พบผลลัพธ์ทั้งหมด 325 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4736/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิโจทก์ถอนฟ้องคดีความผิดต่อส่วนตัวก่อนคดีถึงที่สุด ศาลอนุญาตได้ ทำให้สิทธิฟ้องระงับ
ศาลอุทธรณ์ลงโทษจำคุกจำเลยตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิด อันเกิดจากการใช้เช็คฯ จำเลยฎีกา ระหว่างการพิจารณา ของศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้าน เมื่อเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวโจทก์จะถอนฟ้องในเวลาใดก่อนคดี ถึงที่สุดก็ได้ ศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้อง สิทธินำคดีอาญา มาฟ้องจึงเป็นอันระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4056/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิถอนฟ้องคดีอาญาความผิดส่วนตัวก่อนคดีถึงที่สุด ทำให้สิทธิฟ้องระงับ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 350 ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา ระหว่างการพิจารณาของศาลฎีกาโจทก์ขอถอนฟ้อง เมื่อเป็นความผิดต่อส่วนตัว โจทก์ย่อมถอนฟ้องได้ก่อนคดีถึงที่สุด เมื่อศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ถอนฟ้องได้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2124/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประนีประนอมยอมความที่มีเงื่อนไข ไม่ถือเป็นการยอมความในคดีอาญา
โจทก์จำเลยได้ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันในคดีแพ่งว่าหากจำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทให้แก่โจทก์ครบถ้วนแล้วโจทก์ก็จะถอนฟ้องคดีอาญาที่โจทก์ฟ้องจำเลยเกี่ยวกับเช็คพิพาทนั้นสัญญาประนีประนอมยอมความดังกล่าวไม่มีข้อความใดที่แสดงว่าโจทก์ตกลงสละสิทธิดำเนินคดีอาญากับจำเลยในทันทีแต่กลับมีเงื่อนไขที่จำเลยจะต้องปฏิบัติต่อโจทก์เสียก่อนโจทก์จึงจะถอนฟ้องคดีอาญาเมื่อจำเลยมิได้ชำระเงินให้แก่โจทก์ตามสัญญาสิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ยังไม่ระงับไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3834/2528
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาข่มขืนเป็นสำคัญ ความผิดบุกรุกไม่ยอมความ สิทธิฟ้องคดีอาญาไม่ระงับ
การที่จำเลยบุกรุกเข้าไปในเคหสถานของผู้เสียหายแล้ว ข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายจำเลยมีเจตนาเข้าไปเพื่อข่มขืนกระทำชำเรา เป็นสำคัญการกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมาย หลายบท เฉพาะความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้นที่เป็น ความผิดอันยอมความได้การถอนคำร้องทุกข์คงมีผลทำให้สิทธินำคดีอาญา มาฟ้องของโจทก์เฉพาะความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราระงับไป ส่วนความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 365 มิใช่ความผิดอันยอมความได้การถอนคำร้องทุกข์ย่อมไม่ตัดสิทธิ ของพนักงานอัยการโจทก์ที่จะฟ้องจำเลยในความผิดฐานนี้ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 126 วรรคสอง สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์จึงไม่ระงับคดีลงโทษจำเลย ในความผิดฐานบุกรุกตามที่จำเลยให้การรับสารภาพได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3767/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยอมความในคดีอาญา: ผลผูกพันสิทธิฟ้อง และการระงับคดี
ผู้เสียหายยอมรับเงินสดและเช็คจากจำเลยเป็นการชำระหนี้แทนเช็คเดิมซึ่งผู้เสียหายได้ร้องทุกข์แก่พนักงานสอบสวนไว้แล้ว และได้นำเช็คไปเรียกเก็บเงินจากธนาคารตามเช็คด้วย แสดงว่าผู้เสียหายไม่ติดใจดำเนินคดีเกี่ยวกับเช็คเดิม ข้อตกลงระหว่างผู้เสียหายกับจำเลยจึงเป็นการยอมความกันในคดีอาญาความผิดต่อส่วนตัว แม้จะไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือประนีประนอมยอมความ ก็มีผลทำให้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องระงับไปและผูกพันพนักงานอัยการโจทก์ การที่ผู้เสียหายยังไม่ได้รับเงินตามเช็คใหม่ก็ไม่เป็นเงื่อนไขในการตกลงยอมความ เพราะผู้เสียหายชอบที่จะดำเนินคดีแก่จำเลยเป็นคดีใหม่ต่อไปได้ โจทก์ไม่มีสิทธิรื้อฟื้นคดีเกี่ยวกับเช็คเดิมซึ่งยุติไปแล้วมาฟ้องจำเลยอีก เพราะสิทธิการฟ้องคดีของโจทก์ระงับไปแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2689/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนคำร้องทุกข์ในคดีความผิดต่อส่วนตัวทำให้สิทธิในการฟ้องระงับ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องไม่ชอบ
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ เมื่อเป็นคดีความผิดต่อส่วนตัวสิทธินำคดีมาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) การที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้อง ย่อมเป็นการไม่ชอบศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2445/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การถอนฟ้องคดีอาญาที่ความผิดอันยอมความได้ ศาลอนุญาตได้หากจำเลยไม่คัดค้าน ทำให้คำพิพากษาศาลล่างระงับ
ก่อนศาลชั้นต้นอ่านคำพิพากษาศาลฎีกาให้คู่ความฟัง โจทก์ยื่นคำร้องว่าตกลงกับจำเลยแล้ว ขอถอนฟ้อง เมื่อความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328,332 ที่โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยเป็นความผิดอันยอมความได้ โจทก์ขอถอนฟ้อง จำเลยไม่คัดค้าน ศาลฎีกาอนุญาตให้โจทก์ ถอนฟ้องได้คำพิพากษาของศาลล่างย่อมระงับไปในตัว ไม่มีผลบังคับ ต่อไป ศาลฎีกาสั่งจำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2209/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ศาลอุทธรณ์ต้องพิจารณาคำร้องขอถอนฟ้องก่อนพิพากษาคดีความผิดอันยอมความได้
คดีความผิดอันยอมความกันได้เมื่อคดีอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ มีคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ของทนายโจทก์ขึ้นมา การที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาชี้ขาดไปตามประเด็นแห่งคดีโดยมิได้พิจารณาและสั่งคำร้องดังกล่าวเสียก่อนจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายว่าด้วยคำพิพากษาและคำสั่งศาลฎีกาพิพากษายกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้องขอถอนคำร้องทุกข์ก่อน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1438/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สิทธิฟ้องคดีอาญาของผู้เสียหายระงับเมื่ออัยการฟ้องและมีคำพิพากษาแล้ว
ผู้เสียหายเป็นโจทก์ฟ้องเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2525ขอให้ลงโทษจำเลยตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้องวันที่ 12 กรกฎาคม 2525 ครั้นวันที่ 10มิถุนายน 2525 อัยการฟ้องจำเลยในความผิดกรรมเดียวกัน แต่ขอให้ลงโทษตาม มาตรา 391 จำเลยให้การรับสารภาพศาลชั้นต้นพิพากษาปรับจำเลย การที่ศาลจะใช้ดุลพินิจสั่งให้รวมพิจารณาเป็นคดีเดียวกันหรือไม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 33 ก็ต่อเมื่อปรากฏต่อศาลโดยศาลรู้เองหรือโดยโจทก์ยื่นคำร้องในระยะใดก่อนมีคำพิพากษาว่าอัยการและผู้เสียหายต่างฟ้องเรื่องเดียวกันหรือต่างศาลกัน เมื่อศาลไม่รู้ดังกล่าว และการกระทำความผิดของจำเลยตามที่ผู้เสียหายฟ้องได้มีคำพิพากษาเสร็จเด็ดขาดแล้วในคดีที่อัยการเป็นโจทก์ สิทธิของผู้เสียหายที่เป็นโจทก์ในการนำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(4)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1050/2527
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมยอมความในคดีฉ้อโกง: สิทธิในการฟ้องอาญาเป็นอันระงับ
จำเลยขายพลอยให้ผู้เสียหาย ต่อมาผู้เสียหายอ้างว่าเป็นพลอยปลอม จำเลยฉ้อโกง ขอให้คืนเงิน จำเลยไม่คืนให้ จำเลยและผู้เสียหายตกลงกันต่อหน้าพนักงานสอบสวนตามบันทึกประจำวันเกี่ยวกับคดีว่าจำเลยยืมเงินผู้เสียหายไปจำเลยยอม ชดใช้เงินให้ผู้เสียหายเป็น 2 งวด ดังนี้เป็นเรื่องผู้เสียหายและจำเลยตกลงระงับข้อพิพาทอันมีต่อกันอยู่แล้วในเรื่องการซื้อขายพลอยให้เสร็จไปด้วยต่างยอมผ่อนผันให้แก่กันเข้าลักษณะสัญญาประนีประนอมยอมความและเป็นการตกลงเปลี่ยนแปลงมูลที่มาแห่งหนี้ในทางแพ่งแสดงถึงเจตนาของผู้เสียหายว่า ประสงค์ให้ข้อหาทางอาญาในเรื่องฉ้อโกงระงับไปด้วย ความผิดฐานฉ้อโกงเป็นความผิดอันยอมความกันได้เมื่อยอมความกันโดยถูกต้องตามกฎหมายสิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39(2) แม้ ต่อมาจำเลยไม่ปฏิบัติตามข้อตกลง ผู้เสียหายก็ไม่มีอำนาจที่จะร้องทุกข์ ในข้อหาฉ้อโกงได้อีก