คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465 ม. 20 ทวิ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 39 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1198/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานมีและขายยาเสพติด แม้เป็นยาเสพติดชุดเดียวกัน ก็ถือเป็นความผิดต่างกรรมกัน
ฟ้องโจทก์ขอให้ลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อขายกระทงหนึ่ง และฐานขายเฮโรอีนอีกกระทงหนึ่ง แม้เฮโรอีนที่ขายจะเป็นจำนวนเดียวกันกับที่จำเลยมีไว้เพื่อขาย ก็เป็นความผิดต่างกรรมกัน
(วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ ครั้งที่ 11/2519)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 941/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเรียงกระทงความผิดฐานครอบครองและจำหน่ายยาเสพติด แม้โจทก์มิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91
จำเลยมีเฮโรอีนอยู่ในความครอบครองอยู่แล้ว 4 หลอด ก่อนจำหน่ายเป็นความผิดสำเร็จ หลังจากจำหน่ายแล้วจำเลยยังมีเฮโรอีนเหลืออยู่ในความครอบครองอีก 2 หลอด การกระทำของจำเลยแยกได้เป็นสองกระทง แต่ละกระทงเป็นความผิดตามกฎหมาย ศาลมีอำนาจเรียงกระทงลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองและฐานจำหน่ายเฮโรอีนได้ และแม้โจทก์มิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 ลงวันที่ 21 พฤศจิกายน 2514 ข้อ 2 ซึ่งบัญญัติให้ลงโทษผู้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกรรมทุกกรรมเป็นกระทงความผิดมาด้วยก็ตาม ศาลก็มีอำนาจเรียงกระทงลงโทษจำเลยได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 931/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การแยกความผิดฐานจำหน่ายและมีไว้เพื่อจำหน่ายยาเสพติดเป็นคนละกรรม
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยมีเฮโรอีนจำนวน 5 ห่อ หนัก 0.43 กรัมไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และขายเฮโรอีน 1 ห่อ หัก 0.12 กรัม ที่จำเลยมีไว้นั้นให้ผู้มีชื่อ จำเลยรับสารภาพ ปรากฏตามทางพิจารณาว่า ตำรวจจับผู้ซื้อพร้อมด้วยเฮโรอีน 1 ห่อ ซึ่งจำเลยขายให้และจับจำเลยได้พร้อมเฮโรอีนของกลางอีก 4 ห่อ เห็นได้ว่าการที่จำเลยขายเฮโรอีนแก่ผู้อื่นไป 1 ห่อ ย่อมเป็นความผิดฐานจำหน่ายเฮโรอีนอีกกรรมหนึ่ง การที่จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายอีก 4 ห่อ จนกระทั่งถูกจับได้พร้อมกับเฮโรอีนดังกล่าว ย่อมเป็นความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายอีกกรรมหนึ่งต่างหาก เพราะเป็นเฮโรอีนคนละจำนวนกัน ความผิดดังกล่าวจึงแยกออกได้เป็นสองกรรม แต่ละกรรมเป็นความผิดต่างกระทงกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 910/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองและจำหน่ายเฮโรอีน: พยานหลักฐานเพียงพอพิสูจน์ความผิดฐานจำหน่ายได้ แม้ศาลอุทธรณ์ยกฟ้อง
มีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองและจำหน่ายเฮโรอีนนั้นให้แก่ผู้อื่นด้วย เป็นความผิดสองกระทง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 619/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำความผิดฐานจำหน่ายและครอบครองยาเสพติดเป็นคนละกรรมกัน ศาลฎีกาพิพากษาลงโทษแยกกระทง
จำเลยได้จำหน่ายเฮโรอีนให้แก่พลตำรวจ ช. ไป 2 ห่อครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมา เมื่อสิบตำรวจโท ว. มาทำการจับกุมก็ยังมีเฮโรอีนใส่ถุงพลาสติกบรรจุไว้ในกระบอกข้าวหลามอีก 5 ห่อ เรียกได้ว่าจำเลยได้กระทำผิดเป็น 2 กรรม คือฐานจำหน่ายเฮโรอีนกระทงหนึ่ง และฐานมีเฮโรอีนไว้ในครอบครองโดยมิได้รับอนุญาตอีกกระทงหนึ่ง (อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 808/2518)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 605/2519

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองเฮโรอีน: ความผิดฐานมีไว้เพื่อจำหน่ายต้องมีหลักฐานชัดเจน
ได้ความว่าเฮโรอีนของกลางเป็นของจำเลย แต่โจทก์ไม่ได้นำสืบให้ปรากฏเลยว่าจำเลยมีเฮโรอีนดังกล่าวไว้เพื่อขาย จำหน่าย หรือจ่ายแจก เพียงแต่พยานโจทก์คือร้อยตำรวจเอก ส. และสิบตำรวจตรี พ. เบิกความว่า พันตำรวจตรี พ. สืบทราบมาว่า จำเลยจำหน่ายเฮโรอีน และเฮโรอีนที่จับได้มีจำนวน 6 กรัม นั้น หาเพียงพอที่จะสันนิษฐานให้เป็นผลร้ายแก่จำเลยว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายได้ไม่ จำเลยคงมีความผิดเพียงมีเฮโรอีนของกลางไว้ในความครอบครองเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2519 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาในข้อเท็จจริงขัดกับข้อจำกัดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับแก้ไข) กรณีทุนทรัพย์เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน คือจำเลยบังอาจร่วมกันมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ และจำเลยบังอาจร่วมกันขายเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริงตามฟ้องทุกประการ โจทก์นำพยานเข้าสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยว่า นอกจากเฮโรอีนของกลางบรรจุซองพลาสติกซึ่งพลตำรวจ จ. ปลอมตัวไปซื้อแล้ว ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจยังค้นได้ธนบัตร ฉบับละ 10 บาท 2 ฉบับใช้ห่อเฮโรอีนไว้ 2 ห่อจากจำเลยอีก ดังนี้ การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ซึ่งแก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2514 ข้อ 2

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2518 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษกระทงความผิดหลายกรรมต่างกันในคดียาเสพติด แม้โจทก์มิได้อ้างมาตรา 91 โดยตรง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้บังอาจจำหน่ายยาเสพติดให้โทษดังกล่าวแล้วอีกจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้มีชื่อด้วย จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์สืบพยานประกอบคำรับสารภาพได้ความว่า จำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายจำนวนหนึ่งและจำหน่ายเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่ง ดังนี้การกระทำของจำเลยแยกได้เป็น 2 กระทง แต่ละกระทงเป็นความผิดตามกฎหมายถึงแม้ว่ากฎหมายจะบัญญัติความผิดดังกล่าวไว้ในมาตราเดียวกัน แต่การกระทำความผิดอาจแยกเป็นกระทง ๆ ได้ ซึ่งแล้วแต่ข้อเท็จจริงแห่งคดีและการบรรยายฟ้องของโจทก์ประกอบกัน
จำเลยกระทำความผิดหลังจากที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 มีผลใช้บังคับแล้ว ตามประกาศดังกล่าวข้อ 2 ได้แก้ไขยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 โดยให้ลงโทษผู้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป แม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรม ดังนั้น ศาลมีอำนาจเรียงกระทงลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 50/2518

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานมีและขายเฮโรอีน: มาตรา 20 ทวิ บัญญัติเฉพาะไม่ต้องปรับบท
มีและขายเฮโรอีนไฮโดรโคลไรด์เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2465(ฉบับที่ 4) มาตรา 20 ทวิ ซึ่งบัญญัติเฉพาะแล้วไม่ต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา 20 ตรีอีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2176/2517 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษจำเลยฐานมีและจำหน่ายเฮโรอีน ศาลมีอำนาจเรียงกระทงความผิดได้ แม้โจทก์มิได้อ้างมาตรา 91
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมาย หลายบทหลายกระทง โดยมีเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษซึ่งต้องห้ามโดยเด็ดขาดไว้ในครอบครองและได้บังอาจจำหน่ายเฮโรอีนให้แก่ผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย ฯลฯ จำเลยให้การรับสารภาพดังนี้การที่จำเลยมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองและได้จำหน่ายเฮโรอีนแก่ผู้อื่น การกระทำของจำเลยแยกได้เป็นสองกระทง แต่ละกระทง เป็นความผิดตามกฎหมาย ศาลย่อมลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนและฐานจำหน่ายเฮโรอีนได้
มีเฮโรอีนไว้ในความครอบครอง และได้จำหน่ายเฮโรอีนให้แก่ ผู้อื่นโดยผิดกฎหมาย เป็นความผิดสองกระทง เมื่อจำเลยกระทำความผิดภายหลังวันที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11มีผลใช้บังคับแล้ว แม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่โจทก์ได้บรรยายฟ้องว่า จำเลยกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายบทหลายกระทงมาด้วยศาลย่อมมีอำนาจเรียงกระทงลงโทษจำเลยได้
of 4