คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไพรัช วงศ์วัฒนะ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 451 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2197/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีจำนวนทุนทรัพย์น้อยกว่าสองหมื่นบาท เป็นอุทธรณ์ที่ต้องห้าม และศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจพิจารณา
อุทธรณ์ที่มีเนื้อหาสาระเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการรับฟังพยานหลักฐานของศาลชั้นต้นเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง
คดีที่ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 224 แม้ศาลอุทธรณ์จะรับวินิจฉัยอุทธรณ์ดังกล่าว ก็เป็นการไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 242 (1) ศาลฎีกาพิจารณาข้อฎีกาต่อไปไม่ได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2117/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการร้องสอดเพื่อคุ้มครองสิทธิในที่ดินเมื่อถูกฟ้องให้เพิกถอน น.ส.3ก. และพิพากษาให้ที่ดินเป็นของผู้อื่น
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของโจทก์ให้จำเลยทำประโยชน์จำเลยขอออก น.ส.3 ก.ที่ดินดังกล่าวเป็นชื่อของจำเลยขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์และเพิกถอนชื่อจำเลยออกจาก น.ส.3 ก.ผู้ร้องสอดร้องว่า ผู้ร้องสอดเป็นเจ้าของที่พิพาทบางส่วนขอให้ยกฟ้องเกี่ยวกับที่ดินส่วนของผู้ร้องสอด ดังนี้ หากศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ย่อมกระทบกระทั่งต่อสิทธิของผู้ร้องสอดในที่ดินพิพาท ซึ่งผู้ร้องสอดอ้างว่าเป็นของตน เป็นการโต้แย้งสิทธิทำให้ผู้ร้องสอดได้รับความเสียหาย ผู้ร้องสอดจึงมีสิทธิร้องขอเข้าเป็นคู่ความเพื่อให้ได้รับความรับรองคุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิของผู้ร้องสอดที่มีอยู่ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57(1).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2117/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการร้องสอดเพื่อคุ้มครองสิทธิในที่ดินเมื่อถูกฟ้องให้เพิกถอน น.ส.3ก. และพิพากษาว่าที่ดินเป็นของผู้อื่น
โจทก์ฟ้องว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของโจทก์ให้จำเลยทำประโยชน์จำเลยขอออก น.ส.3 ก.ที่ดินดังกล่าวเป็นชื่อของจำเลย ขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์และเพิกถอนชื่อจำเลยออกจาก น.ส.3 ก. ผู้ร้องสอดร้องว่า ผู้ร้องสอดเป็นเจ้าของที่พิพาทบางส่วนขอให้ยกฟ้องเกี่ยวกับที่ดินส่วนของผู้ร้องสอด ดังนี้ หากศาลพิพากษาว่าที่พิพาทเป็นของโจทก์ย่อมกระทบกระทั่งต่อสิทธิของผู้ร้องสอดในที่ดินพิพาท ซึ่งผู้ร้องสอดอ้างว่าเป็นของตน เป็นการโต้แย้งสิทธิทำให้ผู้ร้องสอดได้รับความเสียหาย ผู้ร้องสอดจึงมีสิทธิร้องขอเข้าเป็นคู่ความเพื่อให้ได้รับความรับรองคุ้มครองหรือบังคับตามสิทธิของผู้ร้องสอดที่มีอยู่ในที่ดินพิพาทตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 57 (1)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2117/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิการร้องสอดคดีที่ดิน: การโต้แย้งสิทธิเจ้าของที่ดินและผลกระทบต่อสิทธิผู้ร้องสอด
คำฟ้องและคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ขอให้เพิกถอนชื่อ ของจำเลยออกจาก น.ส. 3 ก. ซึ่งเป็นที่ดินพิพาท ขอให้พิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสองและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ทั้งสองนั้นหากศาลพิพากษาว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์ทั้งสองและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายตามคำขอท้ายฟ้องย่อมกระทบกระเทือนถึงสิทธิของผู้ร้องซึ่งอ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของตน เป็นการโต้แย้งสิทธิทำให้ผู้ร้องสอดได้รับความเสียหาย ผู้ร้องสอดจึงมีสิทธิร้องขอเข้ามาเป็นคู่ความเพื่อให้ได้รับความรับรอง คุ้มครอง หรือบังคับตามสิทธิของผู้ร้องสอดที่มีอยู่ในที่ดินพิพาทนั้น ป.วิ.พ. มาตรา 57(1).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รถยนต์เป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด ศาลมีอำนาจริบได้ แม้ปรับบทลงโทษแล้ว
จำเลยร่วมกับ ม.วางแผนฆ่าผู้เสียหายโดยใช้รถยนต์กระบะไปดักรอผู้เสียหายที่สถานีบริการน้ำมันและขับรถดังกล่าวตามรถผู้เสียหายไป แล้ว ม. ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายขณะรถยนต์กระบะกำลังแซงรถของผู้เสียหายขึ้นไป ดังนี้รถยนต์กระบะดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด ศาลมีอำนาจสั่งริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33
เมื่อศาลปรับบทลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289 แล้ว ก็ไม่จำต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา 288 อีก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้รถยนต์กระบะเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดฐานฆ่าผู้อื่น และอำนาจการสั่งริบของศาล
จำเลยร่วมกับ ม.วางแผนฆ่าผู้เสียหายโดยใช้รถยนต์กระบะไปดักรอผู้เสียหายที่สถานีบริการน้ำมันและขับรถดังกล่าวตามรถผู้เสียหายไป แล้ว ม. ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายขณะรถยนต์กระบะกำลังแซงรถของผู้เสียหายขึ้นไป ดังนี้รถยนต์กระบะดังกล่าวจึงเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำผิด ศาลมีอำนาจสั่งริบได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33
เมื่อศาลปรับบทลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 289แล้ว ก็ไม่จำต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา 288 อีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2091/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ร่วมกันพยายามฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน การกระทำความผิดและบทบาทของผู้ขับรถ
จำเลยขับรถยนต์กระบะให้ ม. นั่งที่กระบะรถไปจอดดัก รออยู่ที่สถานีบริการน้ำมัน พอ อ. ขับรถยนต์นั่งผ่านมา จำเลยก็ขับรถตามรถยนต์ของ อ. ไป แล้วขับแซง ขึ้นหน้าให้ ม. ใช้อาวุธปืนยิงไปยังรถที่ อ. ขับกระสุนปืนถูก ก. ซึ่งนั่งอยู่ในรถที่คอเส้นโลหิตดำขาด จากนั้นจำเลยหยุดรถให้ ม. หนีไป พฤติการณ์แสดงว่าจำเลยร่วมกับ ม. กระทำการโดยไตร่ตรอง ไว้ก่อน เมื่อ ก.ไม่ถึงแก่ความตายเพราะแพทย์รักษาได้ทันท่วงที จำเลยจึงมีความผิดฐานเป็นตัวการพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรอง ไว้ก่อนและในกรณีเช่นนี้ต้องถือว่ารถยนต์กระบะเป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด ซึ่งศาลมีอำนาจสั่งริบได้ตาม ป.อ. มาตรา 33 ที่ศาลชั้นต้นปรับบทลงโทษจำเลยตาม ป.อ. มาตรา 288,289,80,83 นั้น เห็นว่าเมื่อปรับบทลงโทษตามมาตรา 289 แล้ว ไม่จำต้องปรับบทลงโทษตามมาตรา 288 อีก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กระบวนการพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลเคยมีคำวินิจฉัยชี้ขาดแล้ว เป็นการกระทำที่ต้องห้ามตามกฎหมาย
ผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลลดค่าปรับตามสัญญาประกันโดยอ้างว่าได้พยายามติดตามตัวจำเลยและขอส่งตัวจำเลยต่อศาลศาลชั้นต้นไม่ลดค่าปรับให้ ผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่ง ศาลชั้นต้นไม่รับอุทธรณ์เพราะยื่นเกินกำหนดระยะเวลาอุทธรณ์ คำร้องขอลดค่าปรับจึงถึงที่สุด ผู้ประกันมายื่นคำร้องขอให้ศาลลดค่าปรับตามสัญญาประกันโดยอ้างเหตุผลอย่างเดียวกันอีก จึงเป็นกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่มีคำวินิจฉัยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตาม ป.วิ.พ. มาตรา 144 ประกอบป.วิ.อ. มาตรา 15.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลชี้ขาดแล้ว ต้องห้ามตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาและแพ่ง
ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไม่ให้ลดค่าปรับเมื่อพ้นกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา198 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคำร้องของผู้ประกันในกรณีดังกล่าวถึงที่สุดแล้วผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นลดค่าปรับโดยอ้างเหตุเดิมอีก จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 15 ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องของผู้ประกันฉบับหลังว่า ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม และผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็ไม่มีอำนาจที่จะรับวินิจฉัยให้ ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยมานั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2080/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยื่นคำร้องซ้ำในประเด็นที่ศาลตัดสินแล้ว ถือเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำที่กฎหมายห้าม
ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้นไม่ให้ลดค่าปรับ เมื่อพ้นกำหนดเวลาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ศาลชั้นต้นมีคำสั่งไม่รับอุทธรณ์ คำสั่งของศาลชั้นต้นเกี่ยวกับคำร้องของผู้ประกันในกรณีดังกล่าวถึงที่สุดแล้วผู้ประกันยื่นคำร้องขอให้ศาลชั้นต้นลดค่าปรับโดยอ้างเหตุเดิมอีก จึงเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาซ้ำในประเด็นที่ศาลชั้นต้นได้มีคำวินิจฉยชี้ขาดไปแล้ว ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 144 ประกอบกับประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 15 ดังนั้น เมื่อศาลชั้นต้นมีคำสั่งคำร้องของผู้ประกันฉบับหลังว่า ไม่มีเหตุที่จะเปลี่ยนแปลงคำสั่งเดิม และผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวขึ้นมา ศาลอุทธรณ์ก็ไม่มีอำนาจที่จะรับวินิจฉัยให้ ที่ศาลอุทธรณ์รับวินิจฉัยมานั้นเป็นการไม่ชอบ ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้
of 46