พบผลลัพธ์ทั้งหมด 202 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3506/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสลักหลังเช็คและสิทธิเรียกร้องของผู้รับช่วงสิทธิ: อายุความ 10 ปี
จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ถือโจทก์ผู้ทรงได้สลักหลังเช็คนั้นโดยมิได้ ระบุข้อความใด ๆไว้แล้วนำไปขายลดให้แก่บุคคลภายนอกผู้รับซื้อเช็คไว้ ย่อมเป็นผู้ทรงการสลักหลังของโจทก์เป็นเพียงประกันหนี้ตามเช็คที่จำเลย จะต้องรับผิดต่อผู้ทรงโจทก์ย่อมอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ตามเช็ค ของจำเลยเมื่อผู้ทรงรับเงินตามเช็คไม่ได้และโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรง แทนจำเลยไปย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้ทรงที่จะไล่เบี้ยเอาจากจำเลยสิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา164 กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา1002 ซึ่งบัญญัติไว้แต่เฉพาะกรณีที่ ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่ายและโจทก์ก็มิได้อยู่ในฐานะ ผู้สลักหลังเช็คตามมาตรา 1003
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3506/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องไล่เบี้ยเช็ค: สิทธิผู้รับช่วงจากผู้ทรงเช็คมีอายุความ 10 ปี ไม่ใช่อายุความ 1 ปี
จำเลยสั่งจ่ายเช็คให้แก่ผู้ถือ โจทก์ผู้ทรงได้สลักหลังเช็คนั้นโดยมิได้ ระบุข้อความใด ๆ ไว้แล้วนำไปขายลดให้แก่บุคคลภายนอก ผู้รับซื้อเช็คไว้ย่อมเป็นผู้ทรงการสลักหลังของโจทก์เป็นเพียงประกันหนี้ตามเช็คที่จำเลยจะต้องรับผิดต่อผู้ทรง โจทก์ย่อมอยู่ในฐานะผู้ค้ำประกันหนี้ตามเช็คของจำเลย เมื่อผู้ทรงรับเงินตามเช็คไม่ได้และโจทก์ได้ชำระหนี้ให้แก่ผู้ทรงแทนจำเลยไป ย่อมเข้ารับช่วงสิทธิของผู้ทรงที่จะไล่เบี้ยเอาจากจำเลย สิทธิเรียกร้องของโจทก์ดังกล่าวไม่มีกฎหมายบัญญัติเรื่องอายุความไว้ จึงต้องใช้อายุความ 10 ปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 164 กรณีไม่ต้องด้วย มาตรา1002 ซึ่งบัญญัติไว้แต่เฉพาะกรณีที่ผู้ทรงเช็คฟ้องผู้สลักหลังและผู้สั่งจ่าย และโจทก์ก็มิได้อยู่ในฐานะผู้สลักหลังเช็คตามมาตรา 1003
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3400/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจ้าหนี้ชำระหนี้แทนลูกหนี้ มีสิทธิขอรับชำระจากกองทรัพย์สินลูกหนี้ได้ แม้ลูกหนี้ไม่ได้ให้ความเห็นชอบ
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เดิมของลูกหนี้ไป แม้จะไม่ได้ความว่าลูกหนี้ได้ให้ความเห็นชอบ แต่จำนวนเงินที่ชำระเป็นหนี้ที่ลูกหนี้มีหน้าที่ต้องชำระให้แก่เจ้าหนี้เดิม การชำระหนี้ของเจ้าหนี้ย่อมสมประโยชน์และตามความประสงค์อันแท้จริงของลูกหนี้ ลูกหนี้จึงมีหน้าที่ชดใช้คืนแก่เจ้าหนี้ และการชำระหนี้ดังกล่าวไม่ต้องด้วยข้อห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94(2) เพราะมิใช่ลูกหนี้ก่อหนี้โดยตรงกับเจ้าหนี้ หากแต่ลูกหนี้มีหนี้ที่จะต้องชำระให้แก่บุคคลภายนอกแล้วเจ้าหนี้ชำระหนี้นั้นแทน ไปเจ้าหนี้จึงมีสิทธิที่จะขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3400/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิการรับชำระหนี้ของเจ้าหนี้ที่ชำระหนี้แทนลูกหนี้ต่อเจ้าหนี้เดิมในคดีล้มละลาย
เจ้าหนี้ผู้ขอรับชำระหนี้ได้ชำระหนี้ให้แก่เจ้าหนี้เดิมของลูกหนี้ไป แม้จะไม่ได้ความว่าลูกหนี้ได้ให้ความเห็นชอบแต่จำนวนเงินที่ชำระ เป็นหนี้ที่ลูกหนี้มีหน้าที่ต้องชำระให้แก่เจ้าหนี้เดิมการชำระหนี้ ของเจ้าหนี้ย่อมสมประโยชน์และตามความประสงค์อันแท้จริงของลูกหนี้ ลูกหนี้ จึงมีหน้าที่ชดใช้คืนแก่เจ้าหนี้และการชำระหนี้ดังกล่าวไม่ต้องด้วย ข้อห้ามตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พุทธศักราช 2483 มาตรา 94(2) เพราะมิใช่ลูกหนี้ก่อหนี้โดยตรงกับเจ้าหนี้ หากแต่ลูกหนี้มีหนี้ที่จะต้อง ชำระให้แก่บุคคลภายนอกแล้วเจ้าหนี้ชำระหนี้นั้นแทนไปเจ้าหนี้ จึงมีสิทธิที่จะขอรับชำระหนี้จากกองทรัพย์สินของลูกหนี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3318/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแทงผู้อื่นถึงแก่ความตายด้วยความบันดาลโทสะจากเหตุถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
ผู้ตายอาละวาดไล่ทำร้ายภริยาจำเลยจนหลบหนีไปแล้ว จำเลยกำลัง จะรับประทานข้าว ผู้ตายได้มายืนร้องเรียกที่ข้างบ้านให้จำเลยออกมาเดี๋ยวนี้จำเลยก็เดินออกมาที่ชานบ้าน ผู้ตายเดินมาถึงหน้าบันไดบ้านพูดว่าวันนี้กูจะลุยมึงและจัดการกับมึงวันนี้จำเลยก็ว่าจะมาจัดการอะไรกัน ไม่เคยทำอะไรผิดผู้ตายก็พูดอีกว่าวันนี้กูต้องเอามึงแน่ จำเลยยกมือไหว้พูดว่า ไม่สู้พี่หรอก มีบุตรและภริยา ถ้าตายไปใครจะเลี้ยง ผู้ตายก็วิ่งขึ้นบันไดตรงเข้าชกต่อยจำเลย จำเลยจึงล้วงมีดพกปลายแหลมจากกระเป๋ากางเกงแทงผู้ตาย1ทีถูกบริเวณลำคอ ผู้ตายเดินเซลงบันไดไป จำเลยได้วิ่งตามไปแทงผู้ตายอีก 2-3 ครั้ง ถือได้ว่าจำเลยได้กระทำแก่ผู้ตายไปเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเป็นการกระทำความผิดโดยบันดาลโทสะตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3318/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยบันดาลโทสะ จากการถูกข่มเหงอย่างร้ายแรง
ผู้ตายอาละวาดไล่ทำร้ายภริยาจำเลยจนหลบหนีไปแล้วจำเลยกำลัง จะรับประทานข้าวผู้ตายได้มายืนร้องเรียกที่ข้างบ้านให้จำเลยออกมา เดี๋ยวนี้จำเลยก็เดินออกมาที่ชานบ้าน ผู้ตายเดินมาถึงหน้าบันไดบ้าน พูดว่าวันนี้กูจะลุยมึงและจัดการกับมึงวันนี้จำเลยก็ว่าจะมา จัดการอะไรกัน ไม่เคยทำอะไรผิดผู้ตายก็พูดอีกว่าวันนี้กูต้องเอามึงแน่ จำเลยยกมือไหว้พูดว่าไม่สู้พี่หรอกมีบุตรและภริยาถ้าตายไปใครจะเลี้ยง ผู้ตายก็วิ่งขึ้นบันไดตรงเข้าชกต่อยจำเลยจำเลยจึงล้วงมีดพกปลายแหลม จากกระเป๋ากางเกงแทงผู้ตาย1ทีถูกบริเวณลำคอผู้ตายเดินเซลงบันไดไป จำเลยได้วิ่งตามไปแทงผู้ตายอีก 2-3 ครั้งถือได้ว่าจำเลยได้กระทำแก่ผู้ตาย ไปเพราะถูกข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรมเป็นการกระทำความผิด โดยบันดาลโทสะ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 72
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3279/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดพรากผู้เยาว์, ข่มขืนกระทำชำเรา, ฆ่าเพื่อปกปิดความผิด และการสนับสนุนความผิด
โจทก์มีพยานเห็นเพียงจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่1 และพวกฉุดผู้ตายลงจากรถจักรยานพาเข้าไปข้างทางแต่เมื่อฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 พรากผู้เยาว์ข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าผู้ตายเพื่อปกปิดความผิดและสถานที่ซึ่งผู้ตายถูกข่มขืนกระทำชำเราอยู่ต่อเนื่องกับสถานที่ซึ่งจำเลยที่ 2 กับพวกฉุดผู้ตายลงจากรถเช่นนี้แม้หลังจากนั้นโจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยที่ 2เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำของจำเลยที่1กับพวกอีก มีแต่คำรับของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคำซัดทอดของผู้กระทำผิดด้วยกัน และจำเลยที่ 2 ปฏิเสธข้อหาตามฟ้องโจทก์มาแต่แรกก็ตาม พยานหลักฐานโจทก์ก็ยังคง ฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 พรากผู้ตาย ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และสนับสนุนการกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราแล้ว
เมื่อลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้วจะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 93 อีกไม่ได้
จำเลยมีความผิด 3 กระทงตามมาตรา 318 วรรคสาม,276 วรรคสอง และ 289(7) ถูกจำคุก 4 ปี,33 ปี 4เดือน และตลอดชีวิตตามลำดับ เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกจำเลยตลอดชีวิตสถานเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา91ที่แก้ไขแล้ว
เมื่อลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้วจะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 93 อีกไม่ได้
จำเลยมีความผิด 3 กระทงตามมาตรา 318 วรรคสาม,276 วรรคสอง และ 289(7) ถูกจำคุก 4 ปี,33 ปี 4เดือน และตลอดชีวิตตามลำดับ เมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกจำเลยตลอดชีวิตสถานเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา91ที่แก้ไขแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3279/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความร่วมมือในการพรากผู้เยาว์, ข่มขืน, และฆ่าเพื่อปกปิดความผิด การลงโทษผู้กระทำผิดและผู้สนับสนุน
โจทก์มีพยานเห็นเพียงจำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 และพวกฉุดผู้ตายลงจากรถจักรยานพาเข้าไปข้างทาง แต่เมื่อฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 พรากผู้เยาว์ ข่มขืนกระทำชำเราและฆ่าผู้ตายเพื่อปกปิดความผิด และสถานที่ซึ่งผู้ตายถูกข่มขืนกระทำชำเราอยู่ต่อเนื่องกับสถานที่ซึ่งจำเลยที่ 2 กับพวกฉุดผู้ตายลงจากรถเช่นนี้แม้หลังจากนั้นโจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นว่าจำเลยที่ 2 เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกระทำของจำเลยที่ 1 กับพวกอีกมีแต่คำรับของจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นคำซัดทอดของผู้กระทำผิดด้วยกันและจำเลยที่ 2 ปฏิเสธข้อหาตามฟ้องโจทก์มาแต่แรกก็ตามพยานหลักฐานโจทก์ก็ยังคง ฟังได้ว่า จำเลยที่ 2 ร่วมกับจำเลยที่ 1 พรากผู้ตาย ไปเสียจากบิดามารดาเพื่อการอนาจาร และสนับสนุนการกระทำความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราแล้ว
เมื่อลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้วจะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 93 อีกไม่ได้
จำเลยมีความผิด 3 กระทงตามมาตรา 318 วรรคสาม, 276 วรรคสองและ 289 (7) ถูกจำคุก 4 ปี, 33 ปี 4 เดือน และตลอดชีวิตตามลำดับเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกจำเลยตลอดชีวิตสถานเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ที่แก้ไขแล้ว
เมื่อลงโทษประหารชีวิตจำเลยแล้วจะเพิ่มโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 93 อีกไม่ได้
จำเลยมีความผิด 3 กระทงตามมาตรา 318 วรรคสาม, 276 วรรคสองและ 289 (7) ถูกจำคุก 4 ปี, 33 ปี 4 เดือน และตลอดชีวิตตามลำดับเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงจำคุกจำเลยตลอดชีวิตสถานเดียวตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ที่แก้ไขแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3142/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีที่ทุนทรัพย์น้อยกว่า 20,000 บาท และการสันนิษฐานความเป็นผู้ถือหุ้น
ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าผู้ร้องไม่ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นโดยชอบด้วยกฎหมายเพราะไม่ได้มีการรับโอนหุ้นตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 จึงไม่ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทลูกหนี้ ตามมาตรา 1141ถือว่าผู้ร้องโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นในข้อที่ว่า ผู้ร้องไม่ได้รับโอนหุ้นของบริษัทลูกหนี้ และไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทลูกหนี้ที่ผู้ร้องยกบทกฎหมายดังกล่าวขึ้นอ้าง ก็เพียงเพื่อสนับสนุนข้ออ้างที่ว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทลูกหนี้อุทธรณ์ของผู้ร้องจึงโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงนั่นเอง เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน 20,000 บาท คดีย่อมต้องห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ตามมาตรา 224 และผู้ร้องไม่มีสิทธิฎีกา ตามมาตรา 247 ประกอบมาตรา 224 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3142/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโต้แย้งการถือหุ้นในคดีล้มละลายและการจำกัดสิทธิอุทธรณ์ตามจำนวนทุนทรัพย์
ผู้ร้องอุทธรณ์ว่าผู้ร้องไม่ได้เข้าเป็นผู้ถือหุ้นโดย ชอบด้วยกฎหมายเพราะไม่ได้มีการรับโอนหุ้นตามวิธีการที่บัญญัติไว้ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1129 จึงไม่ต้องด้วยข้อสันนิษฐานว่า ผู้ร้องเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทลูกหนี้ ตามมาตรา 1141ถือว่าผู้ร้องโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นในข้อที่ว่า ผู้ร้องไม่ได้รับโอนหุ้นของบริษัทลูกหนี้และไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทลูกหนี้ที่ผู้ร้องยกบทกฎหมายดังกล่าวขึ้นอ้าง ก็เพียงเพื่อสนับสนุนข้ออ้างที่ว่าผู้ร้องไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นอยู่ในบริษัทลูกหนี้อุทธรณ์ของผู้ร้องจึงโต้แย้งคำพิพากษาศาลชั้นต้นในข้อเท็จจริงนั่นเอง เมื่อจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกิน 20,000 บาท คดีย่อมต้องห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ในข้อเท็จจริง ตามมาตรา 224 และผู้ร้องไม่มีสิทธิฎีกา ตามมาตรา 247 ประกอบมาตรา 224 แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง