คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เสวก จันทร์ผ่อง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 371 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาถึงที่สุดผูกพันคู่ความในคดีต่อมา การฟ้องขับไล่ทำได้หากจำเลยรบกวนการครอบครองของผู้ชนะคดีก่อน
คดีก่อนศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าโจทก์คดีนี้ได้แย่งการครอบครองที่พิพาทของจำเลยมาเกิน1ปีแล้วจำเลยซึ่งเป็นโจทก์ในคดีก่อนไม่มีสิทธิฟ้องจึงต้องฟังเป็นยุติว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่พิพาทผลแห่งคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดดังกล่าวย่อมผูกพันโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อนตามป.วิ.พ.มาตรา145ดังนั้นเมื่อจำเลยรบกวนการครอบครองที่พิพาทของโจทก์โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลยได้จำเลยจะโต้เถียงอีกว่าความจริงที่พิพาทเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันและจำเลยเป็นผู้ทำประโยชน์ตลอดมาหาได้ไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 796/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลคำพิพากษาเด็ดขาดผูกพันคู่ความ การฟ้องขับไล่ต้องพิจารณาจากการครอบครองที่ชอบด้วยกฎหมาย
โจทก์จำเลยเคยพิพาทฟ้องร้องเกี่ยวกับที่ดินแปลงพิพาทมาก่อนแล้ว และคดีถึงที่สุดโดยคำพิพากษาศาลชั้นต้นซึ่งวินิจฉัยว่าจำเลย (โจทก์คดีนี้) ได้แย่งการครอบครองที่พิพาทของโจทก์ (จำเลยคดีนี้) มาเกิน 1 ปีแล้ว โจทก์ไม่มีสิทธิฟ้อง จึงฟังเป็นยุติได้ว่าโจทก์เป็นผู้ครอบครองที่พิพาท ผลแห่งคำพิพากษาซึ่งถึงที่สุดดังกล่าวย่อมผูกพันโจทก์จำเลยซึ่งเป็นคู่ความในคดีก่อน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 จำเลยจำต้องยอมรับผลแห่งคำพิพากษานั้น จะมาโต้เถียงอีกว่าความจริงที่พิพาทเป็นที่สาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกันและจำเลยเป็นผู้ทำประโยชน์อยู่ตลอดมา ทั้ง ๆ ที่ตนต้องคำพิพากษาให้เป็นฝ่ายแพ้คดีหาได้ไม่ มิฉะนั้นแล้วคำพิพากษาของศาลย่อมจะไร้ผล ดังนั้น เมื่อจำเลยเข้ามารบกวนการครอบครองที่พิพาทของโจทก์โจทก์จึงมีสิทธิฟ้องขับไล่จำเลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 705/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การฎีกาขอริบของกลางที่ศาลชั้นต้นและอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจไม่ริบ เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้าม
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้จำคุกจำเลย1ปี6เดือนจึงต้องห้ามมิให้คู่ความฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218เมื่อศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ใช้ดุลพินิจไม่ริบรถจักรยานสองล้อของกลางที่จำเลยใช้ในการกระทำความผิดแล้วโจทก์ยังฎีกาขอให้ริบอีกจึงเป็นการโต้เถียงดุลพินิจของศาลเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงต้องห้ามตามบทกฎหมายดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีสัญญายืมใช้คงรูป แม้มีการชำระค่าเสียหายแล้ว ยังคงมีข้อโต้แย้งสิทธิ
โจทก์ติดต่อซื้อรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุเพื่อใช้ในราชการโดยโจทก์ได้รับรถยนต์จากผู้ขายมาใช้ก่อนในวันเกิดเหตุจำเลยยืมรถยนต์คันดังกล่าวจากโจทก์ไปใช้และเกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหายโจทก์จึงฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญายืมใช้คงรูปเมื่อรถยนต์คันที่จำเลยยืมไปใช้เกิดความเสียหายแม้โจทก์จะได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์ให้แก่ผู้ซ่อมหรือเจ้าของรถยนต์นั้นแล้วหรือไม่ก็ตามถือได้แล้วว่ามีข้อโต้แย้งสิทธิตามสัญญายืมใช้คงรูปเกิดขึ้นแล้วตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา55โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง. คำฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยยืมรถยนต์คันเกิดเหตุไปจากโจทก์ต่อมาเกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์บรรทุกสิบล้อของบุคคลอื่นรถยนต์คันดังกล่าวเกิดความเสียหายขึ้นในระหว่างที่โจทก์ดูแลและทดลองใช้อยู่โจทก์ชำระเงินค่าซ่อมให้เจ้าของรถแล้วจำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้เงินคืนแก่โจทก์ตามคำฟ้องดังกล่าวไม่ปรากฏเหตุใดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา643ที่จะทำให้จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายที่เกิดขึ้นเลยจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีสัญญายืมใช้คงรูปและการรับผิดในความเสียหายจากการใช้งาน
โจทก์ติดต่อซื้อรถยนต์บรรทุกคันเกิดเหตุเพื่อใช้ในราชการ โดยโจทก์ได้รับรถยนต์จากผู้ขายมาใช้ก่อน ในวันเกิดเหตุจำเลยยืมรถยนต์คันดังกล่าวจากโจทก์ไปใช้ และเกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหาย โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยรับผิดตามสัญญายืมใช้คงรูป เมื่อรถยนต์คันที่จำเลยยืมไปใช้เกิดความเสียหาย แม้โจทก์จะได้ชำระค่าซ่อมรถยนต์ให้แก่ผู้ซ่อมหรือเจ้าของรถยนต์นั้นแล้วหรือไม่ก็ตาม ถือได้แล้วว่ามีข้อโต้แย้งสิทธิตามสัญญายืมใช้คงรูปเกิดขึ้นแล้ว ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 55 โจทก์จึงมีอำนาจฟ้อง
คำฟ้องของโจทก์กล่าวว่าจำเลยยืมรถยนต์คันเกิดเหตุไปจากโจทก์ต่อมาเกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์บรรทุกสิบล้อของบุคคลอื่น รถยนต์คันดังกล่าวเกิดความเสียหายขึ้นในระหว่างที่โจทก์ดูแลและทดลองใช้อยู่ โจทก์ชำระเงินค่าซ่อมให้เจ้าของรถแล้ว จำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้เงินคืนแก่โจทก์ ตามคำฟ้องดังกล่าวไม่ปรากฏเหตุใดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 643 ที่จะทำให้จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายที่เกิดขึ้นเลย จำเลยจึงไม่ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายให้โจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 526/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญายืมใช้คงรูป: ผู้ยืมต้องรับผิดชอบความเสียหายจากการใช้งาน
โจทก์ติดต่อซื้อรถยนต์เพื่อใช้ในราชการและรับรถจากผู้ขายมาใช้ก่อนจำเลยได้ยืมรถคันดังกล่าวจากโจทก์ไปใช้และเกิดอุบัติเหตุได้รับความเสียหายกรณีเช่นนี้ไม่ว่าโจทก์จะได้ชำระค่าซ่อมรถให้แก่ผู้ซ่อมหรือเจ้าของรถแล้วหรือไม่ก็ตามถือได้ว่ามีข้อโต้แย้งสิทธิตามสัญญายืมใช้คงรูปเกิดขึ้นแล้วโจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลยได้ ฟ้องโจทก์บรรยายว่าจำเลยได้ขอยืมรถยนต์จากโจทก์ไปใช้ต่อมาเกิดอุบัติเหตุชนกับรถยนต์คันอื่นได้รับความเสียหายซึ่งเป็นความเสียหายที่เกิดขึ้นในระหว่างที่โจทก์ดูแลและทดลองใช้รถยนต์คันดังกล่าวอยู่โจทก์ชำระเงินค่าซ่อมให้เจ้าของรถแล้วจำเลยมีหน้าที่ต้องรับผิดชดใช้เงินคืนแก่โจทก์ดังนี้ฟ้องโจทก์ไม่ปรากฏเหตุใดๆตามกฎหมายที่จะทำให้จำเลยต้องรับผิดต่อโจทก์ในความเสียหายที่เกิดขึ้นเลยจำเลยจึงไม่ต้องรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การนำข้อเท็จจริงจากคดีอื่นมาใช้พิสูจน์ข้อเท็จจริงในคดีปัจจุบัน แม้คู่ความต่างกัน แต่เกี่ยวข้องโดยตรง
โจทก์ฟ้องขอให้เพิกถอนมติที่ประชุมใหญ่ของบริษัทว. อ้างว่าผู้เข้าประชุมถือหุ้นไม่ถึงร้อยละเจ็ดสิบของหุ้นทั้งหมดในการวินิจฉัยปัญหาดังกล่าวมีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัยว่าด.ผู้ถือหุ้นคนหนึ่งได้ขายหุ้นจำนวน3,398หุ้นให้แก่ม. และม.ได้โอนหุ้นให้แก่ค. หรือไม่ซึ่งประเด็นดังกล่าวศาลได้วินิจฉัยไว้ในคดีแพ่งอีกเรื่องหนึ่งที่ด. ฟ้องบริษัทว.,ม.,ค.กับพวกอีก2คนเป็นจำเลยว่าด. ได้ขายหุ้นดังกล่าวให้แก่ม.และม. ได้โอนหุ้นให้แก่ค. แล้วประเด็นที่ศาลได้วินิจฉัยแล้วนี้เกี่ยวกับประเด็นในคดีนี้โดยตรงแม้โจทก์จะเป็นคนละคนก็นำมารับฟังในคดีนี้ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยองค์ประชุมผู้ถือหุ้น: การพิจารณาข้อมูลการซื้อขายหุ้นที่เกี่ยวข้องกับสถานะผู้ถือหุ้น ณ วันประชุม
ข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่7663/2524ของศาลชั้นต้นที่ว่าด.โจทก์ได้ขายหุ้นจำนวน3398หุ้นให้แก่ว.จำเลยที่3ในคดีดังกล่าวไปแล้วใช่หรือไม่มีความเกี่ยวพันกับประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีนี้โดยตรงแม้ว่าโจทก์ทั้งสองคดีจะเป็นคนละคนกันและมิใช่คู่ความในคดีเดียวกันก็ตามเพราะก่อนที่ศาลจะวินิจฉัยคดีนี้ว่าการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2522ของบริษัทจำเลยมีผู้ถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ70ของหุ้นทั้งหมดหรือไม่นั้นจำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนว่าด.ยังเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยขณะที่บริษัทจำเลยจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่1/2522หรือไม่ดังนั้นการที่ศาลอุทธรณ์นำข้อเท็จจริงในคำพิพากษาคดีแพ่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวที่ฟังว่าด.ได้ขายหุ้นจำนวน3,398หุ้นให้แก่ม.และม.ได้โอนหุ้นจำนวนดังกล่าวให้แก่ว.มาวินิจฉัยตัดสินในคดีนี้จึงเป็นการวินิจฉัยที่ตรงกับประเด็นที่ได้กำหนดหน้าที่นำสืบและภาระการพิสูจน์ไว้ในคดีนี้คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 387/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การใช้ข้อเท็จจริงจากคดีอื่นเพื่อวินิจฉัยคดีปัจจุบัน: ความเกี่ยวพันของสถานะผู้ถือหุ้นในการประชุม
ข้อเท็จจริงตามประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีในคดีแพ่งหมายเลขแดงที่ 7663/2524 ของศาลชั้นต้นที่ว่า ด. โจทก์ได้ขายหุ้นจำนวน 3398 หุ้น ให้แก่ กว.จำเลยที่ 3 ในคดีดังกล่าวไปแล้วใช่หรือไม่ มีความเกี่ยวพันกับประเด็นข้อพิพาทแห่งคดีนี้โดยตรง แม้ว่าโจทก์ทั้งสองคดีจะเป็นคนละคนกันและมิใช่คู่ความในคดีเดียวกันก็ตาม เพราะก่อนที่ศาลจะวินิจฉัยคดีนี้ว่าการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2522 ของบริษัทจำเลยมีผู้ถือหุ้นรวมกันไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ของหุ้นทั้งหมดหรือไม่นั้น จำเป็นต้องฟังข้อเท็จจริงเสียก่อนว่า ด. ยังเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทจำเลยขณะที่บริษัทจำเลยจัดให้มีการประชุมใหญ่วิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2522 หรือไม่ ดังนั้น การที่ศาลอุทธรณ์นำข้อเท็จจริงในคำพิพากษาคดีแพ่งของศาลชั้นต้นดังกล่าวที่ฟังว่า ด. ได้ขายหุ้นจำนวน 3,398 หุ้นให้แก่ ม.และ ม. ได้โอนหุ้นจำนวนดังกล่าวให้แก่ ว. มาวินิจฉัยตัดสินในคดีนี้ จึงเป็นการวินิจฉัยที่ตรงกับประเด็นที่ได้กำหนดหน้าที่นำสืบและภาระการพิสูจน์ไว้ในคดีนี้ คำวินิจฉัยของศาลอุทธรณ์จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ลดหย่อนภาษีโรงเรือนสำหรับโรงงานบรรจุสินค้า: เครื่องจักรกลไกเป็นส่วนควบสำคัญ แม้ไม่ใช่เครื่องกระทำหรือเครื่องกำเนิดสินค้า
บริษัทโจทก์ผลิตปูนซิเมนต์ออกจำหน่ายโดยโรงงานอยู่ในต่างจังหวัดแล้วส่งปูนซิเมนต์ผงมาบรรจุลงถุงที่โรงงานในกรุงเทพมหานครซึ่งมีอาคารเครื่องจักรโรงรับปูนซิเมนต์ผงทางรถไฟอาคารเครื่องจักรโรงห่อปูนซิเมนต์ถุงอาคารเครื่องจักรจ่ายปูนซิเมนต์ถุงทางรถยนต์.อาคารเครื่องจักรไซโลปูนผงซึ่งอาคารทั้งสี่อยู่ติดต่อกันเครื่องจักรทำงานต่อเนื่องกันและอาคารเครื่องชั่งถึงแม้โรงงานนี้จะมิได้ติดตั้งเครื่องจักรประเภทเครื่องกระทำหรือเครื่องกำเนินสินค้าแต่ก็เป็นโรงเรือนที่ติดตั้งเครื่องจักรกลไกอันเป็นส่วนควบที่สำคัญเพื่อใช้ดำเนินการอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องจากการผลิตปูนซิเมนต์ผงของโจทก์เพราะการจำหน่ายแก่ลูกค้าต้องบรรจุเป็นถุงโรงเรือนดังกล่าวจึงได้รับลดหย่อนค่ารายปีลงเหลือ1ใน3ตามพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดินพ.ศ.2475มาตรา13. บ้านพักคนงานห้องน้ำห้องส้วมเป็นโรงเรือนที่โจทก์ให้คนงานเข้าพักอาศัยเมื่อเลิกงานแล้วกลับบ้านไม่ได้ก็เพื่อประโยชน์ในการประกอบอุตสาหกรรมของโจทก์มิใช่เป็นการเข้าอยู่เพื่อเฝ้ารักษาโรงเรือนถือไม่ได้ว่าเป็นโรงเรือนที่เจ้าของอยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษาอันจะได้รับงดเว้นไม่ต้องเสียภาษีโรงเรือนตามความหมายของมาตรา10 ป้อมยามเป็นโรงเรือนที่โจทก์ให้คนยามเข้าใช้สอยในการปฏิบัติหน้าที่เวรยามเพื่อประโยชน์ในการประกอบอุตสาหกรรมของโจทก์ถือไม่ได้ว่าเป็นโรงเรือนที่เจ้าของอยู่เองหรือให้ผู้แทนอยู่เฝ้ารักษาตามความหมายของมาตรา10.(ที่มา-เนติฯ)
of 38