พบผลลัพธ์ทั้งหมด 328 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 932/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานกระทำอนาจารที่ผู้เสียหายถอนคำร้องทุกข์ ทำให้สิทธิฟ้องระงับ
เหตุที่จำเลยกระทำอนาจารผู้เสียหายอายุ 20 ปี เกิดขึ้นในเวลากลางคืนบนรถโดยสารและข้างทางขณะที่ ป.คนขับลงรถไปปัสสาวะในที่เกิดเหตุคงมีแต่ ป.ซึ่งต้องหาว่าร่วมกระทำผิดด้วยเพียงคนเดียวแต่พนักงานอัยการมีคำสั่งไม่ฟ้อง การกระทำผิดของจำเลยจึงมิได้เกิดต่อหน้าธารกำนัล เป็นความผิดอันยอมความได้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 281 เมื่อผู้เสียหายยื่นคำร้องของถอนคำร้องทุกข์ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องของโจทก์ย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (2) ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดีออกจากสารบบความ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หลักฐานการกู้ยืมเงินต้องแสดงเจตนาให้เห็นว่ามีหนี้สินเกิดขึ้น การอธิบายเพิ่มเติมโดยพยานบุคคลขัดต่อกฎหมาย
เอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไม่จำเป็นต้องระบุชัดแจ้งว่าเป็นหนี้เงินกู้ แต่ก็ต้องมีข้อความแสดงให้เห็นว่าจำเลยมีหนี้สินอันจะพึงต้องชำระให้แก่โจทก์จึงจะนำสืบพยานบุคคลเพื่ออธิบายว่าหนี้ที่ระบุไว้ในเอกสารนั้นเป็นหนี้อันเกิดจากนิติสัมพันธ์ในเรื่อง กู้ยืมเงินได้ เอกสารที่โจทก์อ้างมีข้อความว่า จำเลยได้รับเงิน2 ครั้ง ครั้งแรกรับมา 72,190 บาท ครั้งที่สอง รับมาอีก 1,000 บาท และจำเลยได้ลงลายมือชื่อ รับเงินทั้งสองจำนวนไว้ด้วย ไม่ได้ความว่าโจทก์ เป็นผู้จ่ายเงินและจำเลยจะต้องคืนเงินจำนวน ดังกล่าวให้แก่โจทก์ อันมีลักษณะที่แสดงให้ เห็นว่าจำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์หรือมีหนี้จะต้องชำระแก่โจทก์แต่อย่างใดการที่โจทก์จะสืบพยานบุคคลประกอบว่าโจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงินและจำเลยได้รับเงินไปตามเอกสารดังกล่าว ก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความ ในเอกสารซึ่งต้องห้ามตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94เอกสารนั้นจึงไม่ใช่หลักฐานการกู้ยืมเงินที่จะใช้ฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 807/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารหลักฐานการกู้ยืมเงินต้องแสดงเจตนาการเป็นหนี้ การสืบพยานบุคคลเพิ่มเติมข้อความในเอกสารทำไม่ได้
เอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินไม่จำเป็นต้องระบุชัดแจ้งว่าเป็นหนี้เงินกู้ แต่ก็ต้องมีข้อความแสดงให้เห็นว่า จำเลยมีหนี้สินอันจะพึงต้องชำระให้แก่โจทก์ จึงจะนำสืบพยานบุคคลเพื่ออธิบายว่าหนี้ที่ระบุไว้ในเอกสารนั้นเป็นหนี้อันเกิดจากนิติสัมพันธ์ในเรื่องกู้ยืมเงินได้ เอกสารที่โจทก์อ้างในคดีมีข้อความเพียงว่า จำเลยได้รับเงิน 2 ครั้ง ครั้งแรกรับมา 72,190 บาท ครั้งที่สองรับมาอีก 1,000 บาท และจำเลยได้ลงลายมือชื่อรับเงินทั้งสองจำนวนไว้ด้วยเท่านั้น ไม่ได้ความว่า โจทก์เป็นผู้จ่ายเงินและจำเลยจะต้องคืนเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่โจทก์ อันมีลักษณะที่แสดงให้เห็นว่า จำเลยเป็นลูกหนี้โจทก์หรือมีหนี้จะต้องชำระแก่โจทก์แต่อย่างใด การที่โจทก์จะสืบพยานบุคคลประกอบว่า โจทก์ให้จำเลยกู้ยืมเงินและจำเลยได้รับเงินไปตามเอกสารข้างต้นก็ทำไม่ได้ เพราะเป็นการเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อความในเอกสารดังกล่าว ซึ่งต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 เอกสารนั้นจึงไม่ใช่หลักฐานการกู้ยืมเงินที่จะใช้ฟ้องร้องให้บังคับคดีได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การใช้ให้ผู้อื่นพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นตัวการในความผิด
น.ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้กับพวกได้ตรวจพบไม้แปรรูปผิดกฎหมายบนรถยนต์บรรทุกจำเลยขอร้องไม่ให้เจ้าพนักงานป่าไม้จับกุมแต่เจ้าพนักงานป่าไม้ไม่ยินยอมจำเลยจึงส่งคนขับรถยนต์บรรทุกให้ขับรถไปโดยพูดด้วยว่าใครขวางชนเลยซึ่งคนขับรถบรรทุกก็ปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลยโดยขับรถหลบหนีไปเป็นเหตุให้รถยนต์บรรทุกเฉี่ยวชนน.ซึ่งยืนขวางทางอยู่น.ได้รับบาดเจ็บโดยมีบาดแผลถลอกที่หลังมือซ้ายข้อมือตะโพกซ้ายและหลังกับมีรอยช้ำตามขาและลำตัวการกระทำของคนขับรถยนต์บรรทุกเป็นการพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่และการกระทำของจำเลยเป็นการใช้หรือยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดจำเลยซึ่งเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดจึงต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้ใช้สั่งให้ผู้อื่นพยายามฆ่าเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ถือเป็นตัวการในความผิด
น.ซึ่งเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้กับพวกได้ตรวจพบไม้แปรรูปผิดกฎหมายบนรถยนต์บรรทุก จำเลยขอร้องไม่ให้เจ้าพนักงานป่าไม้จับกุม แต่เจ้าพนักงานป่าไม้ไม่ยินยอม จำเลยจึงส่งคนขับรถยนต์บรรทุกให้ขับรถไป โดยพูดด้วยว่าใครขวางชนเลยซึ่งคนขับรถบรรทุกก็ปฏิบัติตามคำสั่งของจำเลย โดยขับรถหลบหนีไปเป็นเหตุให้รถยนต์บรรทุกเฉี่ยวชน น.ซึ่งยืนขวางทางอยู่ น.ได้รับบาดเจ็บโดยมีบาดแผลถลอกที่หลังมือซ้าย ข้อมือ ตะโพกซ้ายและหลัง กับมีรอยช้ำตามขาและลำตัว การกระทำของคนขับรถยนต์บรรทุกเป็นการพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่และการกระทำของจำเลยเป็นการใช้หรือยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิด จำเลยซึ่งเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิดจึงต้องรับโทษเสมือนเป็นตัวการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 784/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สั่งให้คนขับรถชนเจ้าพนักงานป่าไม้ ถือเป็นผู้ใช้ให้กระทำความผิด
น. กับพวกเป็นเจ้าพนักงานป่าไม้ได้ตรวจพบไม้แปรรูปผิดกฎหมายบนรถยนต์บรรทุกจำเลยขอร้องไม่ให้จับกุมแต่น. กับพวกไม่ยอมจำเลยจึงสั่งคนขับรถบรรทุกให้ขับรถไปโดยพูดว่าใครขวางชนเลยคนขับรถบรรทุกปฏิบัติตามเป็นเหตุให้เฉี่ยวชนน. ซึ่งยืนขวางทางรถบรรทุกอยู่น. ได้รับบาดเจ็บมีแผลถลอกที่หลังมือซ้าย ข้อมือตะโพกซ้าย และหลังกับมีรอยช้ำตามขาและลำตัวการกระทำของคนขับรถบรรทุกเป็นการพยายามฆ่าเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ส่วนพฤติการณ์ของจำเลยเป็นการใช้หรือยุยงส่งเสริมให้ผู้อื่นกระทำความผิดจำเลยจึงต้องรับโทษเสมือนตัวการ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำบอกเล่าของผู้ใกล้ตายเป็นพยานประกอบคำให้การของพยานอื่นได้ และมีน้ำหนักรับฟังได้
ถ้อยคำผู้ตายที่บอกแก่พยานโจทก์ว่าจำเลยเป็นคนยิงและพูดขอฝากฝังบุตรภรรยาของจำเลยให้พยานช่วยดูแลเพราะจะไม่รอดชีวิตเป็นคำบอกเล่าของบุคคลผู้ใกล้จะตายและรู้ตัวว่ากำลังจะตายรับฟังเป็นพยานประกอบพยานอื่นของโจทก์ลงโทษจำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 738/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำบอกเล่าผู้ใกล้ตายเป็นพยานประกอบได้ - คดีฆ่าโดยเจตนา
ถ้อยคำผู้ตายที่บอกแก่พยานโจทก์ว่าจำเลยเป็นคนยิงและพูดขอฝากฝังบุตรภรรยาของจำเลยให้พยานช่วยดูแลเพราะจะไม่รอดชีวิตเป็นคำบอกเล่าของบุคคลผู้ใกล้จะตายและรู้ตัวว่ากำลังจะตายรับฟังเป็นพยานประกอบพยานอื่นของโจทก์ลงโทษจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การบอกเลิกสัญญาซื้อขายและการชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น กรณีซื้อสินค้าชนิดเดียวกันแต่ไม่ตรงตามที่ตกลง
จำเลยที่ 1 ทำสัญญาขายครุภัณฑ์ฝึกฝีมือให้แก่โจทก์ซึ่งมีฉากตายรวมอยู่ด้วย สัญญาข้อ 8 วรรคสอง มีว่า ถ้าจำเลยที่ 1 (ผู้ขาย) ไม่ส่งมอบสิ่งของหรือส่งไม่ถูกต้องหรือส่งไม่ครบจำนวนตามสัญญา โจทก์มีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้และถ้าโจทก์ซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นเต็มจำนวนหรือเฉพาะส่วนที่ขาดส่งภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันบอกเลิกสัญญา จำเลยที่ 1 ยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญา เมื่อจำเลยที่ 1 ผิดสัญญา โจทก์บอกเลิกสัญญาและสงวนสิทธิเรียกร้องให้จำเลยที่ 1 ชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามที่กำหนดไว้ในสัญญาข้อ 8 วรรคสอง ต่อมาโจทก์ได้จัดซื้อฉากตายใหม่ โดยทำสัญญาซื้อขายภายในกำหนดเวลาตามสัญญาข้อ 8 วรรคสองแล้วจำเลยที่ 1 ก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้น กรณีหาจำต้องรอให้การซื้อขายรายหลังมีการส่งมอบสิ่งของและชำระราคาที่ซื้อขายกันตามสัญญาเสียก่อนไม่ แต่การจัดซื้อสิ่งของตามสัญญาข้อ 8 วรรคสองนั้นหมายถึงซื้อสิ่งของชนิดเดียวกันกับสิ่งของที่ทำสัญญาซื้อจากจำเลยที่ 1 กล่าวคือ ต้องเป็นยี่ห้อและขนาดเดียวกัน มิใช่ว่าจะเลือกซื้อสิ่งของใหม่ที่มีคุณภาพดีกว่าอย่างไรก็ได้ เพราะจะเป็นการได้เปรียบและไม่เป็นธรรมแก่คู่กรณี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 727/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การชดใช้ค่าเสียหายสัญญาซื้อขาย: สิ่งของต้องชนิดเดียวกัน ราคาเพิ่มขึ้นจริง จึงมีสิทธิเรียกร้อง
สัญญาซื้อขายกำหนดว่าหากผู้ขายผิดสัญญาจนผู้ซื้อบอกเลิกสัญญาและผู้ซื้อซื้อสิ่งของจากบุคคลอื่นผู้ขายยอมรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นจากที่กำหนดไว้ในสัญญาเช่นนี้หากผู้ซื้อทำสัญญาซื้อขายกับบุคคลอื่นและต้องซื้อของนั้นในราคาที่เพิ่มขึ้นผู้ขายก็ต้องรับผิดชดใช้ราคาที่เพิ่มขึ้นตามสัญญากรณีหาจำต้องรอให้การซื้อขายรายหลังมีการส่งมอบสิ่งของและชำระราคาเสียก่อนไม่แต่สิ่งของที่ซื้อใหม่ต้องเป็นชนิดเดียวกับสิ่งของที่ทำสัญญากับผู้ขาย.