปลาตะเพียนและปลากระดี่จำนวน2 กิโลกรัม ราคา 30 บาท และบรรยายต่อไปว่า จำเลยใช้แหทอดเอาปลาไปจากบ่อเลี้ยงปลาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ฟ้องของโจทก์จึงระบุข้อเท็จจริงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวทรัพย์และสถานที่รวมทั้งสิ่งที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จำเลยจะต่อสู้คดีได้ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ในความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อจำเลยมีความผิดตามมาตรา 335 แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 334 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
ในความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อจำเลยมีความผิดตามมาตรา 335 แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 334 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3650/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความเพียงพอของฟ้องคดีลักทรัพย์และการปรับบทลงโทษ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยลักปลาตะเพียนและปลากระดี่จำนวน2 กิโลกรัม ราคา 30 บาท และบรรยายต่อไปว่า จำเลยใช้แหทอดเอาปลาไปจากบ่อเลี้ยงปลาของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ฟ้องของโจทก์จึงระบุข้อเท็จจริงรายละเอียดเกี่ยวกับตัวทรัพย์และสถานที่รวมทั้งสิ่งที่เกี่ยวข้องพอสมควรที่จำเลยจะต่อสู้คดีได้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม
ในความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อจำเลยมีความผิดตามมาตรา 335แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 334 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
ในความผิดฐานลักทรัพย์ เมื่อจำเลยมีความผิดตามมาตรา 335แล้ว ก็ไม่จำต้องยกมาตรา 334 ขึ้นปรับบทลงโทษอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3590/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อโกงในการค้าเป็นความผิดอาญา
จำเลยมีเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้าและใช้เครื่องชั่งดังกล่าวในวันเวลาเดียวกัน ก็เท่ากับว่าจำเลยมีเจตนาอันเดียวกัน การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3590/2527 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาใช้เครื่องชั่งผิดอัตราเพื่อเอารัดเอาเปรียบในการค้า ถือเป็นกรรมเดียวผิดหลายบท ใช้บทหนักลงโทษ
จำเลยมีเครื่องชั่งที่ผิดอัตราเพื่อเอาเปรียบในการค้า และใช้เครื่องชั่งดังกล่าวในวันเวลาเดียวกันก็เท่ากับว่า จำเลยมีเจตนาอันเดียวกัน การกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ต้องใช้บทที่มีโทษหนักที่สุดลงโทษ