พบผลลัพธ์ทั้งหมด 367 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนคำร้องคัดค้านการยึดทรัพย์: ศาลสอบคู่ความถือเป็นการไต่สวนแล้ว และมีอำนาจตีราคาทรัพย์ตามเจ้าพนักงานบังคับคดีได้
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ ศาลสอบคู่ความเกี่ยวกับราคาทรัพย์ที่พิพาทแล้วตีราคาตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมิน และสั่งให้ผู้ร้องชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มภายใน 15 วัน ดังนี้การที่ศาลสอบคู่ความและจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งที่ศาลมีอำนาจกระทำได้และถือว่าเป็นการไต่สวนแล้ว หากให้คู่ความนำพยานเข้าสืบไต่สวนก็จะไม่ได้ข้อเท็จจริงแตกต่างนอกเหนือจากการสอบคู่ความและไม่อาจทำให้ประเด็นที่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงไป ศาลย่อมมีอำนาจนำข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบคู่ความมารับฟังประกอบการใช้ดุลพินิจทำคำสั่งตามที่เห็นควรได้ เมื่อผู้ร้องไม่เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มภายในเวลาที่ศาลกำหนดจึงเป็นการทิ้งฟ้อง.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไต่สวนคำร้องขัดทรัพย์: ศาลมีอำนาจสอบคู่ความและใช้ดุลพินิจตีราคาทรัพย์สินได้ แม้ไม่ได้ไต่สวนพยานเพิ่มเติม
ผู้ร้องยื่นคำร้องขอต่อศาลให้ปล่อยทรัพย์ที่ยึดไว้ ศาลสอบคู่ความเกี่ยวกับราคาทรัพย์ที่พิพาทแล้วตีราคาตามที่เจ้าพนักงานบังคับคดีประเมิน และสั่งให้ผู้ร้องชำระค่าขึ้นศาลเพิ่มภายใน 15 วัน ดังนี้การที่ศาลสอบคู่ความและจดไว้ในรายงานกระบวนพิจารณาเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาอย่างหนึ่งที่ศาลมีอำนาจกระทำได้และถือว่าเป็นการไต่สวนแล้ว หากให้คู่ความนำพยานเข้าสืบไต่สวนก็จะไม่ได้ข้อเท็จจริงแตก ต่างนอกเหนือจากการสอบคู่ความและไม่อาจทำให้ประเด็นที่จะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลงไป ศาลย่อมมีอำนาจนำข้อเท็จจริงที่ได้จากการสอบคู่ความมารับฟังประกอบการใช้ดุลพินิจ ทำคำสั่งตามที่เห็นควรได้ เมื่อผู้ร้องไม่เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มภายในเวลาที่ศาลกำหนดจึงเป็นการทิ้งฟ้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 175/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ความถูกต้องของสำเนาทะเบียนบ้านเพื่อยืนยันความเป็นทายาท และอำนาจในการจัดการมรดก
ผู้ร้องที่ 2 อ้างสำเนาทะเบียนบ้านซึ่งเป็นเอกสารมหาชนเป็นพยานหลักฐาน มีข้อความระบุว่า ม. เป็นบุตรของ ว. กับ ป. ซึ่งกฎหมายสันนิษฐานไว้ก่อนว่าเป็นของแท้จริงและถูกต้อง แต่เมื่อผู้คัดค้านนำสืบรับฟังได้ว่า ม. เป็นบุตรของ ป. ที่เกิดจากสามีเดิมก่อนที่จะมาได้ ว. เป็นสามี ดังนี้จึงเป็นการนำสืบหักล้างสำเนาทะเบียนบ้านได้แล้วว่าไม่ถูกต้องตรงกับความเป็นจริง.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 100/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบฉันทะให้เสมียนทนายยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี ทนายจำเลยต้องรับรู้ผลคำสั่งศาลเสมือนตนเอง
ทนายจำเลยมอบฉันทะให้เสมียนทนายนำคำร้องขอเลื่อนคดีไปยื่นต่อศาล จำต้องรับรู้ผลของการเลื่อนคดีหรือกำหนดเวลาไต่สวนตามคำสั่งของศาลเสมือนตนขอเลื่อนคดี และฟังคำสั่งของศาลด้วยตนเองเมื่อศาลอนุญาตให้เลื่อนคดีเพียงสามวันโดยเสมียนทนายมิได้โต้แย้งทนายจำเลยจึงต้องมีหน้าที่ต้องมาศาลตามวันเวลานัด.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 87/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีเนื่องจากทนายโจทก์ป่วย: ศาลมีอำนาจเลื่อนได้หากอาการป่วยอาจกระทบต่อการว่าความ
ในวันนัดสืบพยาน ทนายโจทก์ซึ่งมิได้ยื่นบัญชีระบุพยานไว้ได้ยื่นคำร้องขอเลื่อนคดี อ้างว่าป่วยเป็นไข้หวัดและปวดศีรษะโดยมีใบรับรองแพทย์มาแสดง ดังนี้อาการป่วยดังกล่าวย่อมทำให้ทนายโจทก์ว่าความไม่ได้ดีเท่าที่ควร อาจทำให้คดีของโจทก์เสียหายได้ และจำเลยก็มิได้คัดค้าน จึงเป็นเหตุจำเป็นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 40 ที่จะให้เลื่อนคดีไปได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 86/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จัดการมรดกจัดการทรัพย์สินโดยมิชอบและแบ่งปันผลประโยชน์ไม่เป็นธรรม ศาลมีอำนาจถอดถอนได้
ผู้คัดค้านและผู้ร้องเป็นผู้จัดการมรดกร่วมกันของผู้ตาย ปรากฏว่าผู้คัดค้านจัดการมรดกไปโดยที่ผู้ร้องมิได้รู้เห็นหรือได้รับความยินยอมจากทายาทอื่น และมิใช่กรณีมีเหตุจำเป็นเร่งด่วน เป็นพฤติการณ์ส่อแสดงถึงผู้คัดค้านจัดการมรดกไปตามอำเภอใจ โดยมิได้ทำหน้าที่แบ่งปันทรัพย์มรดกให้แก่ทายาทหากยังคงให้เป็นผู้จัดการมรดกต่อไปอาจทำให้ผู้ร้องหรือทายาทอื่นได้รับความเสียหายได้ จึงมีเหตุสมควรถอดถอนผู้คัดค้านจากการเป็นผู้จัดการมรดก.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4755-4757/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ค่าธรรมเนียมการอายัดเงิน: ศาลฎีกาวินิจฉัยให้คิดค่าธรรมเนียมตามอัตราที่กำหนดในตาราง 5 โดยไม่แยกประเภททรัพย์สิน
โจทก์ขออายัดเงินของจำเลยและผู้ร้องเพื่อนำมาชำระหนี้โจทก์ตามคำพิพากษาต่อมาได้มีการจ่ายเงินที่อายัดบางส่วนชำระหนี้ให้โจทก์เงินอายัดที่จ่ายให้โจทก์นั้นต้องเสียค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีร้อยละ3ครึ่งตามตาราง5ข้อ2ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งเพราะได้มีการจ่ายเงินที่อายัดนั้นแก่เจ้าหนี้แล้วทั้งไม่ได้กำหนดว่าการอายัดตัวเงินคิดค่าธรรมเนียมการบังคับคดีแตกต่างจากการอายัดทรัพย์สินอย่างใดกรณีไม่เข้าตาราง5ข้อ4ที่คิดค่าธรรมเนียมในอัตราร้อยละ1ซึ่งเป็นกรณีมีการถอนอายัดเงินหรือไม่มีการจ่ายเงินที่อายัดแก่เจ้าหนี้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4676/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการออกคำบังคับและการไม่อาจรื้อฟื้นประเด็นที่ยุติแล้ว
ศาลชั้นต้นมีอำนาจออกคำบังคับได้เองตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 272 แม้โจทก์ มิได้แถลงขอให้ออกคำบังคับ
ในชั้นบังคับคดี จำเลยขอให้งดการบังคับคดี อ้างว่าหนี้ตามคำพิพากษา ที่โจทก์นำยึดทรัพย์นั้น โจทก์จำเลยได้ตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์จำเลย แต่ปรากฏว่าในชั้นพิจารณาคดีนี้ศาลฎีกา ได้พิพากษาไว้แล้วว่าพยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบไม่พอฟังว่าโจทก์จำเลย ตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้ว ดังนี้ แม้จำเลยจะอ้างว่า จำเลยค้นหาเอกสาร การหักกลบลบหนี้มาเป็นพยานได้คดีก็ไม่อาจรื้อฟื้นปัญหาซึ่งยุติถึงที่สุดแล้ว ขึ้นมาพิจารณาซ้ำอีก
ในชั้นบังคับคดี จำเลยขอให้งดการบังคับคดี อ้างว่าหนี้ตามคำพิพากษา ที่โจทก์นำยึดทรัพย์นั้น โจทก์จำเลยได้ตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์จำเลย แต่ปรากฏว่าในชั้นพิจารณาคดีนี้ศาลฎีกา ได้พิพากษาไว้แล้วว่าพยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบไม่พอฟังว่าโจทก์จำเลย ตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้ว ดังนี้ แม้จำเลยจะอ้างว่า จำเลยค้นหาเอกสาร การหักกลบลบหนี้มาเป็นพยานได้คดีก็ไม่อาจรื้อฟื้นปัญหาซึ่งยุติถึงที่สุดแล้ว ขึ้นมาพิจารณาซ้ำอีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4676/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการออกคำบังคับคดีและการยุติปัญหาข้อกฎหมายที่ศาลฎีกาตัดสินแล้ว
ศาลชั้นต้นมีอำนาจออกคำบังคับได้เองตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา272แม้โจทก์มิได้แถลงขอให้ออกคำบังคับ ในชั้นบังคับคดีจำเลยขอให้งดการบังคับคดีอ้างว่าหนี้ตามคำพิพากษาที่โจทก์นำยึดทรัพย์นั้นโจทก์จำเลยได้ตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้วโจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์จำเลยแต่ปรากฏว่าในชั้นพิจารณาคดีนี้ศาลฎีกาได้พิพากษาไว้แล้วว่าพยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบไม่พอฟังว่าโจทก์จำเลยตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้วดังนี้แม้จำเลยจะอ้างว่าจำเลยค้นหาเอกสารการหักกลบลบหนี้มาเป็นพยานได้คดีก็ไม่อาจรื้อฟื้นปัญหาซึ่งยุติถึงที่สุดแล้วขึ้นมาพิจารณาซ้ำอีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4676/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการออกคำบังคับคดีและการไม่อาจรื้อฟื้นข้อพิพาทที่ตัดสินถึงที่สุด
ศาลชั้นต้นมีอำนาจออกคำบังคับได้เองตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 272 แม้โจทก์มิได้แถลงขอให้ออกคำบังคับ
ในชั้นบังคับคดี จำเลยขอให้งดการบังคับคดี อ้างว่าหนี้ตามคำพิพากษาที่โจทก์นำยึดทรัพย์นั้น โจทก์จำเลยได้ตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์จำเลย แต่ปรากฏว่าในชั้นพิจารณาคดีนี้ศาลฎีกาได้พิพากษาไว้แล้วว่าพยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบไม่พอฟังว่าโจทก์จำเลยตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้ว ดังนี้ แม้จำเลยจะอ้างว่า จำเลยค้นหาเอกสารการหักกลบลบหนี้มาเป็นพยานได้คดีก็ไม่อาจรื้อฟื้นปัญหาซึ่งยุติถึงที่สุดแล้วขึ้นมาพิจารณาซ้ำอีก
ในชั้นบังคับคดี จำเลยขอให้งดการบังคับคดี อ้างว่าหนี้ตามคำพิพากษาที่โจทก์นำยึดทรัพย์นั้น โจทก์จำเลยได้ตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิยึดทรัพย์จำเลย แต่ปรากฏว่าในชั้นพิจารณาคดีนี้ศาลฎีกาได้พิพากษาไว้แล้วว่าพยานหลักฐานที่จำเลยนำสืบไม่พอฟังว่าโจทก์จำเลยตกลงหักกลบลบหนี้กันแล้ว ดังนี้ แม้จำเลยจะอ้างว่า จำเลยค้นหาเอกสารการหักกลบลบหนี้มาเป็นพยานได้คดีก็ไม่อาจรื้อฟื้นปัญหาซึ่งยุติถึงที่สุดแล้วขึ้นมาพิจารณาซ้ำอีก