พบผลลัพธ์ทั้งหมด 46 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1244/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้าม & การอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกา: จำเลยต้องใช้วิธีการปกติคืออุทธรณ์ไปยังศาลอุทธรณ์ ไม่ใช่ร้องขอให้ศาลดำเนินการให้
การที่จำเลยขวนขวายจะให้ได้ คำรับรองเพื่อฎีกา เป็นการรับอยู่ในตัวว่าจำเลยเห็นด้วยกับศาลชั้นต้นที่ไม่รับฎีกาของจำเลย เพราะต้องห้ามตามกฎหมาย กรณีจึงไม่เข้าประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 224 ซึ่งให้ร้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลฎีกา
เมื่อไม่ต้องด้วยบทบัญญัติให้ร้องตรงมายังศาลฎีกา อีกทั้งยังไม่มีการรับฎีกาอันจะถือได้ว่า คดีได้ขึ้นสู่ศาลฎีกาแล้ว หากจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้น จำเลยก็มีแต่ทางจะอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 20/2503)
เมื่อไม่ต้องด้วยบทบัญญัติให้ร้องตรงมายังศาลฎีกา อีกทั้งยังไม่มีการรับฎีกาอันจะถือได้ว่า คดีได้ขึ้นสู่ศาลฎีกาแล้ว หากจำเลยไม่เห็นด้วยกับคำสั่งศาลชั้นต้น จำเลยก็มีแต่ทางจะอุทธรณ์ต่อศาลอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 20/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขอุทธรณ์ที่ผิดพลาด: ศาลชอบที่จะกำหนดเวลาให้จำเลยยื่นอุทธรณ์ใหม่ได้ ไม่เป็นการยืดเวลา
ปัญหาว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งแล้วแต่ศาลชั้นต้นจะเห็นสมควร นั้นเป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลขตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลาถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควรการที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นการยืดเวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ไม่หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้วหรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ของจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลขตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลาถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควรการที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นการยืดเวลาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23 ไม่หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้วหรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 495/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขฟ้องอุทธรณ์ที่ผิดพลาด: ศาลมีอำนาจกำหนดเวลาให้แก้ไขได้ ไม่ถือเป็นการยืดเวลา
ปัญหาว่า คำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ให้ศาลชั้นต้นกำหนดให้จำเลยแก้อุทธรณ์ของจำเลยที่ผิดพลาดมายื่นใหม่ภายในกำหนดระยะเวลาซึ่งแล้ว แต่ศาลชั้นต้นจะเห็นสมควร นั้น เป็นการชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมาย
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ขอจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลข ตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจ ป.วิ.พ. มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15 ป.วิ.อ. ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลา ถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควร การที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นยืดเวลา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ไม่ หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้ว หรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
ศาลชั้นต้นตำหนิฟ้องอุทธรณ์ขอจำเลยเพราะพิมพ์ตัวเลข ตอนย่อคำพิพากษาศาลชั้นต้นไขว้เขวไป หาใช่ตัวบรรยายอุทธรณ์แท้ไม่ ศาลชั้นต้นสั่งให้ทำมาใหม่ซึ่งต้องเข้าใจว่า ศาลสั่งโดยอาศัยอำนาจ ป.วิ.พ. มาตรา 18 ประกอบด้วยมาตรา 15 ป.วิ.อ. ซึ่งศาลชอบที่จะกำหนดระยะเวลา ถ้าศาลไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ก็พึงเข้าใจว่า ภายในระยะเวลาอันสมควร การที่ศาลชั้นต้นจะอนุญาตให้จำเลยแก้ฟ้องอุทธรณ์หรือยื่นฟ้องอุทธรณ์ใหม่ให้ถูกต้องตามที่ศาลชั้นต้นตำหนิ หาใช่เป็นยืดเวลา ตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ไม่ หากแต่เป็นเรื่องจะให้ยื่นอุทธรณ์ใหม่ตามที่สั่งไว้เดิมแล้ว หรือไม่เท่านั้น (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 6/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2503 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ในคดีอาญา แม้ศาลชั้นต้นเป็นศาลแขวง และการใช้กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ แม้ศาลชั้นต้นนั้นจะเป็นศาลแขวงคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก็หาถึงที่สุดไม่ ยังชอบที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ต่อมาได้ตามกระบวนความ
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)
(ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 2/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 335/2503
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์ที่ไม่รับอุทธรณ์คดีอาญา: ศาลฎีกาไม่รับฎีกาเนื่องจากคำสั่งศาลอุทธรณ์ยังไม่ถึงที่สุด
ในคดีอาญาที่ศาลอุทธรณ์ได้มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ แม้ศาลชั้นต้นนั้นจะเป็นศาลแขวงคำสั่งของศาลอุทธรณ์ก็หาถึงที่สุดไม่ยังชอบที่จะฎีกาคัดค้านคำสั่งของศาลอุทธรณ์ต่อมาได้ตามกระบวนความ (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 2/2503)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2494
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลระหว่างพิจารณาคดีอาญา: การงดสืบพยานและไม่อนุญาตพยานเพิ่มเติมเป็นคำสั่งที่ไม่สามารถอุทธรณ์ได้
การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ที่ไม่มาศาลตามนัดและไม่อนุญาตให้โจทก์อ้างพยานเพิ่มเติมนั้น เป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 196 หาใช่กรณีที่เข้าตามบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 18หรือ 24 ไม่
ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์คู่ความฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์นี้ได้
ศาลอุทธรณ์สั่งยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์คู่ความฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์นี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 64/2494 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลระหว่างพิจารณาคดีอาญา: การงดสืบพยานและการไม่อนุญาตสืบพยานเพิ่มเติม เป็นคำสั่งที่ไม่อุทธรณ์ได้
การที่ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์ที่ไม่มาศาลตามนัดและไม่อนุญาตให้โจทก์อ้างพยานเพิ่มเติมนั้นเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้น ซึ่งต้องห้ามอุทธรณ์ตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 196 หาใช่กรณีที่เข้าตามบทบัญญัติ ป.ม.วิ.แพ่งมาตรา 18 หรือ 24 ไม่.
ศาลอุทธรณ์สั่ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ คู่ความฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์นี้ได้
ศาลอุทธรณ์สั่ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นที่สั่งไม่รับอุทธรณ์ คู่ความฎีกาคำสั่งศาลอุทธรณ์นี้ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2493 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งศาลเกี่ยวกับอายุความคดีอาญา: การอุทธรณ์คำสั่งระหว่างพิจารณาต้องห้ามตามกฎหมาย
คดีอาญาที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้กระทำผิดและศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีของโจทก์นั้นไม่ขาดอายุความแล้วดำเนินการพิจารณาต่อไป ดังนี้จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวนั้นไม่ได้โดยถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามตาม ป.ม.วิ.อาญามาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 455/2493
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำสั่งระหว่างพิจารณาคดีอาญา: การอุทธรณ์ข้ออายุความและการห้ามอุทธรณ์ตามมาตรา 196
คดีอาญาที่จำเลยให้การต่อสู้ว่าไม่ได้กระทำผิด และศาลชั้นต้นสั่งว่า คดีของโจทก์นั้นไม่ขาดอายุความแล้วดำเนินการพิจารณาต่อไป ดังนี้ จำเลยจะอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นดังกล่าวนั้นไม่ได้ โดยถือว่าเป็นคำสั่งระหว่างพิจารณา ต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 196
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 432/2491 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ของกลางในคดีภาษีสรรพสามิต: พยานหลักฐานต้องชัดเจนและครบถ้วน
ในคดีที่หาว่าจำเลยมีน้ำข้าวหมักส่าเชื้อสุราเถื่อน มีแอลกอฮอล์สามารถดื่มกินได้เช่นเดียวกับน้ำสุรา ไว้ในครอบครองนั้น โจทก์ไม่นำผู้ตรวจพิสูจน์ของกลางมาสืบ แม้แต่รายงานการตรวจและของกลางก็ไม่ได้ส่งศาล คงนำพะยานปากหนึ่งซึ่งไม่ใช่เป็นผู้ตรวจของกลางมาสืบว่า อำเภอได้พิสูจน์ของกลางแล้ว มีดีกรีได้เช่นเดียวกับสุราดังนี้ ยังไม่พอจะชี้ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุราตามบทวิเคราะห์แห่งกฏหมาย คดีจึงลงโทษจำเลยไม่ได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุรา พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบ ดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฏหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้
ศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยตามฟ้องและริบของกลาง ศาลอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์สืบไม่ได้ว่าของกลางเป็นน้ำสุรา พิพากษายกฟ้อง แต่ของกลางให้ริบ ดังนี้ แม้จำเลยจะไม่ได้ฎีกาในเรื่องริบของกลาง เมื่อคดียังชี้ขาดไม่ได้ว่าของกลางเป็นของผิดกฏหมาย ย่อมสั่งยกเรื่องริบของกลางเสียได้