คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สวัสดิ์ รอดเจริญ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 718 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2814/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดในละเมิดจากการให้เช่าทรัพย์ของผู้อื่น ทำให้เจ้าของทรัพย์ขาดประโยชน์ในการใช้สอยและมีหน้าที่จัดการให้ผู้เช่าออกไป
จำเลยกระทำละเมิดต่อโจทก์โดยนำห้องแถวของโจทก์ไปให้ผู้อื่นเช่า ย่อมทำให้โจทก์ขาดประโยชน์ที่จะใช้สอยหรือให้เช่า จำเลยมีหน้าที่จัดการให้ผู้เช่าออกไปจากห้องแถว เมื่อจำเลยยังไม่ได้จัดการให้ผู้เช่าออกไป ความเสียหายก็ยังคงมีอยู่ตลอดไปจนกว่าผู้เช่าจะออกไปจากห้องแถวนั้น
แม้โจทก์จะฟ้องขับไล่ผู้เช่าแล้ว เมื่อผู้เช่ายังไม่ออกไปจากห้องแถวนั้น จำเลยจึงยังไม่หลุดพ้นความรับผิด โจทก์มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากจำเลยนับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะได้ให้ผู้เช่าออกไปจากห้องแถวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2759/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดมีส่วนร่วมจัดการธุรกิจ ทำให้ต้องรับผิดชอบหนี้สินไม่จำกัดตามกฎหมาย
หนังสือรับรองการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัดจำเลยที่1ปรากฏข้อจำกัดอำนาจของหุ้นส่วนผู้จัดการจำเลยที่2ว่าในการทำนิติกรรมผูกพันกับบุคคลภายนอกจะต้องให้ผู้เป็นหุ้นส่วนอื่นคือจำเลยที่3ที่4ยินยอมด้วยเป็นลายลักษณ์อักษรเสียก่อนเช่นนี้เป็นการแสดงออกให้เห็นว่าจำเลยที่3ที่4ซึ่งเป็นหุ้นส่วนจำพวกจำกัดความรับผิดได้สอดเข้าไปเกี่ยวข้องในการจัดการงานของห้างแล้วมีผลทำให้จำเลยทั้งสองต้องร่วมรับผิดในบรรดาหนี้ทั้งหลายของห้างจำเลยที่1โดยไม่จำกัดจำนวนตามป.พ.พ.มาตรา1088 คำสั่งของศาลชั้นต้นให้งดสืบพยานเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาเมื่อนับจากวันที่ศาลมีคำสั่งดังกล่าวจนถึงวันนัดฟังคำพิพากษาเป็นเวลาถึง20กว่าวันจำเลยไม่โต้แย้งคัดค้านคำสั่งดังกล่าวไว้จึงหมดสิทธิที่จะอุทธรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2742/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการกำหนดค่าฤชาธรรมเนียม พิจารณาจากเหตุผลและความสุจริตของคู่ความ
ความรับผิดในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามที่เห็นสมควร โดยคำนึงถึงเหตุผลและความสุจริตในการดำเนินกระบวนพิจารณาและต่อสู้คดีของคู่ความ ไม่จำต้องให้จำเลยชำระแทนเท่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดี หรือจำเลยแต่ละคนต้องชำระตามส่วนใน คำพิพากษา ที่ศาลล่างเห็นสมควรกำหนดให้จำเลยที่ 2 ซึ่งรับผิดต่อโจทก์อันเนื่องมาจากมูลละเมิด และจำเลยที่ 3 ซึ่งรับผิดต่อโจทก์ตามจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย แต่ไม่เต็มตามทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมทั้งหมดแทนโจทก์ชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2742/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการสั่งค่าฤชาธรรมเนียม พิจารณาจากเหตุผลและความสุจริตของคู่ความ
ความรับผิดในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียม กฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามที่เห็นสมควรโดยคำนึงถึงเหตุผลและความสุจริตในการดำเนินกระบวนพิจารณาและ ต่อสู้คดีของคู่ความ ไม่จำต้องให้จำเลยชำระแทนเท่าทุนทรัพย์ ที่โจทก์ชนะคดี หรือจำเลยแต่ละคนต้องชำระตามส่วนใน คำพิพากษา ที่ศาลล่างเห็นสมควรกำหนดให้จำเลยที่ 2 ซึ่งรับผิด ต่อโจทก์อันเนื่องมาจากมูลละเมิด และจำเลยที่ 3 ซึ่งรับผิด ต่อโจทก์ตามจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย แต่ ไม่เต็มตามทุนทรัพย์ที่เรียกร้อง ต้องร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมทั้งหมดแทนโจทก์ชอบแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2742/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าฤชาธรรมเนียมศาล: ศาลมีอำนาจดุลพินิจพิจารณาความสุจริตคู่ความในการกำหนดความรับผิดชอบ
ความรับผิดในเรื่องค่าฤชาธรรมเนียมกฎหมายบัญญัติให้เป็นอำนาจของศาลที่จะใช้ดุลพินิจสั่งตามที่เห็นสมควรโดยคำนึงถึงเหตุผลและความสุจริตในการดำเนินกระบวนพิจารณาและต่อสู้คดีของคู่ความไม่จำต้องให้จำเลยชำระแทนเท่าทุนทรัพย์ที่โจทก์ชนะคดีหรือจำเลยแต่ละคนต้องชำระตามส่วนในคำพิพากษาที่ศาลล่างเห็นสมควรกำหนดให้จำเลยที่2ซึ่งรับผิดต่อโจทก์อันเนื่องมาจากมูลละเมิดและจำเลยที่3ซึ่งรับผิดต่อโจทก์ตามจำนวนเงินที่กำหนดไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยแต่ไม่เต็มตามทุนทรัพย์ที่เรียกร้องต้องร่วมกับจำเลยที่1รับผิดในค่าฤชาธรรมเนียมทั้งหมดแทนโจทก์ชอบแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2632/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบร่วมกันทำร้ายร่างกาย: ความรับผิดชอบร่วม
จำเลยกับพวก2-3คนเข้ากลุ้มรุมชกต่อยผู้เสียหายและพวกของจำเลยฟันผู้เสียหายถูกบริเวณศีรษะและหน้าผากจนสลบไปก่อนเกิดเหตุจำเลยกับพวกได้มายืนในที่เกิดเหตุแล้วเมื่อมีเสียงร้องว่า'เอามันเลยได้เสือลาย'จำเลยกับพวกก็เข้ารุมทำร้ายผู้เสียหายซึ่งสวมเสื้อลายทันทีแล้วหลบหนีไปพร้อมกันฟังได้แล้วว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมสมคบกันตั้งแต่ต้นหาใช่เป็นเรื่องต่างคนต่างกระทำอันจะเป็นผลให้แยกความรับผิดออกจากกันไม่.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2632/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สมคบร่วมกันทำร้ายร่างกาย: การกระทำร่วมกันตั้งแต่ต้นแสดงเจตนา
จำเลยกับพวก2-3คนเข้ากลุ้มรุมชกต่อยผู้เสียหายและพวกของจำเลยฟันผู้เสียหายถูกบริเวณศีรษะและหน้าผากจนสลบไปก่อนเกิดเหตุจำเลยกับพวกได้มายืนในที่เกิดเหตุแล้วเมื่อมีเสียงร้องว่า"เอามันเลยไอ้เสื้อลาย"จำเลยกับพวกก็เข้ารุมทำร้ายผู้เสียหายซึ่งสวมเสื้อลายทันทีแล้วหลบหนีไปพร้อมกันฟังได้แล้วว่าจำเลยกับพวกได้ร่วมสมคบกันตั้งแต่ต้น หาใช่เป็นเรื่องต่างคนต่างกระทำอันจะเป็นผลให้แยกความรับผิดออกจากกันไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2628/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ พรากผู้เยาว์เพื่ออนาจาร: การกระทำเกินขอบเขตความยินยอมของมารดา
นางส. อนุญาตให้จำเลยพาเด็กหญิงศ. อายุ12ปีซึ่งเป็นบุตรออกไปจากบ้านเพื่อให้เด็กหญิงศ. นำจำเลยไปพบกับบิดาณที่ทำงานการที่จำเลยพาเด็กหญิงศ. เข้าไปในโรงแรมจึงเป็นเรื่องที่จำเลยทำไปเองตามลำพังจะถือว่านางส. รู้เห็นยินยอมไม่ได้เมื่อไปถึงจำเลยลงจากรถเข้าไปในห้องทันทีและกวักมือเรียกให้เด็กหญิงศ. ตามเข้าไปในห้องนั้นด้วยแต่เด็กหญิงศ. ไม่ยอมเข้าไปแสดงว่าจำเลยมีเจตนาจะหลับนอนกับเด็กหญิงศ. เพื่อร่วมประเวณีหรือกระทำมิดีมิร้ายอย่างอื่นจึงเป็นการพรากผู้เยาว์ไปเพื่อการอนาจารตามป.อ.มาตรา317.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2407/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน โดยการแสดงเจตนาครอบครองด้วยการถมที่และล้อมรั้ว
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาทการที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้สิทธิเหนือที่พิพาทโดยซื้อมาจากเจ้าของเดิมก็ดีโดยการครอบครองปรปักษ์ก็ดีหรือที่พิพาทตกอยู่ภายใต้ภารจำยอมแก่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของจำเลยก็ดีพร้อมกับฟ้องแย้งขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยให้โจทก์ไปจดทะเบียนภารจำยอมแก่จำเลยนั้นฟ้องแย้งของจำเลยก็คือเหตุผลอันเดียวกับที่ให้การไว้ซึ่งจำเลยชอบที่จะอ้างสิทธิต่างๆขึ้นใช้ยันโจทก์เพราะไม่แน่ว่าศาลจะฟังข้อเท็จจริงในรูปใดฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่ขัดแย้งกันเองและไม่เคลือบคลุม การที่บุคคลเข้าไปถมที่และล้อมรั้วเพื่อแสดงแนวเขตที่แน่นอนในที่ดินของบุคคลอื่นแม้บุคคลนั้นจะมิได้เข้าอยู่อาศัยหรือมอบหมายให้ผู้ใดเข้าอยู่แทนในที่ดินนั้นก็ตามถือได้ว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของบุคคลอื่นแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2407/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์และการได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดิน การถมที่และล้อมรั้วถือเป็นการครอบครอง
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินพิพาท การที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าได้สิทธิเหนือที่พิพาทโดยซื้อมาจากเจ้าของเดิมก็ดี โดยการครอบครองปรปักษ์ก็ดี หรือที่พิพาทตกอยู่ภายใต้ภาระจำยอมแก่ที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของจำเลยก็ดีพร้อมกับฟ้องแย้งขอให้ศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย ให้โจทก์ไปจดทะเบียนภาระจำยอมแก่จำเลยนั้น ฟ้องแย้งของจำเลยก็คือเหตุผลอันเดียวกับที่ให้การไว้ ซึ่งจำเลยชอบที่จะอ้างสิทธิต่าง ๆ ขึ้นใช้ยันโจทก์ เพราะไม่แน่ว่าศาลจะฟังข้อเท็จจริงในรูปใด ฟ้องแย้งของจำเลยจึงไม่ขัดแย้งกันเองและไม่เคลือบคลุม
การที่บุคคลเข้าไปถมที่และล้อมรั้วเพื่อแสดงแนวเขตที่แน่นอนในที่ดินของบุคคลอื่น แม้บุคคลนั้นจะมิได้เข้าอยู่อาศัยหรือมอบหมายให้ผู้ใดเข้าอยู่แทนในที่ดินนั้นก็ตามถือได้ว่าเป็นการครอบครองปรปักษ์ในที่ดินของบุคคลอื่นแล้ว
of 72