คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ชิรพันธุ์ รัศมิทัต

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 2 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1437/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การทำสัญญาโดยไม่มีอำนาจเป็นตัวแทน และผลผูกพันตามเจตนาที่แสดงออก
จำเลยที่ 1 เป็นลูกจ้างของ ม. ซึ่งเป็นผู้จัดการธนาคารโจทก์ สาขาบางแค ม. ต้องการใช้เงินแต่ไม่สามารถกู้เงินในนามตนเองได้ จึงให้จำเลยที่ 1 ทำสัญญากู้เบิกเงินเกินบัญชีและออกตั๋วสัญญาใช้เงินไว้กับธนาคารโจทก์ สาขาบางแค ให้จำเลยที่ 2 ลงลายมือชื่อรับรองเป็นอาวัลในตั๋วสัญญาใช้เงิน โดย ม. กับจำเลยตกลงกันไว้ว่า จำเลยกระทำแทน ม. เท่านั้น เงินที่ได้รับมาจากโจทก์ ม. จะรับเงินนั้นไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวทั้งหมด โดยในใจจริงของจำเลยถือว่า ทำนิติกรรมพิพาทแทน ม. โดยไม่มีเจตนาให้มีนิติสัมพันธ์กับโจทก์ก็ตาม แต่ ม.ในฐานะผู้จัดการสาขาของโจทก์ไม่มีอำนาจเป็นผู้แทนโจทก์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 80 แม้ ม. จะรู้เห็นด้วยแต่จะถือว่าโจทก์รู้เห็นในเจตนาดังกล่าวด้วยไม่ได้ จำเลยทั้งสองต้องผูกพันตามที่ได้แสดงเจตนาออกมาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 117 และต้องร่วมรับผิดชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 415/2528

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดูหมิ่นเจ้าพนักงาน: ถ้อยคำท้าทายและกิริยาที่ไม่สุภาพ ไม่ถึงขั้นดูหมิ่น
จำเลยกล่าวต่อเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับจำเลยว่า "ถ้าแน่จริงให้ถอดปืนที่เอวมาต่อยกันตัวต่อตัว" และ "ถ้าแน่จริงมายิงกันคนละนัดก็ได้ ไม่ต้องใช้กำปั้น ใช้ปืนดีกว่า" เป็นคำกล่าวที่ไม่สุภาพและไม่สมควรเท่านั้น แม้ขณะที่กล่าวจำเลยได้ถอดกางเกงขายาวที่จำเลยสวมอยู่ออกเหลือแต่กางเกงชั้นใน ก็มิได้เป็นการทำให้ผู้เสียหายถูกดูหมิ่น ถ้อยคำและกิริยาท่าทางดังกล่าวจึงไม่เป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่