พบผลลัพธ์ทั้งหมด 122 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 135/2507
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือ จ.2 เป็นหลักฐานผูกมัดค่าเช่าใหม่ แม้ยังไม่ได้ทำสัญญาใหม่ตามรูปแบบ
ผู้เช่าทำสัญญา จ.1 เช่าทรัพย์พิพาทจากผู้ให้เช่า ค่าเช่าเดือนละ 500 บาทมีกำหนด 1 ปี และได้ทำหนังสือจ.2 ไว้ต่อกันอีกหนึ่งฉบับ มีความในข้อ 1 ว่า'ฯลฯ ผู้เช่ามีสิทธิที่จะต่อสัญญา (จ.1) ได้อีก 1 ปี โดยต้องบอกกับผู้ให้เช่าก่อนล่วงหน้า 1 เดือนแล้วทำสัญญาขึ้นใหม่อีก 1 ฉบับ และต้องเพิ่มค่าเช่าเป็นเดือนละ 3,500 บาท' ปรากฏว่า ก่อนจะครบสัญญาเช่า1 เดือน ผู้เช่าได้ให้คนไปติดต่อกับผู้ให้เช่าขอเช่าต่อและผู้ให้เช่าก็ย่อมให้เช่าต่อได้ เมื่อครบกำหนดเวลาเช่าตามสัญญา จ.1 แล้ว ผู้เช่าก็ยังคงครอบครองทรัพย์ที่เช่าต่อมา ดังนี้ หนังสือ จ.2 ย่อมเป็นหลักฐานผูกมัดผู้เช่าให้ต้องชำระค่าเช่าสำหรับการเช่าต่อมาในอัตราเดือนละ 3,500 บาทกรณีนี้ แม้ผู้เช่ากับผู้ให้เช่ายังไม่ได้ทำสัญญากันใหม่อีกฉบับหนึ่งตามความในหนังสือ จ.2 ก็ตาม ก็เป็นที่ชัดแจ้งว่าข้อความส่วนที่ได้ตกลงกันแล้วย่อมเป็นอันสมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 367 ไม่มีข้อสงสัยอันจะนับได้ว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกันตามบทบัญญัติมาตรา366 วรรค 2 นั้นอย่างใด ผู้เช่าจะเถียงว่าหนังสือจ.2 ไม่มีผลบังคับ ผู้เช่าจึงมีสิทธิที่จะให้ค่าเช่าเพียงเดือนละ 500 บาทเท่าอัตราค่าเช่าตามสัญญา จ.1เดิมนั้นหาได้ไม่ ทั้งกรณีไม่เข้ามาตรา 570 อันจะถือได้ว่าผู้ให้เช่ากับผู้เช่าเป็นอันทำสัญญาใหม่ต่อไปไม่มีกำหนดเวลา
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2504 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประมงและการยินยอมให้เข้าทำประโยชน์ แม้มิได้ทำสัญญาตามแบบ ไม่ทำให้สัญญานั้นเป็นโมฆะ
ในเรื่องการประมูลผูกขาดการทำประมงมีกฎกระทรวงเกษตรฯ วางระเบียบว่าเมื่อชี้ขาดให้ผู้ใดได้รับประมูลแล้ว ก็ให้เรียกผู้นั้นมาชำระเงินและดำเนินการออกประทานบัตรตามแบบพิมพ์ ปรากฎว่าจำเลยประมูลได้และวางเงินมัดจำไว้ 10 % แล้วจำเลยไม่มาทำสัญญาตามแบบพิมพ์ และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ออกประทานบัตรให้ ถ้าหากเจ้าหน้าที่ได้ยินยอมอนุญาตให้จำเลยเข้าทำประมงตามที่ประมูลได้นั้นและจำเลยเข้าทำ ก็ถือว่ามีสัญญาต่อกันแล้ว การไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่วางไว้ไม่ได้ทำให้สัญญาเป็นโมฆะหรือฟ้องร้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 752/2504
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประมูลและการยินยอมให้ทำประโยชน์ แม้มิได้ทำสัญญาตามระเบียบ แต่หากมีการยินยอมและทำประโยชน์แล้ว สัญญาก็มีผลผูกพัน
ในเรื่องการประมูลผูกขาดทำประมง มีกฎกระทรวงเกษตรฯ วางระเบียบว่าเมื่อชี้ขาดให้ผู้ใดได้รับประมูลแล้ว ก็ให้เรียกผู้นั้นมาชำระเงินและดำเนินการออกประทานบัตรตามแบบพิมพ์ ปรากฏว่าจำเลยประมูลได้และได้วางเงินมัดจำไว้10% แล้วจำเลยไม่มาทำสัญญาตามแบบพิมพ์ และเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ออกประทานบัตรให้ถ้าหากเจ้าหน้าที่ได้ยินยอมอนุญาตให้จำเลยเข้าทำประมงตามที่ประมูลได้นั้นและจำเลยเข้าทำ ก็ถือว่ามีสัญญาต่อกันแล้วการไม่ปฏิบัติตามระเบียบที่วางไว้ไม่ได้ทำให้สัญญาเป็นโมฆะหรือฟ้องร้องไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2498 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สลากกินแบ่งรัฐบาล: เงื่อนไขการจ่ายรางวัลต้องชัดเจนและเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา ผู้ซื้อไม่ผูกพันเงื่อนไขที่แจ้งภายหลัง
เงื่อนไขที่พิมพ์ไว้ในสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า "เงินรางวัลจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลมาขอรับ " ก็ดี " ถ้าผู้ถูกรางวัลไม่สามารถนำสลากที่ถูกรางวัลมาขอรับเงินตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ไม่ว่าเป็นกรณีใด ๆ ก็เป็นอันไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จ่ายเงินที่อ้างว่าถูกรางวัลนั้น " ก็ดี ยังแปลไม่ได้ว่าถึงแม้จะถูกรางวัลแล้ว จะไม่ได้รับรางวัลตามที่มีสิทธิ
และแม้ว่าเงื่อนไข (ข้อกำหนด) ดังกล่าวจะได้แจกจ่ายและโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงแล้วก็ตาม ยังหาผูกมัดผู้ซื้อไม่ เพราะเป็นข้อความที่นอกออกไปจากข้อสัญญาที่จำเลยระบุไว้ในสลากว่า (ว่าจะจ่ายให้แก่ผู้ถูกรางวั) จึงไม่เป็นเหตุจะให้ถือได้ว่าผู้ซื้อสลากได้รับเอาข้อสัญญาตามข้อกำหนดดังกล่าวนั้นไปด้วย
(ฎีกาที่ 1372/2497)
และแม้ว่าเงื่อนไข (ข้อกำหนด) ดังกล่าวจะได้แจกจ่ายและโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงแล้วก็ตาม ยังหาผูกมัดผู้ซื้อไม่ เพราะเป็นข้อความที่นอกออกไปจากข้อสัญญาที่จำเลยระบุไว้ในสลากว่า (ว่าจะจ่ายให้แก่ผู้ถูกรางวั) จึงไม่เป็นเหตุจะให้ถือได้ว่าผู้ซื้อสลากได้รับเอาข้อสัญญาตามข้อกำหนดดังกล่าวนั้นไปด้วย
(ฎีกาที่ 1372/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2498 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขสลากกินแบ่ง: ผู้ซื้อมีสิทธิรับรางวัลแม้ไม่มีสลากฉบับจริง หากพิสูจน์ได้ว่าถูกรางวัล
เงื่อนไขที่พิมพ์ไว้ในสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า " เงินรางวัลจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลมาขอรับ " ก็ดี " ถ้าผู้ถูกรางวัลไม่สามารถนำสลากที่ถูกรางวัลมาขอรับเงินตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ไม่ว่าเป็นกรณีใด " ก็เป็นอันไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จ่ายเงินที่อ้างว่าถูกรางวัลนั้น" ก็ดี ยังแปลไม่ได้ว่าถึงแม้จะถูกรางวัลแล้ว ถ้าไม่ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลมาแล้ว จะไม่ได้รับรางวัลตามที่มีสิทธิ
และแม้ว่าเงื่อนไข (ข้อกำหนด)ดังกล่าวจะได้แจกจ่ายและโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงแล้วก็ตาม ยังหาผูกมัดผู้ซื้อไม่ เพราะเป็นข้อความที่นอกออกไปจากข้อสัญญาที่จำเลยระบุไว้ในสลาก(ว่าจะจ่ายให้แก่ผู้ถูกรางวัล)จึงไม่เป็นเหตุจะให้ถือได้ว่าผู้ซื้อสลากได้รับเอาข้อสัญญาตามข้อกำหนดดังกล่าวนั้นไปด้วย(ฎีกาที่ 1372/2497)
และแม้ว่าเงื่อนไข (ข้อกำหนด)ดังกล่าวจะได้แจกจ่ายและโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงแล้วก็ตาม ยังหาผูกมัดผู้ซื้อไม่ เพราะเป็นข้อความที่นอกออกไปจากข้อสัญญาที่จำเลยระบุไว้ในสลาก(ว่าจะจ่ายให้แก่ผู้ถูกรางวัล)จึงไม่เป็นเหตุจะให้ถือได้ว่าผู้ซื้อสลากได้รับเอาข้อสัญญาตามข้อกำหนดดังกล่าวนั้นไปด้วย(ฎีกาที่ 1372/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1291/2498
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เงื่อนไขการจ่ายรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล: ผู้ซื้อต้องถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลเพื่อรับเงินรางวัล
เงื่อนไขที่พิมพ์ไว้ในสลากกินแบ่งรัฐบาลว่า " เงินรางวัลจ่ายแก่ผู้ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลมาขอรับ " ก็ดี " ถ้าผู้ถูกรางวัลไม่สามารถนำสลากที่ถูกรางวัลมาขอรับเงินตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ไม่ว่าเป็นกรณีใด " ก็เป็นอันไม่มีสิทธิเรียกร้องให้จ่ายเงินที่อ้างว่าถูกรางวัลนั้น" ก็ดี ยังแปลไม่ได้ว่าถึงแม้จะถูกรางวัลแล้ว ถ้าไม่ถือสลากฉบับที่ถูกรางวัลมาแล้ว จะไม่ได้รับรางวัลตามที่มีสิทธิ
และแม้ว่าเงื่อนไข (ข้อกำหนด)ดังกล่าวจะได้แจกจ่ายและโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงแล้วก็ตาม ยังหาผูกมัดผู้ซื้อไม่ เพราะเป็นข้อความที่นอกออกไปจากข้อสัญญาที่จำเลยระบุไว้ในสลาก(ว่าจะจ่ายให้แก่ผู้ถูกรางวัล)จึงไม่เป็นเหตุจะให้ถือได้ว่าผู้ซื้อสลากได้รับเอาข้อสัญญาตามข้อกำหนดดังกล่าวนั้นไปด้วย(ฎีกาที่ 1372/2497)
และแม้ว่าเงื่อนไข (ข้อกำหนด)ดังกล่าวจะได้แจกจ่ายและโฆษณาทางวิทยุกระจายเสียงแล้วก็ตาม ยังหาผูกมัดผู้ซื้อไม่ เพราะเป็นข้อความที่นอกออกไปจากข้อสัญญาที่จำเลยระบุไว้ในสลาก(ว่าจะจ่ายให้แก่ผู้ถูกรางวัล)จึงไม่เป็นเหตุจะให้ถือได้ว่าผู้ซื้อสลากได้รับเอาข้อสัญญาตามข้อกำหนดดังกล่าวนั้นไปด้วย(ฎีกาที่ 1372/2497)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1882/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องและการผัดชำระหนี้: ประเด็นการยกเหตุไม่ชัดเจนและผลของการสงวนสิทธิค่าเสียหาย
ในคำให้การจำเลยต่อสู้ว่ากรรมการบริษัทโจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องแทนบริษัทโจทก์และสัญญาท้ายฟ้องไม่ผูกพันบริษัทโจทก์ แต่ไม่ได้ยกเหตุขึ้นกล่าวอ้างว่าไม่มีอำนาจฟ้องแทน และสัญญาไม่ผูกพันนั้นเพราะเหตุใด ดังนี้จำเลยไม่มีประเด็นจะนำสืบ
เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ส่งแร่ตามที่ตกลงขอผัดส่งกันในเดือนมีนาคมแล้ว อีก 4-5 เดือนต่อมาโจทก์มีหนังสือเตือนให้จำเลยส่งภายใน 7 วันและกล่าวว่าจำเลยจะต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์นับแต่เดือนมีนาคมแม้จำเลยจะขอผัดต่อไปอีกกี่ครั้งก็ตามเมื่อโจทก์ได้สงวนสิทธิที่จะคิดค่าเสียหายในราคาแร่ระหว่างเดือนมีนาคมตลอดมาทุกครั้งดังนี้ต้องถือว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่นั้นมา และค่าเสียหายจะต้องคำนวณตามราคาแร่ในเดือนนั้นเป็นหลัก
เมื่อจำเลยผิดนัดไม่ส่งแร่ตามที่ตกลงขอผัดส่งกันในเดือนมีนาคมแล้ว อีก 4-5 เดือนต่อมาโจทก์มีหนังสือเตือนให้จำเลยส่งภายใน 7 วันและกล่าวว่าจำเลยจะต้องใช้ค่าเสียหายให้โจทก์นับแต่เดือนมีนาคมแม้จำเลยจะขอผัดต่อไปอีกกี่ครั้งก็ตามเมื่อโจทก์ได้สงวนสิทธิที่จะคิดค่าเสียหายในราคาแร่ระหว่างเดือนมีนาคมตลอดมาทุกครั้งดังนี้ต้องถือว่าจำเลยผิดนัดตั้งแต่นั้นมา และค่าเสียหายจะต้องคำนวณตามราคาแร่ในเดือนนั้นเป็นหลัก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2497
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ไม่สมบูรณ์และการสิ้นสุดสิทธิครอบครองเนื่องจากไม่ได้ทำสัญญาเช่าและไม่ชำระค่าเช่า
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลว่าจำเลยยอมยกห้องแถว 2 ชั้นของจำเลย ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 2649 ของโจทก์ ให้แก่โจทก์ และโจทก์ยอมจะให้จำเลยเช่าต่อไปโดยกำหนดเวลาเช่า สุดแต่จะตกลงกันเอง เมื่อปรากฏว่าโจทก์จำเลยตกลงกันไม่ได้ ในเรื่องกำหนดเวลาเช่าจนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 3 ปีนับแต่ทำยอมกัน ทั้งจำเลยไม่เคยชำระค่าเช่าดังนี้ ถือว่าไม่มีสัญญาเช่าต่อกัน จำเลยไม่มีสิทธิจะอยู่ในบ้านนั้นต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 987/2497 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความและการสิ้นสุดสัญญาเช่า เมื่อตกลงเงื่อนไขเวลาเช่าไม่ได้ ทำให้ไม่มีสิทธิอยู่ต่อ
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความต่อศาลว่าจำเลยยอมยกห้องแถว 2 ชั้นของจำเลย ซึ่งปลูกอยู่ในที่ดินโฉนดที่ 2649 ของโจทก์ ให้แก่โจทก์ และโจทก์ยอมจะให้จำเลยเช่าต่อไปโดยกำหนดเวลาเช่า สุดแต่จะตกลงกันเอง เมื่อปรากฎว่าโจทก์จำเลยตกลงกันไม่ได้ ในเรื่องกำหนดเวลาเช่าจนเวลาล่วงเลยมาเกือบ 3 ปี นับแต่ทำยอมกัน ทั้งจำเลยไม่มีสัญญาเช่าต่อกัน จำเลยไม่มีสิทธิจะอยู่ในบ้านนั้นต่อไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 817/2492
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าต้องมีข้อตกลงผูกพันทั้งสองฝ่าย เอกสารที่โจทก์อ้างเป็นเพียงการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว จึงไม่สามารถบังคับให้จำเลยทำสัญญาได้
โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยทำสัญญาให้โจทก์ได้เช่าห้องของจำเลยโดยอ้างว่าได้ตกลงกับจำเลยแล้วตามสำเนาหนังสือท้ายฟ้องแต่หนังสือนี้มีข้อความเพียงว่า โจทก์จะรับเช่าห้องพิพาท ไม่มีข้อความว่าจำเลยตกลงจะให้เช่าหรือข้อความอื่นใดที่ผูกมัดจำเลยเลย ดังนี้ จึงไม่มีทางบังคับจำเลยตามฟ้องโจทก์ได้