คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
พลจิตต์ ดียืน

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 238 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3152/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีฟ้องเท็จ: โจทก์ในคดีฟ้องเท็จมีสิทธิฟ้องจำเลยฐานฟ้องเท็จได้โดยตรง
การที่จำเลยนำความเท็จมาฟ้องโจทก์เป็นคดีอาญาซึ่งเป็นการฟ้องเท็จนั้นโจทก์ย่อมเป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายโดยตรงจากการกระทำความผิดฐานฟ้องเท็จของจำเลยโจทก์จึงเป็นผู้เสียหายมีอำนาจฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาฐานฟ้องเท็จตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา175ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3047/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หนี้เจ้ามรดก: ทายาทไม่ต้องรับผิดโดยตรง หากไม่ใช่ทรัพย์มรดก
หนี้ที่โจทก์ฟ้องเป็นหนี้ที่บิดาของจำเลยได้กระทำไว้ก่อนถึงแก่กรรมจึงเป็นหน้าที่และความรับผิดโดยเฉพาะของเจ้ามรดกมิใช่เป็นกองมรดกที่จะตกทอดแก่จำเลยผู้เป็นทายาทตามป.พ.พ.มาตรา1600จำเลยจึงมิใช่ลูกหนี้โดยตรงของโจทก์หากจำเลยได้รับมรดกก็รับผิดต่อเจ้าหนี้กองมรดกไม่เกินกว่าทรัพย์มรดกที่ตนได้รับตามป.พ.พ.มาตรา1601โจทก์ซึ่งเป็นเจ้าหนี้กองมรดกไม่อาจก้าวล่วงไปบังคับถึงทรัพย์สินของจำเลยที่มิใช่ทรัพย์มรดกจึงฟ้องจำเลยให้ล้มละลายไม่ได้แต่ชอบที่จะฟ้องขอให้จัดการมรดกของเจ้ามรดกตามพ.ร.บ.ล้มละลายฯมาตรา82.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2896/2529 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษผู้เล่นการพนันที่เป็นเจ้ามือ ต้องลงโทษทั้งจำและปรับ แม้มีข้อยกเว้นสำหรับผู้เล่นทั่วไป
พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12 (1) มีความหมายว่า ผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับด้วยหาใช่ลงโทษจำคุกและปรับเฉพาะแต่ผู้จัดให้มีการเล่นเท่านั้นไม่ เพียงแต่มีข้อยกเว้นว่าถ้าผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่เรียกว่าลูกค้าจะลงโทษปรับอย่างเดียวก็ได้ซึ่งเป็นโทษที่เบากว่า จำเลยเป็นผู้เข้าเล่นการพนันอันเป็นความผิดตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวที่เรียกว่าเจ้ามือ ไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะลงโทษปรับอย่างเดียวได้ต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2896/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษผู้เล่นการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478: จำคุกและปรับ แม้เป็นเพียงผู้เล่น
พระราชบัญญัติการพนัน พ.ศ.2478 มาตรา 12(1) มีความหมายว่าผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับด้วยหาใช่ลงโทษจำคุกและปรับเฉพาะแต่ผู้จัดให้มีการเล่นเท่านั้นไม่ เพียงแต่มีข้อยกเว้นว่าถ้าผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่เรียกว่าลูกค้าจะลงโทษปรับอย่างเดียวก็ได้ซึ่งเป็นโทษที่เบากว่า จำเลยเป็นผู้เข้าเล่นการพนันอันเป็นความผิดตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวที่เรียกว่าเจ้ามือไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะลงโทษปรับอย่างเดียวได้ต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2896/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษผู้เล่นการพนันที่เป็นเจ้ามือ ต้องระวางโทษทั้งจำและปรับ ตาม พ.ร.บ.การพนัน
พ.ร.บ.การพนันพ.ศ.2478มาตรา12(1)บัญญัติให้ลงโทษผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นทั้งจำคุกและปรับด้วยหาใช่ลงโทษจำคุกและปรับแต่ผู้จัดให้มีการเล่นไม่เพียงแต่มีข้อยกเว้นว่าถ้าเข้าเล่นหรือเข้าพนันในลักษณะที่เรียกว่าลูกค้าจะลงโทษปรับอย่างเดียวก็ได้จำเลยเล่นการพนันป๊อกอันเป็นการพนันตามบัญชีก.หมายเลข11โดยเป็นเจ้ามือรับกินรับใช้มิใช่เข้าเล่นเป็นลูกค้าการกระทำความผิดของจำเลยจะต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2896/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษผู้เล่นการพนันตาม พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ต้องลงโทษทั้งจำและปรับ
พระราชบัญญัติการพนันพ.ศ.2478มาตรา12(1)มีความหมายว่าผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับด้วยหาใช่ลงโทษจำคุกและปรับเฉพาะแต่ผู้จัดให้มีการเล่นเท่านั้นไม่เพียงแต่มีข้อยกเว้นว่าถ้าผู้เข้าเล่นหรือเข้าพนันที่เรียกว่าลูกค้าจะลงโทษปรับอย่างเดียวก็ได้ซึ่งเป็นโทษที่เบากว่าจำเลยเป็นผู้เข้าเล่นการพนันอันเป็นความผิดตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายดังกล่าวที่เรียกว่าเจ้ามือไม่เข้าข้อยกเว้นที่จะลงโทษปรับอย่างเดียวได้ต้องลงโทษทั้งจำคุกและปรับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังประนีประนอม: สิทธิในการจดทะเบียนไม่ใช่กรรมสิทธิ์
โจทก์กับจำเลยที่1ที่2ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์และศาลพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้นดังนี้โจทก์ได้แต่สิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1300หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1299วรรคสองไม่โจทก์จึงไม่มีสิทธิติดตามเอาคืนโฉนดสำหรับที่ดินดังกล่าวจากจำเลยที่3ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1336.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังคำพิพากษาตามยอม: โจทก์ได้สิทธิเรียกร้องให้จดทะเบียน ไม่ได้กรรมสิทธิ์
การที่ศาลพิพากษาตามยอมให้จำเลยโอนกรรมสิทธิ์ในที่ดินมีโฉนดให้โจทก์ทำให้โจทก์ได้แต่สิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามป.พ.พ.มาตรา1300เท่านั้นโจทก์หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินดังกล่าวไม่โจทก์จึงยังไม่มีสิทธิติดตามเอาคืนโฉนดสำหรับที่ดินดังกล่าวจากบุคคลผู้ยึดถือโฉนดนั้นไว้ตามมาตรา1336.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2868/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในที่ดินหลังประนีประนอมยอมความ: สิทธิในการจดทะเบียน vs. กรรมสิทธิ์
โจทก์กับจำเลยที่ 1 ที่ 2 ทำสัญญาประนีประนอมยอมความกันให้ที่ดินพิพาทตกเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์ และศาลพิพากษาให้คดีเป็นอันเสร็จเด็ดขาดไปตามนั้น ดังนี้ โจทก์ได้แต่สิทธิตามคำพิพากษาที่จะบังคับให้จดทะเบียนสิทธิได้ก่อนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1300 หาได้กรรมสิทธิ์ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1299 วรรคสองไม่ โจทก์จึงไม่มีสิทธิติดตามเอาคืนโฉนดสำหรับที่ดินดังกล่าวจากจำเลยที่ 3 ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1336

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2810/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฎีกาค่าขึ้นศาลคดีล้มละลาย: การขอคำสั่งศาลเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตาม พ.ร.บ.ล้มละลาย และอำนาจศาล
ศาลชั้นต้นสั่งรับฎีกาของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ไว้แล้วอย่างคดีไม่มีทุนทรัพย์ก่อนส่งสำนวนไปยังศาลฎีกาได้มีคำสั่งให้เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เสียค่าขึ้นศาลเพิ่มอย่างคดีมีทุนทรัพย์เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อุทธรณ์คำสั่งต่อศาลอุทธรณ์ประสงค์จะขอให้ศาลวินิจฉัยเป็นแบบอย่างว่าคดีทำนองเดียวกันนี้ควรจะเป็นคดีมีทุนทรัพย์หรือไม่มีทุนทรัพย์อุทธรณ์คำสั่งของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์เช่นนี้จึงมีลักษณะเป็นคำขอให้ศาลมีคำสั่งเกี่ยวกับการใดที่เป็นปัญหาในการปฏิบัติการตามหน้าที่ตามพ.ร.บ.ล้มละลายพ.ศ.2483มาตรา143จำต้องขอต่อศาลที่มีอำนาจซึ่งกรณีนี้หากศาลชั้นต้นยังไม่มีคำสั่งในเรื่องนี้ย่อมจะต้องขอต่อศาลชั้นต้นแต่เมื่อศาลชั้นต้นได้มีคำสั่งกรณีนี้ไปแล้วจึงชอบที่จะขอต่อศาลฎีกา เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ฎีกาเพื่อขอให้ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยอุทธรณ์คำสั่งเมื่อศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจรับไว้พิจารณาเสียแล้วจึงไม่เป็นประโยชน์แก่รูปคดีของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์อีกต่อไปฎีกาของเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์จึงเป็นฎีกาข้อกฎหมายที่ไม่เป็นสาระแก่คดีศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
of 24