พบผลลัพธ์ทั้งหมด 329 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2647/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนายกที่ดินให้เป็นถนนสาธารณประโยชน์ ทำให้การปลูกสร้างอาคารในที่ดินนั้นโดยทายาท เป็นการกระทำโดยปราศจากสิทธิ
เจ้าของที่ดินคนเดิมได้แสดงเจตนายกที่ดินพิพาทของตนบางส่วนให้เป็นถนนสาธารณประโยชน์ไปแล้วก่อนที่โจทก์ซื้อมา การที่จำเลยซึ่งเป็นทายาทโดยธรรมของเจ้าของเดิมปลูกสร้างอาคารและรั้วในที่พิพาทจึงเป็นการกระทำโดย ปราศจากสิทธิที่จะอ้างได้โดยชอบ และทำให้โจทก์เสียหาย เพราะปิดบังหน้าที่ดินและทางเข้าออกจากที่ดินของโจทก์ที่จะไปสู่ถนนใหญ่ จึงต้องรื้อถอนออกไป
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2635/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่า, การตัดพยาน, และข้อต่อสู้เรื่องสัญญาใหม่ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือ
ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุป่วย ทนายจำเลยแถลงว่าติดใจสืบเฉพาะตัวจำเลยเท่านั้นหากนัดหน้าจำเลยไม่มาศาลหรือไม่มีพยานมาศาลให้ถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีเมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยหลังสืบตัวจำเลยแล้ว ทนายจำเลยแถลงขอเลื่อนคดีเพื่อขอสืบพยานอื่น ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าเป็นอันหมดพยานจำเลย คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นไปตามที่จำเลยแถลงไว้และเป็นไปโดยชอบแล้ว
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้เช่า ผู้เช่าจะยกเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
ปัญหาที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ ทั้งไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้เช่า ผู้เช่าจะยกเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
ปัญหาที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ ทั้งไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2635/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสัญญาเช่า การไม่รับคำต่อสู้เรื่องสัญญาเช่าใหม่ที่ไม่มีหลักฐานลายมือชื่อ และการตัดพยานที่ไม่ชอบ
ในวันนัดสืบพยานจำเลยนัดแรก จำเลยยื่นคำร้องขอเลื่อนคดีอ้างเหตุป่วย ทนายจำเลยแถลงว่าติดใจสืบเฉพาะตัวจำเลยเท่านั้น หากนัดหน้าจำเลยไม่มาศาลหรือไม่มีพยานมาศาลให้ถือว่าจำเลยไม่ติดใจสืบพยานต่อไป ศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดี เมื่อถึงวันนัดสืบพยานจำเลยหลังสืบตัวจำเลยแล้ว ทนายจำเลยแถลงขอเลื่อนคดีเพื่อขอสืบพยานอื่น ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีและถือว่าเป็นอันหมดพยานจำเลย คำสั่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวจึงเป็นไปตามที่จำเลยแถลงไว้และเป็นไปโดยชอบแล้ว
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้เช่า ผู้เช่าจะยกเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
ปัญหาที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ ทั้งไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.
การเช่าอสังหาริมทรัพย์ ที่ไม่มีหลักฐานเป็นหนังสือลงลายมือชื่อผู้ให้เช่า ผู้เช่าจะยกเป็นข้อต่อสู้คดีหาได้ไม่
ปัญหาที่จำเลยไม่ได้ต่อสู้ไว้ในคำให้การ ทั้งไม่ใช่เป็นปัญหาเกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยของประชาชน แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยปัญหานี้มา ก็ถือว่าเป็นปัญหาที่มิได้ว่ากันมาโดยชอบในชั้นอุทธรณ์ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2549-2550/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อในการก่อสร้างถนนสาธารณะ การละเลยติดตั้งสัญญาณเตือนและโคมไฟ ทำให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ตามระเบียบของอธิบดีกรมทางหลวงจำเลยที่ 2 มีว่าการขุดถนนจะต้องปักป้ายบอกว่าบริเวณนั้นมีการขุดถนน ตลอดจนมีสัญญาณต่าง ๆ แสดงให้ผู้สัญจรไปมาทราบ ทั้งในเวลากลางคืนต้องมีโคมไฟติดไว้เพื่อให้รถที่ขับขี่ไปมารู้การที่จำเลยที่ 2 ขุดถนนเพื่อวางท่อโดยจำเลยที่ 1 เป็นนายช่างควบคุมแล้วละเลยไม่ติดตั้งโคมไฟจึงเป็นความประมาท แม้ว่าทางนั้นจะยังไม่เปิดเป็นทางสาธารณะและมีป้ายเตือนผู้ใช้ทางแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีป้ายห้ามเข้าและมีรถแล่นอยู่ตลอดเวลาดังนี้เมื่อ ส. ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตกคูที่จำเลยขุดไว้ จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2549-2550/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความประมาทเลินเล่อในการก่อสร้างถนนที่ไม่มีสัญญาณเตือน ทำให้เกิดอุบัติเหตุและเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย
ตามระเบียบของอธิบดีกรมทางหลวงจำเลยที่ 2 มีว่าการขุดถนนจะต้องปักป้ายบอกว่าบริเวณนั้นมีการขุดถนน ตลอดจนมีสัญญาณต่าง ๆ แสดงให้ผู้สัญจรไปมาทราบ ทั้งในเวลากลางคืนต้องมีโคมไฟติดไว้เพื่อให้รถที่ขับขี่ไปมารู้การที่จำเลยที่2 ขุดถนนเพื่อวางท่อโดยจำเลยที่ 1 เป็นนายช่างควบคุมแล้วละเลยไม่ติดตั้งโคมไฟจึงเป็นความประมาท แม้ว่าทางนั้นจะยังไม่เปิดเป็นทางสาธารณะและมีป้ายเตือนผู้ใช้ทางแล้วก็ตาม แต่ก็ไม่มีป้ายห้ามเข้าและมีรถแล่นอยู่ตลอดเวลาดังนี้เมื่อ ส. ขับขี่รถจักรยานยนต์ไปตกคูที่จำเลยขุดไว้จำเลยทั้งสองจึงต้องรับผิด.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลังกระทำผิดลักทรัพย์: ไม่เข้าข่ายทรัพย์สินที่ต้องริบ
จำเลยทั้งสองเข้าไปลักทรัพย์ในบ้านผู้เสียหายแล้วเปิดประตูระเบียง หน้าบ้านผู้เสียหายวิ่งไปนั่งซ้อน ท้าย รถจักรยานยนต์ซึ่งจอดรออยู่หลบหนีไป การกระทำของจำเลยเป็นการลักทรัพย์สำเร็จแล้ววิ่งหลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ของกลางมิได้มีไว้เพื่อใช้หรือได้ใช้การกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ จึงมิใช่ทรัพย์อันพึงริบตาม ป.อ. มาตรา 33(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลบหนีหลังลักทรัพย์สำเร็จแล้ว ไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำผิด
จำเลยเข้าไปเอาทรัพย์สินซึ่งเก็บรักษาอยู่ในบ้านได้แล้วออกจากบ้านวิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของพวกที่จอดรอดอยู่หลบหนีไปเป็นการลักทรัพย์สำเร็จแล้วจึงหลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (1)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2546/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบรถจักรยานยนต์ที่ใช้หลังการลักทรัพย์สำเร็จ: ไม่ถือเป็นทรัพย์สินที่ใช้ในการกระทำความผิด
จำเลยเข้าไปเอาทรัพย์สินซึ่งเก็บรักษาอยู่ในบ้านได้แล้วออกจากบ้านวิ่งไปนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ของพวกที่จอดรอดอยู่หลบหนีไปเป็นการลักทรัพย์สำเร็จแล้วจึงหลบหนีไปโดยใช้รถจักรยานยนต์ รถจักรยานยนต์ดังกล่าวจึงไม่ใช่ทรัพย์สินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิดอันพึงริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(1).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
องค์ประกอบความผิด พ.ร.บ.เลือกตั้ง: การใช้อำนาจหน้าที่โดยไม่ชอบเพื่อเป็นคุณ/โทษแก่ผู้สมัคร
การกระทำของข้าราชการที่จะเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช 2522 มาตรา 15จะต้องเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยเป็นปลัดกระทรวงการคลัง และเป็นประธานกรรมการบริหารของธนาคารกรุงไทย จำกัด โดยตำแหน่งไม่ได้บรรยายว่าจำเลยมีหน้าที่อย่างไร การให้ข่าวแก่นักหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อในสมัยที่โจทก์ดำรง ตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารดังกล่าวตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เป็นการกระทำในหน้าที่ของจำเลยหรือไม่ และการให้ข่าวเช่นนั้นเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ฟ้องโจทก์จึงบรรยายไม่ครบองค์ประกอบของความผิด เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตาม ป.วิ.อ.มาตรา 158(5).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2446/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความไม่สมบูรณ์ของฟ้องอาญาการเลือกตั้ง: จำเป็นต้องระบุหน้าที่และอำนาจของจำเลย
การกระทำของข้าราชการที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พุทธศักราช 2522 มาตรา 15 จะต้องเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใด โจทก์บรรยายฟ้องเพียงว่าจำเลยเป็นปลัดกระทรวงการคลังและเป็นประธานกรรมการบริหารของธนาคารกรุงไทย จำกัด โดยตำแหน่งไม่ได้บรรยายว่าจำเลยมีหน้าที่อย่างไร การให้ข่าวแก่นักหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการปล่อยสินเชื่อในสมัยที่โจทก์ดำรงตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ธนาคารดังกล่าวตามที่โจทก์กล่าวในฟ้อง เป็นการกระทำในหน้าที่ของจำเลยหรือไม่ และการให้ข่าวเช่นนั้นเป็นการใช้อำนาจในตำแหน่งโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร ฟ้องโจทก์จึงบรรยายไม่ครบองค์ประกอบของความผิด เป็นฟ้องที่ไม่สมบูรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158(5).