พบผลลัพธ์ทั้งหมด 122 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2866/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ การส่งมอบหรือชำระเงินไม่ถือเป็นสัญญาผูกพัน
โจทก์จำเลยเจรจาซื้อขายกระดาษโดยตกลงกันว่าจะต้องมีการทำสัญญาซื้อขาย โจทก์พิมพ์สัญญาหมาย จ.56 มาให้จำเลยลงนาม แต่จำเลยขอแก้รายละเอียดเป็นสัญญาหมาย จ.57สัญญาตัวจริงจึงเป็นสัญญาหมาย จ.57 สัญญาหมาย จ.56ซึ่งโจทก์นำมาฟ้องเป็นเพียงร่างที่จำเลยไม่ได้ลงนามเป็นคู่สัญญา จึงถือว่าไม่มีการทำสัญญาหมาย จ.56 ที่โจทก์อ้างมาเป็นหลักแห่งข้อหา โจทก์จะกล่าวหาว่าจำเลยผิดสัญญาที่นำมาฟ้องนั้นไม่ได้
แม้กฎหมายจะกำหนดวิธีการซื้อขายไว้หลายอย่างก็ตามเมื่อคู่สัญญาตกลงจะทำกันโดยวิธีทำเป็นหนังสือสัญญา จะนำเอาวิธีอื่นเช่นการส่งมอบหรือชำระราคาบางส่วนมาวินิจฉัยว่าเป็นข้อตกลงจะซื้อขายกันแล้วโดยสมบูรณ์หาได้ไม่
(อ้างฎีกาที่ 1541/2509 และ 520/2520)
แม้กฎหมายจะกำหนดวิธีการซื้อขายไว้หลายอย่างก็ตามเมื่อคู่สัญญาตกลงจะทำกันโดยวิธีทำเป็นหนังสือสัญญา จะนำเอาวิธีอื่นเช่นการส่งมอบหรือชำระราคาบางส่วนมาวินิจฉัยว่าเป็นข้อตกลงจะซื้อขายกันแล้วโดยสมบูรณ์หาได้ไม่
(อ้างฎีกาที่ 1541/2509 และ 520/2520)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2505/2524 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ฎีกาคดีเช่าและสัญญาจองซื้อที่ไม่สมบูรณ์
คดีที่โจทก์ฟ้องและจำเลยฟ้องแย้ง จะอุทธรณ์ฎีกาได้เพียงใดหรือไม่ต้องแยกพิจารณาคนละส่วน
สัญญาจองอาคารพาณิชย์ของโจทก์ ก็คือสัญญาซึ่ง จำเลยมีเจตนาจะเช่าอาคารพาณิชย์ของโจทก์อันเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์
โจทก์จำเลยมีเจตนาที่จะทำสัญญาจองตึกแถวกันเป็นหนังสือเมื่อข้อความแห่งสัญญาอันเป็นสาระสำคัญยังไม่ได้ตกลงกันหมดทุกข้อ และสัญญายังมิได้ทำเป็นหนังสือตามที่ตกลงกัน ย่อมนับว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 จำเลยจะอ้างว่า มีสัญญาจองอาคารพาณิชย์ระหว่างโจทก์จำเลยและอ้างสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญานั้นหาได้ไม่
เมื่อพยานจำเลยเท่าที่นำสืบมากระจ่างชัดแล้ว แม้จะให้สืบพยานจำเลยต่อไปก็ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงในเรื่องของจำเลยดีกว่าจำเลยเอง คดีจึงไม่มีประโยชน์อย่างใดที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยเพิ่มเติม
สัญญาจองอาคารพาณิชย์ของโจทก์ ก็คือสัญญาซึ่ง จำเลยมีเจตนาจะเช่าอาคารพาณิชย์ของโจทก์อันเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์
โจทก์จำเลยมีเจตนาที่จะทำสัญญาจองตึกแถวกันเป็นหนังสือเมื่อข้อความแห่งสัญญาอันเป็นสาระสำคัญยังไม่ได้ตกลงกันหมดทุกข้อ และสัญญายังมิได้ทำเป็นหนังสือตามที่ตกลงกัน ย่อมนับว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 จำเลยจะอ้างว่า มีสัญญาจองอาคารพาณิชย์ระหว่างโจทก์จำเลยและอ้างสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญานั้นหาได้ไม่
เมื่อพยานจำเลยเท่าที่นำสืบมากระจ่างชัดแล้ว แม้จะให้สืบพยานจำเลยต่อไปก็ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงในเรื่องของจำเลยดีกว่าจำเลยเอง คดีจึงไม่มีประโยชน์อย่างใดที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยเพิ่มเติม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2505/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์ฎีกาในคดีเช่าทรัพย์สิน และการไม่มีผลผูกพันตามสัญญาจองที่ไม่สมบูรณ์
คดีที่โจทก์ฟ้องและจำเลยฟ้องแย้ง จะอุทธรณ์ฎีกาได้เพียงใดหรือไม่ต้องแยกพิจารณาคนละส่วน
สัญญาจองอาคารพาณิชย์ของโจทก์ ก็คือสัญญาซึ่ง จำเลยมีเจตนาจะเช่าอาคารพาณิชย์ของโจทก์อันเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์
โจทก์จำเลยมีเจตนาที่จะทำสัญญาจองตึกแถวกันเป็นหนังสือเมื่อข้อความแห่งสัญญาอันเป็นสาระสำคัญยังไม่ได้ตกลงกันหมดทุกข้อ และสัญญายังมิได้ทำเป็นหนังสือตามที่ตกลงกัน ย่อมนับว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 จำเลยจะอ้างว่า มีสัญญาจองอาคารพาณิชย์ระหว่างโจทก์จำเลยและอ้างสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญานั้นหาได้ไม่
เมื่อพยานจำเลยเท่าที่นำสืบมากระจ่างชัดแล้ว แม้จะให้สืบพยานจำเลยต่อไปก็ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงในเรื่องของจำเลยดีกว่าจำเลยเอง คดีจึงไม่มีประโยชน์อย่างใดที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยเพิ่มเติม
สัญญาจองอาคารพาณิชย์ของโจทก์ ก็คือสัญญาซึ่ง จำเลยมีเจตนาจะเช่าอาคารพาณิชย์ของโจทก์อันเป็นการเช่าอสังหาริมทรัพย์
โจทก์จำเลยมีเจตนาที่จะทำสัญญาจองตึกแถวกันเป็นหนังสือเมื่อข้อความแห่งสัญญาอันเป็นสาระสำคัญยังไม่ได้ตกลงกันหมดทุกข้อ และสัญญายังมิได้ทำเป็นหนังสือตามที่ตกลงกัน ย่อมนับว่ายังมิได้มีสัญญาต่อกันตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 จำเลยจะอ้างว่า มีสัญญาจองอาคารพาณิชย์ระหว่างโจทก์จำเลยและอ้างสิทธิอย่างใดอย่างหนึ่งตามสัญญานั้นหาได้ไม่
เมื่อพยานจำเลยเท่าที่นำสืบมากระจ่างชัดแล้ว แม้จะให้สืบพยานจำเลยต่อไปก็ไม่มีใครรู้ข้อเท็จจริงในเรื่องของจำเลยดีกว่าจำเลยเอง คดีจึงไม่มีประโยชน์อย่างใดที่จะย้อนสำนวนไปให้ศาลชั้นต้นสืบพยานจำเลยเพิ่มเติม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2524
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินไม่สมบูรณ์หากยังไม่ตกลงเงื่อนไขตามเจตนาของคู่สัญญา การขายให้ผู้อื่นเป็นเหตุให้เรียกเงินมัดจำคืนได้
แม้การทำสัญญาจะซื้อขายที่ดินกฎหมายกำหนดให้ทำได้หลายวิธีด้วยกัน แต่เมื่อคู่สัญญากำหนดจะทำกันโดยวิธีทำเป็นหนังสือ ก็ต้องเป็นไปตามเจตนาของคู่สัญญา ตามเอกสารหมาย จ.1 ซึ่งเป็นสัญญาฉบับแรกระบุไว้ว่า สัญญาดังกล่าวยังไม่ถือเป็นข้อยุติในการซื้อขายจนกว่าจะได้ทำสัญญามีเงื่อนไขตรงกับความประสงค์ของทั้งสองฝ่ายดังนั้น เอกสารหมาย จ.1 จึงนับว่ายังมิได้มีสัญญาผูกพันเป็นสัญญาจะซื้อจะขายที่ดินรายพิพาทต่อกัน การที่จำเลยนำที่ดินพิพาทส่วนใหญ่ไปขายให้แก่ผู้อื่นหลังจากนั้น แสดงว่าจำเลยไม่ประสงค์จะทำสัญญาจะซื้อขาย กับโจทก์ต่อไปตามที่เคยตกลงไว้ จำเลยจึงไม่มีสิทธิอย่างใดที่จะยึดเงินมัดจำของโจทก์.ที่มอบให้จำเลยไว้ โจทก์มีสิทธิเรียกเงินจำนวนนี้คืนจากจำเลย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3267/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าที่ไม่เป็นลายลักษณ์อักษรและการยกข้อต่อสู้เรื่องการเช่า การพิสูจน์สิทธิการเช่าต้องมีหลักฐานเป็นหนังสือ
ใบรับมัดจำค่าเช่าในกรณีที่ตกลงกันว่าจะทำสัญญาเช่าเป็นหนังสืออีก เมื่อไม่ได้ทำสัญญาเช่าเป็นหนังสือ ผู้เช่ายกเรื่องการเช่าขึ้นต่อสู้ไม่ได้
ข้อที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน และข้อที่ยกขึ้นอ้างในศาลชั้นต้นไม่ได้เพราะพฤติการณ์นอกเหนือนั้น แม้ผู้อุทธรณ์ยกขึ้นอ้างในอุทธรณ์ได้ แต่ศาลอุทธรณ์จะไม่ยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
ข้อที่เกี่ยวด้วยความสงบเรียบร้อยของประชาชน และข้อที่ยกขึ้นอ้างในศาลชั้นต้นไม่ได้เพราะพฤติการณ์นอกเหนือนั้น แม้ผู้อุทธรณ์ยกขึ้นอ้างในอุทธรณ์ได้ แต่ศาลอุทธรณ์จะไม่ยกขึ้นวินิจฉัยได้ ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 142
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2837/2522 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฝากทรัพย์โดยได้รับค่าตอบแทน จำเลยผู้รับฝากมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบต่อทรัพย์สินที่ฝาก แม้มีประกาศปฏิเสธความรับผิดชอบ
การที่โจทก์นำรถยนต์ไปจอดฝากไว้ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยโดยเสียค่าฝาก 10 บาทต่อวัน เป็นการฝากทรัพย์ แม้จำเลยจะได้ประกาศว่า จะไม่รับผิดชอบในการสูญหายหรือเสียหายใด ๆ และลูกจ้างของโจทก์เป็นผู้เก็บกุญแจรถไว้ ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นจากการรับผิด และกรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องจำเลยให้โจทก์เช่าสถานที่จอดรถ
นิติบุคคลจะมีวัตถุประสงค์ในการรับฝากทรัพย์หรือไม่ก็ตาม เมื่อรับฝากทรัพย์ไว้และได้รับบำเหน็จค่าฝากตลอดมา จะปลีกตนให้พ้นความรับผิดหาได้ไม่
นิติบุคคลจะมีวัตถุประสงค์ในการรับฝากทรัพย์หรือไม่ก็ตาม เมื่อรับฝากทรัพย์ไว้และได้รับบำเหน็จค่าฝากตลอดมา จะปลีกตนให้พ้นความรับผิดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2837/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฝากทรัพย์ แม้มีประกาศสละความรับผิดชอบ ก็ยังต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นจากการรับฝาก
การที่โจทก์นำรถยนต์ไปจอดฝากไว้ที่ปั๊มน้ำมันของจำเลยโดยเสียค่าฝาก 10 บาทต่อวัน เป็นการฝากทรัพย์ แม้จำเลยจะได้ประกาศว่า จะไม่รับผิดชอบในการสูญหายหรือเสียหายใด ๆ และลูกจ้างของโจทก์เป็นผู้เก็บกุญแจรถไว้ ก็ไม่ทำให้จำเลยพ้นจากการรับผิด และกรณีเช่นนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องจำเลยให้โจทก์เช่าสถานที่จอดรถ
นิติบุคคลจะมีวัตถุประสงค์ในการรับฝากทรัพย์หรือไม่ก็ตามเมื่อรับฝากทรัพย์ไว้และได้รับบำเหน็จค่าฝากตลอดมา จะปลีกตนให้พ้นความรับผิดหาได้ไม่
นิติบุคคลจะมีวัตถุประสงค์ในการรับฝากทรัพย์หรือไม่ก็ตามเมื่อรับฝากทรัพย์ไว้และได้รับบำเหน็จค่าฝากตลอดมา จะปลีกตนให้พ้นความรับผิดหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1599/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประกวดราคาที่ไม่ผูกพันสัญญา หากตกลงรายละเอียดไม่ได้ ผู้เสนอราคาต่ำสุดไม่จำเป็นต้องได้สัญญา
จำเลยประกาศแจ้งการประกวดราคาจ้างเหมาก่อสร้างอาคารของจำเลยโจทก์ยื่นซองประกวดราคาโดยเสนอราคาต่ำกว่ารายอื่น เมื่อปรากฏตามประกาศแจ้งการประกวดราคาของจำเลยดังกล่าวว่าจำเลยทรงไว้ซึ่งสิทธิที่จะเลือกจ้างผู้ประกวดราคารายใดก็ได้ หาจำต้องว่าจ้างผู้เสนอราคาต่ำสุดเสมอไปไม่ประกอบกับการที่ต่อมาโจทก์กับจำเลยได้เจรจา แต่ตกลงกันไม่ได้ในรายละเอียดการก่อสร้างและกำหนดการจ่ายค่าจ้าง จึงยังมิได้ทำสัญญากัน ดังนี้ จึงหามีผลผูกพันให้จำเลยต้องยอมให้โจทก์เข้าทำการก่อสร้างอาคารโดยไม่ต้องทำสัญญากันไม่และจะถือว่า จำเลยทำผิดสัญญาหาได้ไม่
โจทก์ยื่นซองประกวดราคาโดยเสนอราคา 9,250,000 บาทต่ำกว่ารายอื่น แม้จำเลยจะมีเงินทุนที่จดทะเบียนไว้เพียง 1 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าจำเลยจะได้เงินค่าก่อสร้างล่วงหน้าจากผู้มาสั่งจองซื้ออาคารถึง 80 คูหา ๆ ละประมาณสองแสนบาท และจำเลยสามารถเบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารได้ในวงเงิน 5 ล้านบาท แสดงว่าจำเลยมีเงินพอชำระค่าก่อสร้างให้โจทก์ และมีเจตนาที่จะทำการก่อสร้างจริงๆ ไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาไม่สุจริตโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหายเหตุที่ไม่มีการทำสัญญากันเพราะตกลงกันไม่ได้ในรายละเอียดจำเลยจึงหาได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ไม่
โจทก์ยื่นซองประกวดราคาโดยเสนอราคา 9,250,000 บาทต่ำกว่ารายอื่น แม้จำเลยจะมีเงินทุนที่จดทะเบียนไว้เพียง 1 ล้านบาท แต่ปรากฏว่าจำเลยจะได้เงินค่าก่อสร้างล่วงหน้าจากผู้มาสั่งจองซื้ออาคารถึง 80 คูหา ๆ ละประมาณสองแสนบาท และจำเลยสามารถเบิกเงินเกินบัญชีจากธนาคารได้ในวงเงิน 5 ล้านบาท แสดงว่าจำเลยมีเงินพอชำระค่าก่อสร้างให้โจทก์ และมีเจตนาที่จะทำการก่อสร้างจริงๆ ไม่มีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่า จำเลยมีเจตนาไม่สุจริตโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อทำให้โจทก์เสียหายเหตุที่ไม่มีการทำสัญญากันเพราะตกลงกันไม่ได้ในรายละเอียดจำเลยจึงหาได้กระทำละเมิดต่อโจทก์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 885/2521
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างไม่สมบูรณ์ หากไม่ตกลงในแบบแปลนและรายละเอียดสำคัญ
สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างมีข้อความระบุว่า ผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างตกลงทำการก่อสร้างอาคารตามแบบแปลนแผนผังและรายการละเอียดการก่อสร้างที่แนบกับสัญญาและแต่ละฝ่ายถือสัญญาไว้คนละฉบับพร้อมด้วยแบบแปลนแผนผังและรายการละเอียดการก่อสร้างอันได้ลงนามกำกับไว้ทุกแผ่น แบบแปลนแผนผังและรายการละเอียดการก่อสร้างจึงเป็นสารสำคัญของสัญญาซึ่งจะต้องตกลงกันในขณะที่ทำสัญญา ดังนั้นแม้ว่าจำเลยที่ 2 ซึ่งเป็นกรรมการผู้จัดการบริษัทจำเลยที่ 1 จะได้ลงนามในสัญญาเป็นผู้รับจ้างในนามของจำเลยที่ 1 แต่เมื่อโจทก์ไม่ส่งแบบแปลนแผนผังและรายการละเอียดการก่อสร้างไปให้จำเลยลงนามกำกับทุกแผ่นดังระบุไว้ในสัญญา ก็ต้องถือว่าโจทก์จำเลยยังไม่ตกลงกันได้ในเรื่องแบบแปลนแผนผังและรายการละเอียดการก่อสร้างอันถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาทั้งยังปรากฏว่าข้อกำหนดในเรื่องวันทำการและเริ่มต้นวันทำการก่อสร้างอันเป็นสารสำคัญส่วนหนึ่งของสัญญาก็ยังตกลงกันไม่เป็นที่เรียบร้อยและถูกต้อง กรณีจึงต้องด้วยประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 ถือว่าโจทก์จำเลยยังไม่ได้มีสัญญาต่อกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 520/2520 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาซื้อขายต้องทำเป็นหนังสือ การปฏิเสธลงนามเนื่องจากเลตเตอร์ออฟเครดิตล่าช้า ไม่ถือเป็นการผิดสัญญา
โจทก์เป็นบริษัทจำกัดอยู่ที่ประเทศอังกฤษ จำเลยที่ 1 เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัดในประเทศไทย ซ.ผู้แทนโจทก์ติดต่อกับจำเลยที่ 1 ตกลงซื้อขายปอกัน ซ.และจำเลยที่ 1 ได้มีหนังสือแจ้งให้โจทก์ทราบปริมาณและราคาที่จะขาย โจทก์มีหนังสือยืนยันมายังจำเลยที่ 1 พร้อมทั้งส่งสัญญาซื้อขายมาด้วย เพื่อให้จำเลยที่ 1 ลงชื่อในฐานผู้ขาย โจทก์เปิดเลตเตอร์อ๊อฟเครดิตส่งมาแต่ล่าช้าและผิดพลาด จำเลยที่ 1 จึงไม่ลงชื่อในสัญญาซื้อขาย การซื้อขายปอระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ครั้งก่อนๆ ต้องทำเป็นหนังสือทุกครั้ง พฤติการณ์ที่ปฏิบัติกันในการซื้อขายปอรายพิพาทเห็นได้ว่าโจทก์และจำเลยที่ 1 มีเจตนาที่จะให้สัญญาซื้อขาย จึงถือไม่ได้ว่าสัญญาซื้อขายได้ทำเป็นหนังสือตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 366 สัญญาซื้อขายยังไม่มี