พบผลลัพธ์ทั้งหมด 370 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงประนีประนอมในคดีแพ่ง: การบอกเลิกข้อตกลงและการดำเนินกระบวนการพิจารณาต่อไป
ในชั้นพิจารณาคู่ความแถลงว่าตกลงกันได้ ฝ่ายจำเลยจะหาเงินมาซื้อที่ดินและบ้านพิพาทคืน โดยจำเลยจะชำระเงินให้โจทก์ทั้งหมดภายในเวลา 2 เดือนแล้วโจทก์จะถอนฟ้องคดีนี้ แต่เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินภายในกำหนด และโจทก์แถลงว่าจะไม่ให้เวลาจำเลยอีก ถือได้ว่าโจทก์บอกเลิกข้อตกลงดังกล่าวแล้ว ดังนี้การที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานและพิพากษาขับไล่จำเลยจึงไม่ชอบ ต้องดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1368/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกข้อตกลงประนีประนอม และผลกระทบต่อการดำเนินคดี
โจทก์ฟ้องขับไล่จำเลยออกจากที่ดินที่จำเลยขายฝากให้แก่โจทก์ระหว่างพิจารณาคู่ความแถลงว่าคดีตกลงกันได้ ฝ่ายจำเลยจะหาเงินมาซื้อที่ดินและบ้านพิพาทคืนภายในเวลา 2 เดือน แล้วโจทก์จะถอน ฟ้องแต่เมื่อจำเลยไม่ชำระเงินภายในกำหนด โจทก์แถลงว่านัดนี้จะไม่ให้เวลาจำเลยอีก ถือได้ว่าโจทก์บอกเลิกข้อตกลงดังกล่าวแล้ว ดังนั้นการที่ศาลชั้นต้นงดสืบพยานและพิพากษาขับไล่จำเลย จึงไม่ชอบ ศาลจะต้องดำเนินกระบวนพิจารณาคดีต่อไป.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การโอนสิทธิเรียกร้องในอนาคตทำได้หากสภาพสิทธิตามกฎหมายเปิดช่อง และการอายัดเงินตามสัญญาที่โอนสิทธิไปแล้วไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยได้เข้าทำสัญญาก่อสร้างอาคารและอุปกรณ์ต่าง ๆ กับผู้ที่จ้างแล้ว ต่อมาในขณะที่จำเลยยังไม่ได้ลงมือก่อสร้างและยังไม่มีสิทธิรับเงินค่าก่อสร้าง จำเลยได้โอนสิทธิเรียกร้องค่าก่อสร้างที่จะพึงมีขึ้นในอนาคตให้แก่ผู้ร้อง ดังนี้เมื่อสิทธินี้อยู่ในสภาพเปิดช่องให้โอนกันได้ การโอนสิทธิเรียกร้องที่จะมีในอนาคตย่อมกระทำได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 303.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานจำเลยเมื่อจำเลยให้การปฏิเสธฟ้องโดยไม่ยกเหตุ เป็นการพิจารณาที่ไม่ชอบ
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมรับผิดชำระเงินแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลยที่ 2 ให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ทั้งสิ้นแต่ไม่อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธ คำให้การของจำเลยที่ 2 จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ แต่โจทก์ยังมีภาระที่จะต้องนำสืบพิสูจน์ว่าจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ทำให้จำเลยที่ 2 หมดโอกาสที่จะซักค้านพยานโจทก์ทั้งที่จำเลยที่ 2 ไปศาลในวันสืบพยานโจทก์สำหรับจำเลยที่1แล้ว จึงเป็นการพิจารณาที่ไม่ถูกต้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานทำให้จำเลยเสียโอกาสซักค้าน แม้จำเลยให้การปฏิเสธทั้งหมด
โจทก์ฟ้องขอให้จำเลยที่ 1 และที่ 2 ร่วมรับผิดชำระเงินแก่โจทก์ จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา จำเลยที่ 2ให้การปฏิเสธฟ้องของโจทก์ทั้งสิ้นแต่ไม่อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธ คำให้การของจำเลยที่ 2 จึงไม่มีประเด็นที่จะนำสืบ แต่โจทก์ยังมีภาระที่จะต้องนำสืบพิสูจน์ว่าจำเลยที่ 2 ต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามฟ้อง ศาลชั้นต้นสั่งงดสืบพยานโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ทำให้จำเลยที่ 2 หมดโอกาสที่จะซักค้านพยานโจทก์ทั้งที่จำเลยที่ 2 ไปศาลในวันสืบพยานโจทก์สำหรับจำเลยที่1แล้ว จึงเป็นการพิจารณาที่ไม่ถูกต้อง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1363/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การงดสืบพยานผู้ค้ำประกันที่ไม่ชัดเจนประเด็น การพิจารณาไม่ถูกต้อง
คำให้การของจำเลยแม้จะไม่อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธ อันจะทำให้จำเลยไม่มีประเด็นที่จะต้องนำสืบ แต่โจทก์ยังมีภาระจะต้องสืบพยานให้ได้ความตามข้ออ้างของโจทก์.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเปลี่ยนแปลงกฎหมายยาเสพติดกระทบต่อความผิดเดิม ศาลฎีกาแก้ไขคำพิพากษาให้ถูกต้องตามกฎหมายใหม่
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานซื้อฝิ่นและฐานมีฝิ่นดิบไว้ในครอบครอง ปรากฏว่าระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มี พระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษยกเลิก พระราชบัญญัติฝิ่น เป็นผลให้การซื้อฝิ่นไม่เป็นความผิดอีกต่อไป แม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในข้อนี้ ศาลฎีกาย่อมแก้ไขให้ถูกต้องโดยพิพากษายกฟ้องข้อหาซื้อฝิ่นนั้นเสีย ส่วนความผิดฐานมีฝิ่นดิบไว้ในความครอบครองนั้น พระราชบัญญัติ ฝิ่นซึ่งใช้อยู่ในขณะที่จำเลยกระทำความผิดเป็นคุณแก่จำเลยเพราะกำหนดโทษเบากว่า พระราชบัญญัติ ยาเสพติดให้โทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษเป็นการฎีกาการใช้ดุลพินิจของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218.(ที่มา-ส่งเสริม)
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 5 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษเป็นการฎีกาการใช้ดุลพินิจของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1362/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลกระทบของกฎหมายใหม่ต่อคดีเก่า: ศาลแก้ไขโทษฐานซื้อฝิ่นหลังมีการยกเลิก พ.ร.บ. ฝิ่น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามศาลชั้นต้นลงโทษจำเลยฐานซื้อฝิ่นและฐานมีฝิ่นดิบไว้ในครอบครอง ปรากฏว่าระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ได้มี พ.ร.บ. ยาเสพติดให้โทษยกเลิก พ.ร.บ. ฝิ่น เป็นผลให้การซื้อฝิ่นไม่เป็นความผิดอีกต่อไปแม้จำเลยจะมิได้ฎีกาในข้อนี้ ศาลฎีกาย่อมแก้ไขให้ถูกต้องโดยพิพากษายกฟ้องข้อหาซื้อฝิ่นนั้นเสีย ส่วนความผิดฐานมีฝิ่นดิบไว้ในความครอบครองนั้น พ.ร.บ. ฝิ่นซึ่งใช้อยู่ในขณะที่จำเลยกระทำความผิดเป็นคุณแก่จำเลยเพราะกำหนดโทษเบากว่า พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยมีกำหนด 5 ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยฎีกาขอให้ลงโทษสถานเบาและรอการลงโทษเป็นการฎีกาการใช้ดุลพินิจ ของศาลอันเป็นปัญหาข้อเท็จจริงจึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตาม ป.วิ.อ. มาตรา 218.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1356/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลื่อนคดีซ้ำโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร ถือเป็นการประวิงคดี ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนได้
ทนายจำเลยขอเลื่อนคดีเพราะทนายเองป่วยมาครั้งหนึ่งแล้วศาลชั้นต้นอนุญาตให้เลื่อนคดีและกำชับว่านัดหน้า ให้เตรียมพยานมาให้พร้อม จะไม่ให้เลื่อนคดีอีก นัดต่อมาทนายจำเลยขอเลื่อนคดีอ้างว่าตัวจำเลยป่วยกะทันหันอยู่ที่ต่างจังหวัดโดยในคำร้องก็ไม่ระบุว่าจำเลยคนใดป่วย ป่วยเป็นอะไร อยู่ที่จังหวัดใด ทั้งพยานอื่นทนายจำเลยก็ไม่จัดให้มาเบิกความ พฤติการณ์ดังกล่าวแสดงว่าจำเลยประวิงคดี ศาลไม่อนุญาตให้เลื่อนคดีได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1329/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: ผู้ทรงโดยชอบ & การพิสูจน์การชำระหนี้
จำเลยออกเช็คพิพาทสั่งจ่ายเงินให้แก่ผู้ถือ เช็คดังกล่าวย่อมโอนกันได้ด้วยการส่งมอบแก่กัน การที่โจทก์มีเช็คพิพาทไว้ในครอบครองจึงถือว่าโจทก์เป็นผู้ทรงโดยชอบ
เมื่อจำเลยอ้างว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ต่อกัน จำเลยก็ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบให้รับฟังได้ตามข้อกล่าวอ้าง จำเลยมีเพียงตัวจำเลยและ ส.มาเบิกความว่าจำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทหมดแล้วโดยไม่มีหลักฐานการชำระเงินมาแสดงว่าจำเลยได้ชำระให้แก่ผู้ใดไปเป็นเงินเท่าใดพยานหลักฐานของจำเลยไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ตามข้อกล่าวอ้าง จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็ค.(ที่มา-ส่งเสริม)
เมื่อจำเลยอ้างว่าเช็คพิพาทไม่มีมูลหนี้ต่อกัน จำเลยก็ต้องนำพยานหลักฐานมาสืบให้รับฟังได้ตามข้อกล่าวอ้าง จำเลยมีเพียงตัวจำเลยและ ส.มาเบิกความว่าจำเลยชำระเงินตามเช็คพิพาทหมดแล้วโดยไม่มีหลักฐานการชำระเงินมาแสดงว่าจำเลยได้ชำระให้แก่ผู้ใดไปเป็นเงินเท่าใดพยานหลักฐานของจำเลยไม่มีน้ำหนักให้รับฟังได้ตามข้อกล่าวอ้าง จำเลยจึงต้องรับผิดชำระเงินตามเช็ค.(ที่มา-ส่งเสริม)