คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สวัสดิ์ รอดเจริญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 718 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4200/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเพิกถอนมติสหกรณ์ที่ไม่ชอบด้วยข้อบังคับ และการละเมิดสิทธิสมาชิก
โจทก์ซึ่งเป็นสมาชิกสหกรณ์นัดหมายให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญแต่งตั้งคณะกรรมการดำเนินการใหม่แทนคณะเดิม ซึ่งโจทก์มีอำนาจกระทำได้ตามข้อบังคับ มิใช่เป็นการแสดงตน เป็นปฏิปักษ์ต่อสหกรณ์หรือกระทำการอันเป็นเหตุให้เห็นว่าไม่ซื่อ ตรงหรือทำให้เสื่อมเสียชื่อ เสียงหรือประโยชน์ของสหกรณ์ การที่จำเลยกับพวกยกเหตุดังกล่าวเป็นข้ออ้างให้โจทก์ออกจากสมาชิก จึงเป็นการละเมิดต่อสิทธิของโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4133/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยมีสิทธิหักลบหนี้จากเช็คค้ำประกัน หากโจทก์ผิดสัญญาหุ้นส่วน การนำสืบเป็นสิทธิที่ชอบธรรม
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค จำเลยให้การว่าจำเลยออกเช็คพิพาทให้โจทก์เพื่อค้ำประกันค่าหุ้นซึ่งโจทก์จำเลยเข้าหุ้นกันตั้งร้านอาหาร โจทก์ถอนหุ้นตามอำเภอใจผิดสัญญาหุ้นส่วนจึงไม่มีสิทธิเรียกเงินตามเช็ค ดังนี้ จำเลยชอบที่จะนำสืบตามข้อต่อสู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องโจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งต่างหากเพราะเป็นการนำสืบถึงมูลกรณีที่จำเลยออกเช็คให้โจทก์
คำให้การดังกล่าวแม้ไม่ระบุว่าโจทก์ถอนหุ้นอย่างไร เป็นจำนวนเท่าใด หุ้นส่วนเลิกกันหรือไม่ ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่จำเลยสามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4133/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ จำเลยมีสิทธิยกข้อต่อสู้เรื่องสัญญาหุ้นส่วนเพื่อปฏิเสธความรับผิดตามเช็คได้ แม้จะยอมรับว่าออกเช็คแล้ว
โจทก์ฟ้องเรียกเงินตามเช็ค จำเลยให้การว่าจำเลยออกเช็คพิพาทให้โจทก์เพื่อค้ำประกันค่าหุ้นซึ่งโจทก์จำเลยเข้าหุ้นกันตั้งร้านอาหาร โจทก์ถอนหุ้นตามอำเภอใจผิดสัญญาหุ้นส่วนจึงไม่มีสิทธิเรียกเงินตามเช็ค ดังนี้ จำเลยชอบที่จะนำสืบตามข้อต่อสู้ได้โดยไม่จำเป็นต้องฟ้องโจทก์เป็นอีกคดีหนึ่งต่างหากเพราะเป็นการนำสืบถึงมูลกรณีที่จำเลยออกเช็คให้โจทก์
คำให้การดังกล่าวแม้ไม่ระบุว่าโจทก์ถอนหุ้นอย่างไร เป็นจำนวนเท่าใด หุ้นส่วนเลิกกันหรือไม่ ก็เป็นเพียงรายละเอียดที่จำเลยสามารถนำสืบในชั้นพิจารณาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4133/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกข้อต่อสู้ตามสัญญาเพื่อปฏิเสธความรับผิดตามเช็ค แม้ยอมรับว่าออกเช็คแล้ว
ป.พ.พ. มาตรา 900 หาใช่บทบังคับเด็ดขาดให้ผู้ลงลายมือชื่อในตั๋วเงินมิให้โต้เถียง เป็นอย่างอื่น ดังนั้น แม้จำเลยจะยอมรับว่าออกเช็คพิพาทจริง แต่จำเลยก็ขอต่อสู้ว่าโจทก์เป็นฝ่ายผิดสัญญาเข้าหุ้นส่วนกับจำเลย จำเลยไม่ต้องรับผิดตามเช็คที่จำเลยออกเพื่อค้ำประกันค่าหุ้นนั้นจำเลยจึงชอบที่จะนำสืบตามข้อต่อสู้ได้ เมื่อจำเลยอ้างมูลที่มาของการออกเช็ค ตลอดจนเหตุที่จำเลยไม่ต้องรับผิดเป็นประเด็นมาในคำให้การแล้ว ข้อเท็จจริงที่ว่าโจทก์ถอน หุ้นอย่างไร เป็นจำนวนเท่าใด หุ้นส่วนเลิกกันหรือไม่ นั้นเป็นรายละเอียดที่จะนำสืบในชั้นพิจารณา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3947/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความสมบูรณ์ของฟ้องคดีบุกรุกที่ดินสาธารณะหลังมีประกาศคณะปฏิวัติ การบรรยายฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุการเพิกเฉยต่อเจ้าหน้าที่
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกันเมื่อระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2518 ถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2527 ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9, 108 ทวิ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเข้ายึดถือครอบครองที่ดินตามวันเวลาดังกล่าวในฟ้อง โจทก์หาจำต้องบรรยายฟ้องว่า จำเลยเพิกเฉยไม่ปฏิบัติให้ถูกระเบียบและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในมาตรา108 ไม่ เพราะจำเลยเข้ายึดถือ ครอบครอง ที่ดินภายหลังที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ใช้บังคับแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3947/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่สาธารณะ: ฟ้องครบองค์ประกอบความผิด แม้ไม่ได้กล่าวถึงการไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุกเข้าไปยึดถือ ครอบครอง ที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินที่ประชาชนใช้ร่วมกันเมื่อระหว่างวันที่ 1 มกราคม 2518 ถึงวันที่ 24 ตุลาคม 2527 ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 9,108 ทวิ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าจำเลยเข้ายึดถือครอบครองที่ดินตามวันเวลาดังกล่าวในฟ้อง โจทก์หาจำต้องบรรยายฟ้องว่า จำเลยเพิกเฉยไม่ปฏิบัติให้ถูกระเบียบและไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามความในมาตรา108 ไม่ เพราะจำเลยเข้ายึดถือ ครอบครอง ที่ดินภายหลังที่ประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 96 ใช้บังคับแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3833/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฟ้องแย้งต้องเกี่ยวข้องกับฟ้องเดิม ศาลไม่รับฟ้องแย้งที่ไม่เกี่ยวข้องกัน
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยสร้างส้วมและขุดหลุมพักอุจจาระหรือน้ำโสโครกประชิดติดกับแนวเขตที่ดินโจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญอันเป็นการละเมิดต่อโจทก์ จำเลยฟ้องแย้งให้โจทก์รื้อรั้วคอนกรีตและห้ามมิให้โจทก์ทำให้น้ำจากตึกแถวของโจทก์ไหลเข้าไปในบริเวณบ้าน ของจำเลย ดังนี้ฟ้องแย้งของจำเลยเป็นเรื่องอื่นไม่เกี่ยวกับฟ้องเดืม จะรับเป็นฟ้องแย้งไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3754/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการยกฟ้องคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด แม้จำเลยไม่มาด้วย
คดีอาญา โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาโดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้อง ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องไปได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยจะมาศาลในวันนั้นด้วยหรือไม่ และจำเลยอยู่ในอำนาจศาลแล้วหรือไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 และ 181 มีเจตนารมณ์เร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว มิให้มีการประวิงคดีจึงได้ กำหนดมาตรการดังกล่าวเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นย่อมเสี่ยงต่อการที่จะถูกยกฟ้องอันเป็นผลเสียต่อคดีของโจทก์เอง กรณีเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาล หาได้เกี่ยวข้องกับจำเลยแต่ประการใดไม่
ข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ในการขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ว่า โจทก์จำเวลานัดคลาดเคลื่อนไปนั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งยกคำร้อง
(วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 7/2530).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3754/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกฟ้องคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด และเหตุผลที่ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวนเหตุผลความคลาดเคลื่อนของวันนัด
ป.วิ.อ. มาตรา 166 และมาตรา 181 มีเจตนารมณ์ที่จะเร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว มิให้มีการประวิงคดี จึงได้กำหนดมาตรการเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นย่อมเสี่ยงต่อการที่จะถูกยกฟ้องอันเป็นผลเสียต่อคดีของโจทก์เอง กรณีจึงเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาลหาได้เกี่ยวข้องกับจำเลยแต่ประการใดไม่ ดังนั้น เมื่อโจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณา โดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้องแล้ว ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องไปได้โดยไม่จำต้องคำนึงว่าจำเลยจะมาศาลในวันนั้นด้วยหรือไม่ ข้ออ้างของโจทก์ที่ว่าโจทก์จำเวลานัดของศาลคลาดเคลื่อนไปสมควรที่ศาลจะได้ทำการไต่สวนฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนที่ศาลจะมีคำสั่งยกคำร้องขอให้พิจารณาคดีใหม่ของโจทก์นั้น แม้จะเป็นความจริงตามที่โจทก์อ้าง ก็ยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาคดีใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นอย่างใดที่ศาลจะต้องทำการไต่สวนเสียก่อนมีคำสั่ง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3754/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการยกฟ้องคดีอาญาเมื่อโจทก์ไม่มาศาลตามนัด โดยไม่ต้องเลื่อนคดีหรือออกหมายจับ
คดีอาญา โจทก์ไม่มาศาลในวันนัดพิจารณาโดยไม่ปรากฏเหตุขัดข้อง ศาลก็ชอบที่จะพิพากษายกฟ้องไปได้โดยไม่ต้องคำนึงถึงว่าจำเลยจะมาศาลในวันนั้นด้วยหรือไม่ และจำเลยอยู่ในอำนาจศาลแล้วหรือไม่ เพราะประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 และ 181 มีเจตนารมณ์เร่งรัดการดำเนินกระบวนพิจารณาให้เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็วมิให้มีการประวิงคดีจึงได้กำหนดมาตรการดังกล่าวเพื่อบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามโดยเคร่งครัด มิฉะนั้นย่อมเสี่ยงต่อการที่จะถูกยกฟ้องอันเป็นผลเสียต่อคดีของโจทก์เอง กรณีเป็นเรื่องระหว่างโจทก์กับศาล หาได้เกี่ยวข้องกับจำเลยแต่ประการใดไม่
ข้ออ้างตามคำร้องของโจทก์ในการขอให้ศาลยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ว่า โจทก์จำเวลานัดคลาดเคลื่อนไปนั้นยังถือไม่ได้ว่าเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะอนุญาตให้มีการพิจารณาใหม่ จึงไม่มีความจำเป็นต้องทำการไต่สวนก่อนมีคำสั่งยกคำร้อง (วรรคแรกวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่7/2530).
of 72