พบผลลัพธ์ทั้งหมด 202 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2020/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาอุทธรณ์คำสั่งปรับนายประกันในคดีอาญา: นายประกันต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 15 วันนับแต่วันที่ทราบคำสั่ง
การอุทธรณ์คำสั่งศาลในกรณีผิดสัญญาประกันต่อศาลต้องอุทธรณ์ภายในกำหนดเวลา 15 วัน นับตั้งแต่วันที่นายประกันทราบคำสั่งตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำขอพิจารณาใหม่ต้องระบุเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดชัดเจน
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่1 กล่าวแต่เพียงว่าจำเลยทั้งสองไปประกอบอาชีพอยู่ที่อื่น จึงไม่ทราบฟ้องของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงเหตุที่ทำให้จำเลยที่ 1 ขาดนัดเท่านั้นส่วนที่กล่าวว่าการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาลเป็นการกระทำไปแต่เฉพาะโจทก์เพียงฝ่ายเดียวเป็นการกระทำลับหลังจำเลยจำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ คำพิพากษาจึงไม่ผูกพันจำเลยและบริวารนั้น ไม่ใช่ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 ไม่ได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 208 วรรคสองที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้
เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาให้ยกคำขอนั้นได้
เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาให้ยกคำขอนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2018/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขาดนัดและคำขอพิจารณาใหม่ต้องระบุเหตุขาดนัดและข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดอย่างชัดเจน
คำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่1กล่าวแต่เพียงว่าจำเลยทั้งสองไปประกอบอาชีพอยู่ที่อื่น จึงไม่ทราบฟ้องของโจทก์ซึ่งเป็นเพียงเหตุที่ทำให้จำเลยที่1ขาดนัดเท่านั้นส่วนที่กล่าวว่าการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีของศาลเป็นการกระทำไปแต่เฉพาะโจทก์เพียงฝ่ายเดียวเป็นการกระทำลับหลังจำเลยจำเลยไม่มีโอกาสต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ คำพิพากษาจึงไม่ผูกพันจำเลยและบริวารนั้น ไม่ใช่ข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาล เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ของจำเลยที่ 1 ไม่ได้กล่าวถึงข้อคัดค้านคำตัดสินชี้ขาดของศาลจึงไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 208 วรรคสอง ที่ศาลจะสั่งให้มีการพิจารณาใหม่ได้
เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาให้ยกคำขอนั้นได้
เมื่อคำขอให้พิจารณาใหม่ไม่ชอบด้วยบทบัญญัติของกฎหมายศาลอุทธรณ์ก็ชอบที่จะพิพากษาให้ยกคำขอนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2001/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขอคืนของกลาง: ศาลเชื่อถือพยานหลักฐานผู้ร้องว่ามิได้รู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิด และการถอนคำร้องก่อนหน้านี้ไม่ขัดต่อกฎหมาย
ผู้ร้องเคยยื่นคำร้องขอคืนของกลางมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ได้ขอถอนไป โดยศาลยังมิได้วินิจฉัยสั่งคำร้องนั้นผู้ร้องจึงยื่นคำร้องขอคืนของกลางรายเดียวกันอีกภายใน 1ปี นับแต่วันคำพิพากษาถึงที่สุดได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินงอกจากการสาธารณสมบัติ โจทก์ไม่อาจอ้างสิทธิยันจำเลยได้
ที่พิพาทเป็นที่ดินส่วนที่งอกออกไปจากทางสาธารณะ ย่อมเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินด้วย เมื่อฟ้องโจทก์แสดงโดยชัดแจ้งว่า ขณะโจทก์ฟ้อง จำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทอยู่ และที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์จึงไม่อาจอ้างกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครองที่พิพาทยันจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1851/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินงอกริมทางสาธารณะเป็นสาธารณสมบัติ โจทก์ไม่มีสิทธิอ้างกรรมสิทธิ์เหนือที่ดินนั้น
ที่พิพาทเป็นที่ดินส่วนที่งอกออกไปจากทางสาธารณะ ย่อมเป็น สาธารณสมบัติของแผ่นดินด้วย เมื่อฟ้องโจทก์แสดงโดยชัดแจ้งว่า ขณะโจทก์ฟ้อง จำเลยเป็นฝ่ายครอบครองที่พิพาทอยู่ และที่พิพาท เป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน โจทก์จึงไม่อาจอ้างกรรมสิทธิ์หรือ สิทธิครอบครองที่พิพาทยันจำเลยได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดหางานในต่างประเทศต้องได้รับอนุญาต การมอบอำนาจตัวแทนจัดหางานโดยไม่จดทะเบียนเป็นความผิดตาม พ.ร.บ. จัดหางาน
คำว่า 'จัดหางาน' ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511 หมายความว่า 'การประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนหางานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้าง'เมื่อปรากฏว่ากฎกระทรวงฉบับที่ 1 (พ.ศ.2511)ออกตามความในพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511 ข้อ 3 กำหนดเงื่อนไขให้ผู้รับอนุญาตจัดหางาน ติดต่อรับสมัครคนหางานและจัดส่งคนหางานให้แก่นายจ้างได้ภายในเขตท้องที่จังหวัดที่สำนักงานจัดหางานนั้นตั้งอยู่เท่านั้นก็ตามแต่ก็มีข้อยกเว้นว่า การจัดส่งคนหางานให้แก่นายจ้างในต่างประเทศต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลางอีกชั้นหนึ่ง แสดงให้เห็นว่าพระราชบัญญัติดังกล่าวมีขอบข่ายบังคับรวมทั้งการจัดหางานในประเทศและต่างประเทศ ดังนั้นการที่จำเลยตั้ง ถ. เป็นตัวแทนจัดหางานในต่างประเทศจึงถือได้ว่าเป็นการมอบอำนาจให้ตัวแทนทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดหางานของตน เมื่อจำเลยมิได้จดทะเบียนตัวแทน ย่อมเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511 มาตรา 13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1647/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดหางานในต่างประเทศต้องได้รับอนุญาต การมอบอำนาจจัดหางานโดยไม่จดทะเบียนเป็นความผิดตามกฎหมาย
คำว่า 'จัดหางาน' ตามมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511 หมายความว่า 'การประกอบธุรกิจหางานให้แก่คนหางานหรือหาลูกจ้างให้แก่นายจ้าง'เมื่อปรากฏว่ากฎกระทรวงฉบับที่ 1(พ.ศ.2511)ออกตามความในพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511ข้อ 3 กำหนดเงื่อนไขให้ผู้รับอนุญาตจัดหางานติดต่อรับสมัครคนหางานและจัดส่งคนหางานให้แก่นายจ้างได้ภายในเขตท้องที่จังหวัดที่สำนักงานจัดหางานนั้นตั้งอยู่เท่านั้นก็ตามแต่ก็มีข้อยกเว้นว่า การจัดส่งคนหางานให้แก่นายจ้างในต่างประเทศต้องได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนจัดหางานกลางอีกชั้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าพระราชบัญญัติดังกล่าวมีขอบข่ายบังคับรวมทั้งการจัดหางานในประเทศและต่างประเทศดังนั้นการที่จำเลยตั้ง ถ. เป็นตัวแทนจัดหางานในต่างประเทศจึงถือได้ว่าเป็นการมอบอำนาจให้ตัวแทนทำหน้าที่เกี่ยวกับการจัดหางานของตนเมื่อจำเลยมิได้จดทะเบียนตัวแทน ย่อมเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511 มาตรา 13
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1582/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของสมาคมที่ถูกเพิกถอน: ผู้ชำระบัญชียังมีอำนาจฟ้องได้จนกว่าการชำระบัญชีจะเสร็จสิ้น
ป. นายกสมาคมโจทก์ย่อมเข้าเป็นผู้ชำระบัญชีของสมาคมโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1251 วรรคแรกประกอบด้วยมาตรา 1294 แม้สมาคมโจทก์ถูกลบชื่อจากทะเบียนแล้ว ตามมาตรา 1249 ก็ให้พึงถือว่ายังคงตั้งอยู่ตราบเท่าเวลาที่จำเป็นเพื่อการชำระบัญชี สมาคมโจทก์โดยป. ผู้ชำระบัญชีจึงมีอำนาจฟ้องขับไล่จำเลยออกจากตึกแถวของโจทก์ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1480/2528 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อนจากการทำร้ายด้วยอาวุธมีคม มุ่งหวังผลประโยชน์จากเงินบำเหน็จและประกันชีวิต
จำเลยใช้อาวุธมีคมปาดเชือดคอผู้เสียหายเป็นแผลฉกรรจ์ยาว 15 เซนติเมตร ลึก 6 เซนติเมตร ตัดเข้าหลอดอาหารส่วนต้นและเส้นประสาทกล่องเสียงด้านซ้าย อันเป็นอวัยวะสำคัญ อาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ เมื่อผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเนื่องจากแพทย์ได้ทำการรักษาไว้ทัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย และจำเลยกระทำโดยมีการตระเตรียมและวางแผนการไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้หวังที่จะได้รับเงินบำเหน็จและ เงินประกันชีวิตของผู้เสียหายจึงเป็นการกระทำโดยไตร่ตรองไว้ก่อน