พบผลลัพธ์ทั้งหมด 91 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1741/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสิ้นสุดสถานะผู้ทรงเช็คและการมีอำนาจฟ้องคดีเช็คเมื่อมีการชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็ค
เดิมโจทก์เป็นผู้เสียหายตามเช็คพิพาททั้งสองฉบับที่นำมาฟ้อง ต่อมาก่อนฟ้องคดีนี้โจทก์ได้รับชำระหนี้ตามสัญญาขายลดเช็คจากผู้ที่นำเช็คพิพาททั้งสองฉบับมาขายลดกับโจทก์แล้ว โจทก์ย่อมมีหน้าที่คืนเช็คพิพาททั้งสองฉบับที่ได้รับชำระหนี้แล้วตามสัญญาขายลดเช็คให้แก่ผู้ขายลดเช็คไป ดังนี้ แม้โจทก์ยังยึดถือเช็คพิพาททั้งสองฉบับนี้อยู่ แต่เมื่อโจทก์ไม่มีสิทธิเรียกร้องเงินตามเช็คแล้ว โจทก์จึงไม่ใช่ผู้ทรงเช็คตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 904 และมาตรา 918 และย่อมไม่เป็นผู้เสียหายที่จะมีอำนาจฟ้องคดีอาญาฐานความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 2 (4) และมาตรา 28
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบเอกสาร: การส่งต้นฉบับต่อศาลและรับคืนโดยส่งสำเนา ย่อมรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้ หากคู่ความไม่คัดค้าน
การที่โจทก์นำสืบเอกสารโดยส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าวต่อศาลและขอรับคืนไปโดยขอส่งสำเนาไว้แทนเมื่อจำเลยมิได้คัดค้านการนำสืบเอกสารนั้นโดยเหตุที่ว่าไม่มีต้นฉบับหรือว่าต้นฉบับนั้นปลอมทั้งฉบับหรือแต่บางส่วนหรือสำเนานั้นไม่ถูกต้องตรงกับต้นฉบับย่อมต้องฟังว่าต้นฉบับเอกสารนั้นมีอยู่แท้จริงและถูกต้องและรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1733/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานหลักฐานจากเอกสาร การนำสืบสำเนาเอกสารแทนต้นฉบับเมื่อจำเลยไม่คัดค้าน
การที่โจทก์นำสืบเอกสารโดยส่งต้นฉบับเอกสารดังกล่าวต่อศาลและขอรับคืนไปโดยขอส่งสำเนาไว้แทน เมื่อจำเลยมิได้คัดค้านการนำสืบเอกสารนั้นโดยเหตุที่ว่าไม่มีต้นฉบับ หรือว่าต้นฉบับนั้นปลอมทั้งฉบับหรือแต่บางส่วน หรือสำเนานั้นไม่ถูกต้องตรงกับต้นฉบับ ย่อมต้องฟังว่าต้นฉบับเอกสารนั้นมีอยู่แท้จริงและถูกต้องและรับฟังเป็นพยานหลักฐานได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1676/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การมอบอำนาจฟ้องคดี: การรับฟังพยานหลักฐานจากผู้รับมอบอำนาจโดยไม่ต้องใช้ต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า ได้มอบอำนาจให้ พ.และหรือ ส.เป็นผู้มีอำนาจฟ้องคดีแทน และได้แนบสำเนาหนังสือมอบอำนาจดังกล่าวไว้ท้ายฟ้อง จำเลยให้การว่า โจทก์จะมอบอำนาจให้ พ.และหรือ ส.เป็นผู้ฟ้องคดีหรือไม่ จำเลยไม่รับรองและใบมอบอำนาจไม่ถูกต้อง คำให้การของจำเลยแปลได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ฟ้องคดีนี้แต่จะมอบอำนาจให้ พ.และหรือ ส.เป็นผู้ฟ้องคดีแทนหรือไม่ จำเลยไม่รับรอง ส่วนที่ให้การต่อไปว่าใบมอบอำนาจไม่ถูกต้องก็ไม่ได้ให้การว่าไม่ถูกต้องอย่างไร และมิได้คัดค้านการมีอยู่และความแท้จริงของหนังสือมอบอำนาจ โจทก์จึงไม่จำต้องส่งต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจต่อศาล และคำให้การของจำเลยไม่มีประเด็นที่จะต้องวินิจฉัย ศาลรับฟังพยานโจทก์ได้ว่า ส.เป็นผู้ได้รับมอบอำนาจให้ฟ้องคดีแทนโจทก์โดยไม่จำต้องอาศัยต้นฉบับหนังสือมอบอำนาจและไม่ต้องปิดอากรแสตมป์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1629/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวผู้ต้องหา: ความรับผิดเมื่อไม่ส่งตัวตามสัญญา แม้หมดระยะควบคุมตามกฎหมาย
ในช่วงเวลาที่เจ้าพนักงานมีอำนาจควบคุมผู้ต้องหาตามป.วิ.อ.มาตรา87จำเลยได้ทำสัญญาประกันขอให้ปล่อยตัวผู้ต้องหาไปเมื่อจำเลยไม่นำผู้ต้องหามามอบให้เจ้าพนักงานตามข้อสัญญาแม้ระยะเวลาที่กฎหมายอนุญาตให้เจ้าพนักงานควบคุมสิ้นไปแล้วจำเลยก็ยังต้องรับผิดตามสัญญาประกัน ผู้ต้องหาที่จำเลยขอประกันไปจากกรมศุลกากรโจทก์ถูกตั้งข้อหาพยายามลักลอบนำสินค้าหนีภาษีราคาประมาณห้าล้านบาทเข้ามาในราชอาณาจักรมีโทษปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาสินค้าซึ่งรวมค่าอากรเข้าด้วยแล้วหรือจำคุกไม่เกินสิบปีหรือทั้งจำทั้งปรับโจทก์ปรับจำเลยฐานไม่ส่งตัวผู้ต้องหา2คนตามสัญญาประกันรวมเป็นเงิน300,000บาทเป็นจำนวนค่าปรับที่สมควรแล้ว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1629/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาประกันตัวและการรับผิดเมื่อจำเลยไม่นำตัวผู้ต้องหามอบตามสัญญา
จำเลยได้ทำสัญญาประกันตัวผู้ต้องหาในช่วงเวลาที่เจ้าพนักงานมีอำนาจควบคุมตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 87 เมื่อจำเลยไม่นำตัวผู้ต้องหามามอบให้เจ้าพนักงานตามข้อสัญญา จำเลยจึงต้องรับผิดตามสัญญาประกัน
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1618/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การนำสืบการชำระหนี้เงินกู้บางส่วนและทั้งหมดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653
ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 653 วรรคสอง ที่กล่าวว่า 'จะนำสืบการใช้เงินได้' หาได้บัญญัติบังคับเฉพาะเจาะจงเฉพาะนำสืบการใช้ต้นเงินทั้งหมดไม่ ดังนั้น ถ้ามีการชำระต้นเงินเพียงบางส่วน ผู้ยืมจะนำสืบการใช้เงินได้ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดง หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้น และหากมีการชำระต้นเงินทั้งหมด ผู้ยืมจะนำสืบการใช้เงินได้ต่อเมื่อมีหลักฐานเป็นหนังสืออย่างใดอย่างหนึ่งลงลายมือชื่อผู้ให้ยืมมาแสดง หรือเอกสารอันเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมนั้นได้เวนคืนแล้ว หรือได้แทงเพิกถอนลงในเอกสารนั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1491/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดทางอาญาของผู้ป่วยจิตเภท: การลดโทษตามมาตรา 65 วรรคสอง ป.อ.
จำเลยป่วยเป็นโรคจิตเภท ชนิดระแวง จำเลยหวาดระแวงว่าผู้เสียหายจะทำร้ายตนทั้ง ๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องโกรธเคืองกันมาก่อนและเป็นเพื่อนบ้านกันมาตั้งแต่เป็นเด็ก เป็นอาการบกพร่องทางจิตสำนึก สำคัญผิดว่าผู้เสียหายเป็นศัตรู จำเลยซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ผู้อื่นขณะใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายดังนี้ จำเลยยังสามารถรู้ผิดชอบและบังคับตนเองได้บ้าง ควรลงโทษน้อยว่าที่กฎหมายกำหนดไว้สำหรับความผิดนั้นตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 65 วรรคสอง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1409/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กำหนดเวลาคำร้องยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ - นับจากวันศาลยกฟ้อง ไม่ใช่วันที่ทราบคำสั่ง
คำร้องขอให้ยกคดีขึ้นพิจารณาใหม่ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 166 นั้นโจทก์จะต้องร้องขอภายใน 15 วัน นับแต่วันศาลยกฟ้องมิใช่วันที่โจทก์ทราบคำสั่ง ศาลยกฟ้องเมื่อวันที่29 มีนาคม 2527 โจทก์มายื่นคำร้องขอเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2527 จึงเป็นการเกินกำหนดเวลา โจทก์ฎีกาว่าการส่งหมายนัดไม่ชอบแต่มิได้อ้างเหตุมาให้เห็นเป็นการชัดเจนว่าไม่ชอบอย่างไร เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 225 ประกอบด้วย มาตรา 195 ศาลฎีการับวินิจฉัยให้ไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1325/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความฟ้องคดีเช็ค: เริ่มนับจากวันธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงิน ไม่ใช่วันรับเช็ค
การฟ้องคดีอาญาตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค ต้องกระทำภายใน 3 เดือน นับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำผิด
อายุความ 3 เดือนต้องเริ่มนับแต่วันที่โจทก์ได้รับแจ้งจากธนาคารว่ามีการปฏิเสธการจ่ายเงิน จะนับจากวันที่โจทก์ได้รับเช็คและใบคืนเช็คจากธนาคารหาได้ไม่
อายุความ 3 เดือนต้องเริ่มนับแต่วันที่โจทก์ได้รับแจ้งจากธนาคารว่ามีการปฏิเสธการจ่ายเงิน จะนับจากวันที่โจทก์ได้รับเช็คและใบคืนเช็คจากธนาคารหาได้ไม่