คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
ป.วิ.พ. ม. 147

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 205 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประนีประนอมยอมความมีผลผูกพันเมื่อมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้ว โจทก์ฟ้องซ้ำไม่ได้
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมีคำพิพากษาให้เป็นไปตามสัญญาจนคดีถึงที่สุดแล้ว คู่ความจะมาฟ้องใหม่ขอให้ทำลายเสียไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1777/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลผูกพันสัญญาประนีประนอมยอมความที่ถึงที่สุดแล้ว ไม่อาจฟ้องเพิกถอนได้ แม้อ้างถูกหลอกลวง
สัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งมีคำพิพากษาให้เป็นไปตามสัญญาจนคดีถึงที่สุดแล้ว คู่ความจะมาฟ้องใหม่ขอให้ทำลายเสียไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2499 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เมื่อจำเลยเลิกกิจการก่อนบังคับคดี: สัญญาค้ำประกันสิ้นผล
จำเลยเป็นสาขาของบริษัทจำกัดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ ทนายของจำเลยยื่นอุทธรณ์ ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยเลิกกิจการแต่ไม่มีผู้ใดคัดค้านให้ศาลอุทธรณ์ทราบต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษาเช่นนี้ถือว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้นใช้บังคับได้ คดีหาได้ถึงที่สุดไปในวันที่จำเลยเลิกกิจการไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 392/2499

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลบังคับใช้คำพิพากษาเมื่อจำเลยเลิกกิจการ: สัญญาค้ำประกันสิ้นสุดก่อนการบังคับคดี
จำเลยเป็นสาขาของบริษัทจำกัดซึ่งอยู่ในต่างประเทศ ทนายของจำเลยยื่นอุทธรณ์ ในระหว่างอุทธรณ์จำเลยเลิกกิจการแต่ไม่มีผู้ใดคัดค้านให้ศาลอุทธรณ์ทราบต่อมาศาลอุทธรณ์ได้มีคำพิพากษา เช่นนี้ถือว่าคำพิพากษาศาลอุทธรณ์นั้นใช้บังคับได้คดีหาได้ถึงที่สุดไปในวันที่จำเลยเลิกกิจการไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 669/2495

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยกเว้นข้อฟ้องเคลือบคลุมหลังศาลอุทธรณ์ให้พิจารณาใหม่ และการระบุพยานหลังกำหนด
ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องโจทก์ โดยวินิจฉัยว่าฟ้องโจทก์เคลือบคลุมศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าฟ้องของโจทก์ไม่เคลือบคลุมพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ดังนี้ จำเลยชอบที่จะฎีกาต่อไปว่าฟ้องของโจทก์เคลือบคลุม ถ้าจำเลยมิได้ฎีกาปล่อยให้ขาดอายุความฎีกาแล้ว เมื่อศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาใหม่ ให้จำเลยแพ้คดีและศาลอุทธรณ์พิพากษายืนจำเลยฎีกา แล้วจะยกข้อฟ้องเคลือบคลุมขึ้นโต้แย้งอีกไม่ได้ เพราะปัญหาข้อนี้ถึงที่สุดไปแล้ว
ยื่นระบุพยานวันที่ 1 ซึ่งนัดพิจารณาสืบพยานไว้ในวันที่ 4 ดังนี้ ถือว่าระบุพยานไม่ก่อนวันสืบพยาน 3 วันเต็ม ศาลไม่รับระบุพยานดังกล่าวแล้ว ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1706/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจการขายทรัพย์สินของสหประชาชาติและการพิสูจน์ความเป็นเจ้าของโกดังมีผลต่อการฟ้องละเมิด
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยจากที่ดินของโจทก์และสิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน จำเลยต่อสู้ว่าโจทก์ให้บริษัทมิตซุย ฯ ซึ่งเป็นชนชาติญี่ปุ่นเช่าที่ดินปลูกโกดัง โดยมีสัญญาว่าสิ่งปลูกสร้างนี้เป็นของบริษัทมิตซุย ฯ บริษัทรื้อถอนไปได้ และเมื่อประเทศญี่ปุ่นแพ้สงคราม สิ่งปลูกสร้างนี้ตกอยู่ในความครอบครองดูแลของ ก.ท.ส. โดยอำนาจแห่ง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกักคุมตัวและควบคุมจัดการ ฯลฯ และจำเลยรับว่า ต่อมาสหประชาชาติได้ขายเลหลังโกดังหมายเลข 1,2,8,9 บนที่ดินพิพาทโดยโจทก์เป็นผู้ประมูลซื้อได้ แต่จำเลยยังเถียงว่าสหประชาชาติไม่มีอำนาจขายดังนี้ ถ้าหากเป็นจริงดังข้อเถียงของจำเลย โจทก์ก็ไม่ใช่เจ้าของโกดัง จำเลยก็ไม่ต้องรับผิดฐานละเมิดในการใช้โกดังนั้นต่อโจทก์
ฉะนั้นการที่ศาลล่างชี้ขาดปัญหาเบื้องต้นตามมาตรา 24 ประมวลวิธีพิจารณาความแพ่ง ว่าโกดังหมายเลข 1,2,8,9 เป็นของโจทก์จึงไม่ชอบ
ส่วนปัญหาเกี่ยวกับที่ดินนั้น จำเลยไม่ได้แสดงว่ามีสิทธอย่างไร การห้ามจำเลยไม่ให้ใช้ที่ดินจึงเป็นการชอบแล้ว
ศาลฎีกามีอำนาจพิพากษาแก้คำพิพากษาศาลล่างโดยให้ยกคำชี้ขาดบางข้อเสียแล้ว ให้ดำเนินการพิจารณาใหม่ ส่วนนอกนั้นยืนตามได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1454/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนสุราข้ามเขตและแหล่งที่มาของสุรา ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าการยกลังสุราเข้าร้านไม่ใช่การขนข้ามเขต
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขายสุราที่ผลิตขึ้นในจังหวัดฉะเชิงเทราจำเลยได้ขนเหล้าที่ผลิตจากที่อื่นไม่ใช่ผลิตจากจังหวัดฉะเชิงเทราซึ่งอยู่ในลังวางอยู่บนบาทวิถี จะเอาเข้าร้านนั้น ไม่เป็นการขนสุราจากตำบลหนึ่งถึงอีกตำบลหนึ่งหรือจากจังหวัดหนึ่งถึงอีกจังหวัดหนึ่ง จำเลยจึงไม่มีผิดฐานขนสุรา โดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีสุรา โดยแสดงไม่ได้ว่าซื้อมาจากผู้ที่ควรขายตามมาตรา 4 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม พ.ศ. 2476 กับฐานขนสุราข้ามตำบลตามมาตรา 11, 12 แห่ง พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ. 1248 ศาลชั้นต้นลงโทษฐานขนสุราข้ามเขตต์ตามมาตรา 11, 12 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานซื้อสุราจากผู้ที่ไม่ควรขายตามมาตรา 4 พ.ร.บ.ภาษีชี้นในแก้ไขเพิ่มเติม 2476 ไม่ได้ เพราะโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1454/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขนสุราข้ามเขตจังหวัดและความผิดตาม พ.ร.บ.ภาษีชั้นใน การกระทำที่ไม่เข้าข่ายการขนส่ง
จำเลยได้รับอนุญาตให้ขายสุราที่ผลิตขึ้นในจังหวัดฉะเชิงเทรา จำเลยได้ขนเหล้าที่ผลิตจากที่อื่นไม่ใช่ผลิตจากจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งอยู่ในลังวางอยู่บนบาทวิถีจะเอาเข้าร้านนั้น ไม่เป็นการขนสุราจากตำบลหนึ่งถึงอีกตำบลหนึ่งหรือจากจังหวัดหนึ่งถึงอีกจังหวัดหนึ่ง จำเลยจึงไม่มีผิดฐานขนสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีสุราโดยแสดงไม่ได้ว่าซื้อมาจากผู้ที่ควรขายตามมาตรา 4 แห่งพ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติมพ.ศ.2476 กับฐานขนสุราข้ามตำบลตามมาตรา 11,12 แห่งพ.ร.บ.ภาษีชั้นใน จ.ศ.1248ศาลชั้นต้นลงโทษฐานขนสุราข้ามเขตตามมาตรา 11,12 จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้อง ดังนี้ โจทก์จะฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยฐานซื้อสุราจากผู้ที่ไม่ควรขายตามมาตรา 4 พ.ร.บ.ภาษีชั้นในแก้ไขเพิ่มเติม 2476 ไม่ได้เพราะโจทก์ไม่ได้อุทธรณ์ไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2492

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจากการบังคับคดีตามคำพิพากษาถึงที่สุด ไม่กระทบจากคดีเรียกค่าเสียหายที่ศาลยกฟ้อง
ศาลได้พิพากษาให้จำเลยขุดเหมืองให้น้ำไหลสู่นาโจทก์คดีถึงที่สุดแล้ว การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายอีกคดีหนึ่ง แต่ศาลยกฟ้องเพราะโจทก์สืบความเสียหายไม่ได้ ดังนี้ ย่อมไม่กระทบกระทั่งสิทธิของโจทก์ที่มีอยู่แล้วตามคำพิพากษาคดีแรกแต่อย่างใด ไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้รอฟังผลของคดีหลัง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1253/2492 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิจากการบังคับคดีตามคำพิพากษาถึงที่สุด แม้มีการฟ้องเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม ก็ไม่กระทบสิทธิเดิม
ศาลได้พิพากษาให้จำเลยขุดเหมืองให้น้ำไหลสู่นาโจทก์คดีถึงที่สุดแล้ว การที่โจทก์ฟ้องจำเลยเรียกค่าเสียหายอีกคดีหนึ่ง แต่ศาลยกฟ้องเพราะโจทก์สืบความเสียหายไม่ได้ ดังนี้ ย่อมไม่กระทบกระทั่งสิทธิของโจทก์ที่มีอยู่แล้วตามคำพิพากษาคดีแรกแต่อย่างใด ไม่มีเหตุที่จะให้งดการบังคับคดีไว้รอฟังผลของคดีหลัง.
of 21