พบผลลัพธ์ทั้งหมด 202 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2204/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสอบสวนคดีอาญา: การมีบุคคลอื่นร่วมฟัง และการแก้ไขบันทึกคำให้การไม่ทำให้การสอบสวนเสีย
ในการสอบสวนคดีอาญา เมื่อไม่ปรากฏว่าพนักงานสอบสวนได้กระทำผิดกฎหมาย หรือผิดหน้าที่อย่างใด ลำพังแต่มีบุคคลอื่นนั่งฟังการสอบสวนพยานอยู่ด้วย หาทำให้การสอบสวนนั้นเสียไปไม่
พยานให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน 2 ครั้ง พนักงานสอบสวนอ่านบันทึกให้ฟังทั้งสองครั้ง อ่านบันทึกครั้งแรกให้ฟังแล้วพูดว่า เหตุผลแค่นี้ ไม่พอจะฆ่ากันตายได้ จึงฉีกบันทึกทิ้งแล้ว ทำขึ้นใหม่ ไม่ปรากฏว่าข้อความในบันทึกคำให้การครั้งที่ 2 ไม่ตรงกับปากคำที่พยานให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวน หรือปากคำนั้นพยานไม่ได้ให้ด้วยความสมัครใจ หรือด้วยเหตุอันมิชอบอย่างอื่นจะถือว่าการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่
พยานให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน 2 ครั้ง พนักงานสอบสวนอ่านบันทึกให้ฟังทั้งสองครั้ง อ่านบันทึกครั้งแรกให้ฟังแล้วพูดว่า เหตุผลแค่นี้ ไม่พอจะฆ่ากันตายได้ จึงฉีกบันทึกทิ้งแล้ว ทำขึ้นใหม่ ไม่ปรากฏว่าข้อความในบันทึกคำให้การครั้งที่ 2 ไม่ตรงกับปากคำที่พยานให้ไว้ต่อพนักงานสอบสวน หรือปากคำนั้นพยานไม่ได้ให้ด้วยความสมัครใจ หรือด้วยเหตุอันมิชอบอย่างอื่นจะถือว่าการสอบสวนไม่ชอบด้วยกฎหมายหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2170/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเสนอขายที่ดินที่มีเงื่อนเวลาและราคา การไม่สนองตอบภายในเวลาไม่ผูกพันจำเลย
โจทก์มีหนังสือแสดงความจำนงจะซื้อที่ดินและสอบถามราคาที่ดินด้วยว่าจำเลยมีความประสงค์จะขายที่ดินให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าในราคาตารางวาละเท่าใดเพื่อโจทก์จะได้เตรียมเงินไว้ซื้อให้ถูกต้องหนังสือตอบของจำเลยมีความว่าหากโจทก์ประสงค์จะซื้อที่ดินให้ไปทำความตกลงกับจำเลยให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด15วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือและแจ้งไปด้วยว่าจำเลยจะขายในราคาตารางวาละ1,300บาทหากพ้นกำหนดเวลาแล้วจำเลยจะถือว่าโจทก์สละสิทธิ์ที่จะซื้อที่ดินพิพาทเมื่อโจทก์ไม่สนองตอบภายในเวลาที่จำเลยกำหนดจึงไม่ผูกพันจำเลยที่จะขายที่ดินให้โจทก์อีกต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2170/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อเสนอซื้อขายที่ดินที่มีเงื่อนเวลาและราคา หากไม่สนองตอบตามกำหนด สัญญาซื้อขายไม่ผูกพัน
โจทก์มีหนังสือแสดงความจำนงจะซื้อที่ดินและสอบถามราคาที่ดินด้วยว่า จำเลยมีความประสงค์จะขายที่ดินให้โจทก์ซึ่งเป็นผู้เช่าในราคาตารางวาละเท่าใด เพื่อโจทก์จะได้เตรียมเงินไว้ซื้อให้ถูกต้อง หนังสือตอบของจำเลยมีความว่าหากโจทก์ประสงค์จะซื้อที่ดินให้ไปทำความตกลงกับจำเลยให้เสร็จสิ้นภายในกำหนด 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ และแจ้งไปด้วยว่า จำเลยจะขายในราคาตารางวาละ 1,300 บาท หากพ้นกำหนดเวลาแล้ว จำเลยจะถือว่าโจทก์สละสิทธิ์ที่จะซื้อที่ดินพิพาทเมื่อโจทก์ไม่สนองตอบภายในเวลาที่จำเลยกำหนด จึงไม่ผูกพันจำเลยที่จะขายที่ดินให้โจทก์อีกต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลาออกของผู้จัดการมรดก กรณีทายาทขัดแย้งในการแบ่งทรัพย์และบำเหน็จเป็นรายครั้ง
ทายาทมีข้อขัดแย้งไม่อาจตกลงกันให้ผู้จัดการมรดกจัดการแบ่งอสังหาริมทรัพย์ส่วนใดเป็นของทายาทคนใดถ้าผู้จัดการมรดกจัดการแบ่งทรัพย์มรดกดังกล่าวตามความต้องการของทายาทฝ่ายหนึ่งย่อมขัดกับความประสงค์ของทายาทอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งการแบ่งอาจไม่สำเร็จลุล่วงไปและอาจทำให้มีกรณีพิพาทเกิดขึ้นระหว่างทายาทกันเองและระหว่างทายาทกับผู้จัดการมรดกตามมาอีกได้ประกอบกับบำเหน็จที่ผู้จัดการมรดกได้รับก็เป็นบำเหน็จเฉพาะสำหรับผลงานที่ได้ทำสำเร็จไปแต่ละครั้งคราวกรณีมีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้ผู้จัดการมรดกลาออกจากตำแหน่ง.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2073/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลาออกของผู้จัดการมรดกเมื่อทายาทขัดแย้งและแบ่งทรัพย์ไม่ได้
ทายาทมีข้อขัดแย้งไม่อาจตกลงกันให้ผู้จัดการมรดกจัดการแบ่งอสังหาริมทรัพย์ส่วนใดเป็นของทายาทคนใดถ้าผู้จัดการมรดกจัดการแบ่งทรัพย์มรดกดังกล่าวตามความต้องการของทายาทฝ่ายหนึ่งย่อมขัดกับความประสงค์ของทายาทอีกฝ่ายหนึ่งซึ่งการแบ่งอาจไม่สำเร็จลุล่วงไปและอาจทำให้มีกรณีพิพาทเกิดขึ้นระหว่างทายาทกันเองและระหว่างทายาทกับผู้จัดการมรดกตามมาอีกได้ประกอบกับบำเหน็จที่ผู้จัดการมรดกได้รับก็เป็นบำเหน็จเฉพาะสำหรับผลงานที่ได้ทำสำเร็จไปแต่ละครั้งคราวกรณีมีเหตุสมควรที่จะอนุญาตให้ผู้จัดการมรดกลาออกจากตำแหน่ง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1732/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การได้รับช่วงสิทธิฟ้องของบริษัทประกันภัย และการไม่ต้องห้ามฎีกาเมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ
โจทก์ที่ 1 ที่ 2 และที่ 3 ฟ้องเรียกค่าเสียหายจากมูลละเมิดแยกกันมาเป็นส่วนสัดในสำนวนเดียวกัน โดยโจทก์ที่ 1 ฟ้องเรียกค่าซ่อมรถยนต์มามีทุนทรัพย์ไม่เกินห้าหมื่นบาท ศาลชั้นต้นพิพากษาให้โจทก์ที่ 1 ที่ 2 ชนะคดี ยกฟ้องโจทก์ที่ 3 และศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นให้เพียงโจทก์ที่ 2 ชนะคดี โดยยกฟ้องโจทก์ที่ 1 เสียด้วย ดังนี้ ถือว่าศาลอุทธรณ์พิพากษากลับสำหรับคดีเฉพาะโจทก์ที่ 1 โจทก์ที่ 1 จึงไม่ต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ผู้รับประกันภัยซึ่งได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์คันที่รับประกันภัยไว้แก่ผู้รับซ่อมไป เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาประกันภัยเพื่อประโยชน์ของเจ้าของรถยนต์ผู้เอาประกันภัย จึงได้รับช่วงสิทธิมาฟ้องเรียกค่าซ่อมรถได้
ผู้รับประกันภัยซึ่งได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์คันที่รับประกันภัยไว้แก่ผู้รับซ่อมไป เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญาประกันภัยเพื่อประโยชน์ของเจ้าของรถยนต์ผู้เอาประกันภัย จึงได้รับช่วงสิทธิมาฟ้องเรียกค่าซ่อมรถได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องผิดสัญญาซื้อขายและก่อสร้างที่ดิน/อาคาร โอนทรัพย์แล้ว ไม่เป็นคดีอสังหาริมทรัพย์
คำฟ้องโจทก์หาว่าจำเลยผิดสัญญาวางมัดจำซื้อที่ดินและว่าจ้างก่อสร้างอาคาร ซึ่งจำเลยได้โอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์แล้ว ให้ชดใช้ค่าเสียหายนั้น มิได้บ่งถึงการที่จะบังคับแก่ตัวทรัพย์คือที่ดินและอาคารที่ปลูกสร้างจึงไม่เป็นคำฟ้องเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์ หรือสิทธิ หรือประโยชน์ใด ๆ อันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ โจทก์จึงยื่นฟ้องต่อศาลซึ่งจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลนั้นได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำฟ้องค่าเสียหายจากสัญญาซื้อขายและก่อสร้างที่ไม่บังคับแก่ตัวทรัพย์ ถือเป็นคำฟ้องที่ไม่เกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์
คำฟ้องโจทก์หาว่าจำเลยผิดสัญญาวางมัดจำซื้อที่ดินและว่าจ้างก่อสร้างอาคารซึ่งจำเลยได้โอนที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้โจทก์แล้วให้ชดใช้ค่าเสียหายนั้นมิได้บ่งถึงการที่จะบังคับแก่ตัวทรัพย์คือที่ดินและอาคารที่ปลูกสร้างจึงไม่เป็นคำฟ้องเกี่ยวด้วยอสังหาริมทรัพย์หรือสิทธิหรือประโยชน์ใดๆอันเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์โจทก์จึงยื่นฟ้องต่อศาลซึ่งจำเลยมีภูมิลำเนาอยู่ในเขตศาลนั้นได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1591/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลอุทธรณ์ต้องพิจารณาอุทธรณ์ก่อนวินิจฉัยคดีตามมาตรา 245 หากไม่ทำ ถือไม่ถูกต้องตามกระบวนพิจารณา
ศาลชั้นต้นส่งสำนวนมายังศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 245 ก่อนแล้วต่อมาศาลชั้นต้นสั่งรับอุทธรณ์ของจำเลย และส่งอุทธรณ์มายังศาลอุทธรณ์ก่อนที่ศาลอุทธรณ์จะทำคำพิพากษาแต่ศาลอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ของจำเลย แต่กลับวินิจฉัยคดีตามมาตรา 245 ดังนี้ ศาลอุทธรณ์ต้องพิจารณาพิพากษาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1584/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการฉ้อโกง: จำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชักจูงผู้เสียหายโดยตรง
ผู้เสียหายทั้งสี่ติดต่อกับบุตรทั้งสองของจำเลยจนตกลงใจจะไปทำงานในต่างประเทศและได้ไปขอหนังสือเดินทางนัดหมายชำระเงินค่าตอบแทนให้บุตรทั้งสองของจำเลยโดยไม่ปรากฏว่าจำเลยได้มีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นแนะนำชักพาให้ผู้เสียหายเหล่านั้นนำเงินไปมอบให้แก่บุตรของตนแต่อย่างใดแม้จะปรากฏว่าขณะผู้เสียหายทั้งสี่นำเงินไปจ่ายตามนัดจำเลยอยู่ด้วยช่วยพูดเสริมคำของบุตรทั้งสองกับช่วยนับเงินที่ผู้เสียหายเหล่านั้นนำไปชำระเมื่อปรากฏว่าผู้เสียหายทั้งสี่ปลงใจที่จะจ่ายเงินถึงขนาดไปทำหนังสือเดินทางเสร็จกำหนดวันที่จะจ่ายเงินกันไว้แน่นอนแล้วโดยเชื่อตามคำพูดของบุตรทั้งสองของจำเลยก่อนที่จะพบกับจำเลยเช่นนี้ย่อมแสดงว่าผู้เสียหายทั้งสี่พร้อมที่จะจ่ายเงินให้บุตรทั้งสองของจำเลยไม่ว่าจำเลยจะอยู่ด้วยในวันนัดพบจ่ายเงินหรือไม่พฤติการณ์ของจำเลยยังฟังไม่ได้ว่าจำเลยช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกในการกระทำของบุตรทั้งสองของจำเลยจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานสนับสนุนการฉ้อโกง.