คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
อัมพร ณ ตะกั่วทุ่ง

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 91 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความคำว่า 'ด้าย' ในกฎหมายภาษีอากร กรณีเส้นใยประดิษฐ์ที่ไม่เข้าข่ายด้ายเพื่อทอผ้า และสิทธิคืนเงินภาษี
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้าฯบัญชี2หมวด2(9)ระบุว่า'ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ทอผ้าไม้ว่าผลิตจากฝ้ายหรือเส้นใยอื่นใด'นั้นหมายความว่าสิ่งใดก็ตามที่มีลักษณะเป็นด้ายโดยไม่ว่าผลิตจากอะไรใช้ทอผ้าได้โดยผ้าที่ทอนั้นเป็นสินค้านำออกขายเกิดรายรับเพื่อเสียภาษีตามอัตราในบัญชีอัตราภาษีการค้าได้แล้วย่อมเป็นด้ายตามความหมายดังกล่าวดังเมื่อสินค้าเส้นใยประดิษฐ์พี.โอ.วายของโจทก์โดยปกติในทางการค้าไม่มีการนำไปใช้ทอผ้าและแม้อาจนำไปทอเป็นผ้าในห้องทดลองผ้าที่ทอนั้นก็ขาดคุณสมบัติจำหน่ายในท้องตลาดไม่ได้สินค้าเส้นใยประดิษฐ์พี.โอ.วายของโจทก์จึงไม่ใช่ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ทอผ้าไม่ว่าผลิตจากฝ้ายหรือเส้นใยอื่นใดตามความหมายที่ระบุในบัญชี2หมวด2(9)โจทก์ได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าดังกล่าวตามมาตรา5(8)แห่งพระราชกฤษฎีกาฯดังกล่าว. เมื่อโจทก์ไม่มีหน้าที่เสียภาษีการค้าและภาษีสุขาภิบาลตามกฎหมายแต่จำเลยได้รับชำระค่าภาษีจากโจทก์ไว้โดยจำเลยไม่มีสิทธิจะเรียกเก็บจำเลยจึงมีหน้าที่คืนเงินภาษีนั้นแก่โจทก์จำเลยมีหนังสือลงวันที่17พฤศจิกายน2523ยืนยันว่าโจทก์ต้องเสียภาษีการค้าและปฏิเสธไม่คืนเงินภาษีที่เรียกเก็บให้แก่โจทก์จำเลยจึงตกเป็นฝ่ายผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา224นับแต่วันดังกล่าว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข่มขืนกระทำชำเรา: การกระทำความผิดสำเร็จหรือไม่เมื่อไม่มีการสอดใส่
จำเลยถูกฟ้องข้อหาข่มขืนกระทำชำเราแต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏแสดงว่าจำเลยน่าจะเพียงใช้อวัยวะเพศถูไถบริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วสำเร็จความใคร่เสียก่อนโดยที่อวัยวะเพศยังไม่ได้เข้าไปภายในช่องคลอดของผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดสำเร็จเป็นเพียงความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การล่วงล้ำทางเพศที่ไม่สำเร็จ
จำเลยถูกฟ้องข้อหาข่มขืนกระทำชำเราแต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏแสดงว่าจำเลยน่าจะเพียงใช้อวัยวะเพศถูไถบริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วสำเร็จความใคร่เสียก่อนโดยที่อวัยวะเพศยังไม่ได้เข้าไปภายในช่องคลอดของผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดสำเร็จเป็นเพียงความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 687/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานคดีขับรถประมาทถึงแก่ความตาย ศาลต้องใช้ดุลพินิจพิจารณาความน่าเชื่อถือของพยานแต่ละปาก
คดีนี้โจทก์ฟ้องให้ลงโทษจำเลยทั้งสองด้วยข้อหาว่าต่างขับรถจักรยานยนต์โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย.จำเลยทั้งสองย่อมเป็นปฏิปักษ์ต่อกันตามรูปคดีเช่นนี้พยานโจทก์นั่งมาในรถคันใดอาจจะเบิกความสมอ้างข้างฝ่ายรถคันที่ตนนั่งและแตกต่างกับพยานโจทก์ปากอื่นก็ได้หาใช่ว่าพยานโจทก์บางปากเบิกความขัดกับพยานปากอื่นแล้วจะทำลายน้ำหนักคำพยานปากอื่นให้ไม่ควรรับฟังเสียทั้งหมดไม่แต่ศาลชอบที่จะใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักคำพยานหลักฐานทั้งหมดในสำนวนแล้วพิเคราะห์ว่าคำเบิกความของพยานปากใดควรเชื่อฟังในข้อใดหรือไม่เพียงใดเพราะเหตุใดที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาว่าคำให้การของพยานโจทก์ขัดกันเองจึงทำให้รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยฝ่ายใดประมาทนั้นจึงไม่ชอบ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 687/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การชั่งน้ำหนักพยานหลักฐานคดีอุบัติเหตุ: ศาลต้องใช้ดุลพินิจพิจารณาความน่าเชื่อถือของพยานแต่ละปาก แม้จะมีข้อขัดแย้ง
คดีนี้โจทก์ฟ้องให้ลงโทษจำเลยทั้งสองด้วยข้อหาว่าต่างขับรถจักรยานยนต์โดยประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำเลยทั้งสองย่อมเป็นปฏิปักษ์ต่อกัน ตามรูปคดีเช่นนี้ พยานโจทก์นั่งมาในรถคันใดอาจจะเบิกความสมอ้างข้างฝ่ายรถคันที่ตนนั่งและแตกต่างกับพยานโจทก์ปากอื่นก็ได้ หาใช่ว่าพยานโจทก์บางปากเบิกความขัดกับพยานปากอื่นแล้วจะทำลายน้ำหนักคำพยานปากอื่นให้ไม่ควรรับฟังเสียทั้งหมดไม่ แต่ศาลชอบที่จะใช้ดุลพินิจวินิจฉัยชั่งน้ำหนักคำพยานหลักฐานทั้งหมดในสำนวนแล้วพิเคราะห์ว่าคำเบิกความของพยานปากใดควรเชื่อฟังในข้อใดหรือไม่ เพียงใดเพราะเหตุใดที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาว่าคำให้การของพยานโจทก์ขัดกันเอง จึงทำให้รับฟังไม่ได้ว่าจำเลยฝ่ายใดประมาทนั้นจึงไม่ชอบ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อสร้างอาคารเพื่อใช้บรรจุก๊าซเข้าข่ายเป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แม้ไม่มีใบอนุญาต
ถังเหล็กพร้อมฐานคอนกรีตรองรับสร้างขึ้นเพื่อใช้บรรจุก๊าซแสดงว่าเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับเข้าใช้สอย ต้องถือว่าสิ่งก่อสร้างดังกล่าวเป็นอาคารตามพ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯมาตรา4 จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนและไม่ปรากฏว่าถังเหล็กพร้อมฐานคอนกรีตรองรับเพื่อใช้บรรจุก๊าซที่จำเลยสร้างขึ้นมีลักษณะน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นจึงสมควรรอการลงโทษจำคุกจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 618/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การก่อสร้างถังเก็บก๊าซเข้าข่ายเป็นอาคารตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร แม้ไม่มีนิยามในกฎหมาย
ถังเหล็กพร้อมฐานคอนกรีตรองรับสร้างขึ้นเพื่อใช้บรรจุก๊าซแสดงว่าเป็นสิ่งที่สร้างขึ้นสำหรับเข้าใช้สอย.ต้องถือว่าสิ่งก่อสร้างดังกล่าวเป็นอาคารตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคารฯมาตรา4. จำเลยไม่เคยได้รับโทษจำคุกมาก่อนและไม่ปรากฏว่าถังเหล็กพร้อมฐานคอนกรีตรองรับเพื่อใช้บรรจุก๊าซที่จำเลยสร้างขึ้นมีลักษณะน่าจะเป็นอันตรายแก่บุคคลอื่นจึงสมควรรอการลงโทษจำคุกจำเลย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ขอบเขตการบังคับคดี: เบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักข้าราชการ ไม่อยู่ในความรับผิดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง
คำขอฝ่ายเดียวที่ยื่นต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา275,276นั้นศาลไม่จำต้องออกหมายบังคับคดีให้ทันทีเมื่อศาลเห็นว่าสิทธิเรียกร้องตามคำขอของโจทก์นั้นไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีก็ย่อมมีอำนาจปฏิเสธไม่ออกหมายบังคับคดีให้แก่โจทก์ได้. สิทธิเรียกร้องเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการพ.ศ.2518เป็นค่าจ้างซึ่งทางราชการจ่ายให้เป็นพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนและค่าจ้างจากงบประมาณรายจ่ายให้แก่ข้าราชการหรือลูกจ้างที่เดินทางไปปฏิบัติราชการชั่วคราวนอกที่ตั้งสำนักงานซึ่งปฏิบัติราชการตามปกติไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา286(2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีกับค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักของข้าราชการ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี
คำขอฝ่ายเดียวที่ยื่นต่อศาลตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 275, 276 นั้น ศาลไม่จำต้องออกหมายบังคับคดีให้ทันทีเมื่อศาลเห็นว่าสิทธิเรียกร้องตามคำขอของโจทก์นั้นไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี ก็ย่อมมีอำนาจปฏิเสธไม่ออกหมายบังคับคดีให้แก่โจทก์ได้.
สิทธิเรียกร้องเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2518 เป็นค่าจ้างซึ่งทางราชการจ่ายให้เป็นพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนและค่าจ้างจากงบประมาณรายจ่ายให้แก่ข้าราชการหรือลูกจ้างที่เดินทางไปปฏิบัติราชการชั่วคราวนอกที่ตั้งสำนักงานซึ่งปฏิบัติราชการตามปกติ ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 286 (2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 554/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิเรียกร้องเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักของข้าราชการ/ลูกจ้าง ไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตาม ป.วิ.พ. มาตรา 286(2)
โจทก์ยื่นคำขอฝ่ายเดียวขอให้ศาลออกหมายบังคับคดีให้เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดทรัพย์ซึ่งจำเลยจะได้รับจากนายจ้างของจำเลยหากศาลเห็นว่าสิทธิเรียกร้องเป็นเงินของจำเลยดังกล่าวไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามป.วิ.พ.มาตรา286ศาลย่อมมีอำนาจปฏิเสธไม่ออกหมายบังคับคดีให้แก่โจทก์ได้ สิทธิเรียกร้องเงินค่าเบี้ยเลี้ยงเดินทางและค่าเช่าที่พักเป็นค่าจ้างซึ่งทางราชการจ่ายให้เป็นพิเศษนอกเหนือจากเงินเดือนและค่าจ้างจากงบประมาณรายจ่ายให้แก่ข้าราชการหรือลูกจ้างที่เดินทางไปปฏิบัติราชการชั่วคราวนอกที่ตั้งสำนักงานซึ่งปฏิบัติราชการปกติไม่อยู่ในความรับผิดแห่งการบังคับคดีตามป.วิ.พ.มาตรา286(2).
of 10