พบผลลัพธ์ทั้งหมด 92 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1180/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลดโทษทางอาญาจากความสำนึกผิดของผู้กระทำความผิดในคดีฆ่าผู้อื่น
จำเลยสำนึกผิดในการกระทำของตนต่อผู้ตายซึ่งจำเลยหลงรักถือเป็นสามีเมื่อแทงและฟันผู้ตายจนล้มลงแล้วจำเลยมีโอกาสหลบหนีไปได้แต่ไม่หลบหนีกลับเข้าประคองกอดผู้ตายไว้จนสิ้นใจตายรอให้เจ้าพนักงานมาจับตัวไปดำเนินคดีและให้การรับสารภาพเป็นการลุแก่โทษต่อเจ้าพนักงานด้วยความสำนึกผิดไม่ได้คิดที่จะต่อสู้คดีมาตั้งแต่ต้น การรับสารภาพของจำเลยจึงไม่ใช่รับเพราะจำนนต่อพยานหลักฐานและเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษศาลลดโทษให้จำเลยได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาหลอกลวงในการซื้อขายโคเข้าข่ายความผิดฐานฉ้อโกง แม้จะอ้างว่าชำระเงินแล้ว
จำเลยติดต่อผู้เสียหายให้หาซื้อโคให้ เมื่อจำเลยขายโคได้แล้วจะนำเงินค่านายหน้าและค่าโคมาชำระให้ ผู้เสียหายซื้อโคได้แล้วมอบให้จำเลยไปจำเลยไม่นำเงินค่านายหน้าและค่าโคมาชำระ เมื่อถูกจับกุมก็ให้การว่าได้ชำระเงินให้ผู้เสียหายจนครบถ้วนแล้ว เห็นได้ว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะซื้อโคอย่างแท้จริง แต่ได้วางแผนหลอกลวงผู้เสียหายกับพวกมาตั้งแต่ต้นโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะซื้อแต่ความจริงจำเลยมิได้มีเจตนาจะซื้อและชำระราคาโค จึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1124/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เจตนาฉ้อโกง: การแสดงเจตนาซื้อที่ไม่จริงเพื่อหลอกลวงผู้เสียหายให้ส่งมอบโค
จำเลยติดต่อผู้เสียหายให้หาซื้อโคให้เมื่อจำเลยขายโคได้แล้วจะนำเงินค่านายหน้าและค่าโคมาชำระให้ผู้เสียหายซื้อโคได้แล้วมอบให้จำเลยไปจำเลยไม่นำเงินค่านายหน้าและค่าโคมาชำระเมื่อถูกจับกุมก็ให้การว่าได้ชำระเงินให้ผู้เสียหายจนครบถ้วนแล้วเห็นได้ว่าจำเลยมิได้มีเจตนาจะซื้อโคอย่างแท้จริงแต่ได้วางแผนหลอกลวงผู้เสียหายกับพวกมาตั้งแต่ต้นโดยแสดงข้อความอันเป็นเท็จว่าจะซื้อแต่ความจริงจำเลยมิได้มีเจตนาจะซื้อและชำระราคาโคจึงเป็นความผิดฐานฉ้อโกง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำว่า 'ด้าย' ในประมวลรัษฎากร และการคืนเงินภาษีที่เรียกเก็บเกินสิทธิ
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้า ฯ บัญชี 2 หมวด 2 (9) ระบุว่า 'ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ทอผ้า ไม้ว่าผลิตจากฝ้ายหรือเส้นใยอื่นใด' นั้น หมายความว่า สิ่งใดก็ตามที่มีลักษณะเป็นด้ายโดยไม่ว่าผลิตจากอะไร ใช้ทอผ้าได้โดยผ้าที่ทอนั้นเป็นสินค้านำออกขายเกิดรายรับเพื่อเสียภาษีตามอัตราในบัญชีอัตราภาษีการค้าได้แล้ว ย่อมเป็นด้ายตามความหมายดังกล่าว ดังเมื่อสินค้าเส้นใยประดิษฐ์ พี.โอ.วาย ของโจทก์โดยปกติในทางการค้าไม่มีการนำไปใช้ทอผ้า และแม้อาจนำไปทอเป็นผ้าในห้องทดลอง ผ้าที่ทอนั้นก็ขาดคุณสมบัติจำหน่ายในท้องตลาดไม่ได้ สินค้าเส้นใยประดิษฐ์ พี.โอ.วาย ของโจทก์จึงไม่ใช่ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ทอผ้า ไม่ว่าผลิตจากฝ้ายหรือเส้นใยอื่นใดตามความหมายที่ระบุในบัญชี 2 หมวด 2(9) โจทก์ได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าดังกล่าวตาม มาตรา 5(8) แห่งพระราชกฤษฎีกา ฯ ดังกล่าว.
เมื่อโจทก์ไม่มีหน้าที่เสียภาษีการค้าและภาษีสุขาภิบาลตามกฎหมาย แต่จำเลยได้รับชำระค่าภาษีจากโจทก์ไว้โดยจำเลยไม่มีสิทธิจะเรียกเก็บ จำเลยจึงมีหน้าที่คืนเงินภาษีนั้นแก่โจทก์ จำเลยมีหนังสือลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2523 ยืนยันว่าโจทก์ต้องเสียภาษีการค้าและปฏิเสธไม่คืนเงินภาษีที่เรียกเก็บให้แก่โจทก์ จำเลยจึงตกเป็นฝ่ายผิดนัด ต้องเสียดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 นับแต่วันดังกล่าว.
เมื่อโจทก์ไม่มีหน้าที่เสียภาษีการค้าและภาษีสุขาภิบาลตามกฎหมาย แต่จำเลยได้รับชำระค่าภาษีจากโจทก์ไว้โดยจำเลยไม่มีสิทธิจะเรียกเก็บ จำเลยจึงมีหน้าที่คืนเงินภาษีนั้นแก่โจทก์ จำเลยมีหนังสือลงวันที่ 17 พฤศจิกายน 2523 ยืนยันว่าโจทก์ต้องเสียภาษีการค้าและปฏิเสธไม่คืนเงินภาษีที่เรียกเก็บให้แก่โจทก์ จำเลยจึงตกเป็นฝ่ายผิดนัด ต้องเสียดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปี ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 224 นับแต่วันดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1025/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การตีความคำว่า 'ด้าย' ในกฎหมายภาษีอากร กรณีเส้นใยประดิษฐ์ที่ไม่เข้าข่ายด้ายเพื่อทอผ้า และสิทธิคืนเงินภาษี
พระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นภาษีการค้าฯบัญชี2หมวด2(9)ระบุว่า'ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ทอผ้าไม้ว่าผลิตจากฝ้ายหรือเส้นใยอื่นใด'นั้นหมายความว่าสิ่งใดก็ตามที่มีลักษณะเป็นด้ายโดยไม่ว่าผลิตจากอะไรใช้ทอผ้าได้โดยผ้าที่ทอนั้นเป็นสินค้านำออกขายเกิดรายรับเพื่อเสียภาษีตามอัตราในบัญชีอัตราภาษีการค้าได้แล้วย่อมเป็นด้ายตามความหมายดังกล่าวดังเมื่อสินค้าเส้นใยประดิษฐ์พี.โอ.วายของโจทก์โดยปกติในทางการค้าไม่มีการนำไปใช้ทอผ้าและแม้อาจนำไปทอเป็นผ้าในห้องทดลองผ้าที่ทอนั้นก็ขาดคุณสมบัติจำหน่ายในท้องตลาดไม่ได้สินค้าเส้นใยประดิษฐ์พี.โอ.วายของโจทก์จึงไม่ใช่ด้ายทุกชนิดสำหรับใช้ทอผ้าไม่ว่าผลิตจากฝ้ายหรือเส้นใยอื่นใดตามความหมายที่ระบุในบัญชี2หมวด2(9)โจทก์ได้รับยกเว้นภาษีการค้าสำหรับการขายสินค้าดังกล่าวตามมาตรา5(8)แห่งพระราชกฤษฎีกาฯดังกล่าว. เมื่อโจทก์ไม่มีหน้าที่เสียภาษีการค้าและภาษีสุขาภิบาลตามกฎหมายแต่จำเลยได้รับชำระค่าภาษีจากโจทก์ไว้โดยจำเลยไม่มีสิทธิจะเรียกเก็บจำเลยจึงมีหน้าที่คืนเงินภาษีนั้นแก่โจทก์จำเลยมีหนังสือลงวันที่17พฤศจิกายน2523ยืนยันว่าโจทก์ต้องเสียภาษีการค้าและปฏิเสธไม่คืนเงินภาษีที่เรียกเก็บให้แก่โจทก์จำเลยจึงตกเป็นฝ่ายผิดนัดต้องเสียดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา224นับแต่วันดังกล่าว.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข่มขืนกระทำชำเรา: การกระทำความผิดสำเร็จหรือไม่เมื่อไม่มีการสอดใส่
จำเลยถูกฟ้องข้อหาข่มขืนกระทำชำเราแต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏแสดงว่าจำเลยน่าจะเพียงใช้อวัยวะเพศถูไถบริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วสำเร็จความใคร่เสียก่อนโดยที่อวัยวะเพศยังไม่ได้เข้าไปภายในช่องคลอดของผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดสำเร็จเป็นเพียงความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1021/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเรา: การล่วงล้ำทางเพศที่ไม่สำเร็จ
จำเลยถูกฟ้องข้อหาข่มขืนกระทำชำเราแต่ข้อเท็จจริงที่ปรากฏแสดงว่าจำเลยน่าจะเพียงใช้อวัยวะเพศถูไถบริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายแล้วสำเร็จความใคร่เสียก่อนโดยที่อวัยวะเพศยังไม่ได้เข้าไปภายในช่องคลอดของผู้เสียหายการกระทำของจำเลยจึงยังไม่เป็นความผิดสำเร็จเป็นเพียงความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราเท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การให้โดยเสน่หาที่ดินมือเปล่า & สิทธิเรียกคืนเมื่อผู้รับประพฤติเนรคุณ & การหมิ่นประมาท
ที่ดินที่โจทก์ยกให้จำเลยโดยเสน่หาเป็นที่ดินมื่อเปล่าซึ่งโจทก์มีเพียงสิทธิครอบครองเมื่อโจทก์ยกให้จำเลยจึงเป็นการสละเจตนาครอบครองการครอบครองของโจทก์ผู้ให้สิ้นสุดลงจำเลยผู้รับให้ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองแต่โจทก์มีสิทธิเรียกที่ดินคืนได้เมื่อจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้. ข้อที่ว่าจำเลยไม่ช่วยเหลือเลี้ยงดูโจทก์นั้นเมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์อยู่ในฐานะยากไร้เพียงแต่ยากจนลงเพราะชราทำมาหากินไม่ค่อยไหวเท่านั้นแม้จำเลยไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์ก็ยังถือไม่ได้ว่าประพฤติเนรคุณต่อโจทก์. จำเลยด่าโจทก์ว่า'อ้ายชาติหมาหัวหงอกเหมือนขนหมาแล้วหน้าด้านเหมือนถนนลาดยาง'ด่านางอุ่นภรรยาโจทก์ว่า'อีสัตว์อีเหี้ยอีแก่มึงไม่ต้องมาพูดกับกู'และยังกล่าวหาโจทก์ว่าจะเอาหลานสาวทำเป็นเมียคำด่าดังกล่าวเป็นคำหยาบแสดงถึงความดูหมิ่นเหยียดหยามถือว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ผู้ให้อย่างร้ายแรงโจทก์เรียกถอนคืนการให้ได้. จำเลยกับบุตรสาวของโจทก์แต่งงานกันมาเป็นเวลานานแล้วโจทก์เพิ่งยกที่ดินให้จำเลยและภรรยาในภายหลังในขณะที่จำเลยและภรรยามีอาชีพและครอบครัวเป็นหลักฐานไม่อยู่ในสภาพที่โจทก์ผู้เป็นบิดามีหน้าที่ตามธรรมจรรยาที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูและที่ดินก็มีราคาสูงจึงมิใช่เป็นการให้เนื่องในการสมรสโดยหน้าที่ธรรมจรรยา จำเลยอ้างว่าได้จ่ายเงิน500บาทเป็นค่าที่ดินให้โจทก์แต่จำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ในคำให้การจึงไม่เป็นเรื่องที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1014/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยกที่ดินให้บุตรเขยโดยเสน่หา ประพฤติเนรคุณเรียกคืนได้ หากมีการหมิ่นประมาท
ที่ดินที่โจทก์ยกให้จำเลยโดยเสน่หาเป็นที่ดินมือเปล่าซึ่งโจทก์มีเพียงสิทธิครอบครองเมื่อโจทก์ยกให้จำเลยจึงเป็นการสละเจตนาครอบครองการครอบครองของโจทก์ผู้ให้สิ้นสุดลงจำเลยผู้รับให้ย่อมได้ไปซึ่งสิทธิครอบครองแต่โจทก์มีสิทธิเรียกที่ดินคืนได้เมื่อจำเลยประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ตามที่กฎหมายกำหนดไว้ ข้อที่ว่าจำเลยไม่ช่วยเหลือเลี้ยงดูโจทก์นั้นเมื่อไม่ได้ความว่าโจทก์อยู่ในฐานะยากไร้เพียงแต่ยากจนลงเพราะชราทำมาหากินไม่ค่อยไหวเท่านั้นแม้จำเลยไม่ได้ส่งเสียเลี้ยงดูโจทก์ก็ยังถือไม่ได้ว่าประพฤติเนรคุณต่อโจทก์ จำเลยด่าโจทก์ว่า"อ้ายชาติหมาหัวหงอกเหมือนขนหมาแล้วหน้าด้านเหมือนถนนลาดยาง"ด่านางอุ่นภรรยาโจทก์ว่า"อีสัตว์อีเหี้ยอีแก่มึงไม่ต้องมาพูดกับกู"และยังกล่าวหาโจทก์ว่าจะเอาหลานสาวทำเป็นเมียคำด่าดังกล่าวเป็นคำหยาบแสดงถึงความดูหมิ่นเหยียดหยามถือว่าจำเลยหมิ่นประมาทโจทก์ผู้ให้อย่างร้ายแรงโจทก์เรียกถอนคืนการให้ได้. จำเลยกับบุตรสาวของโจทก์แต่งงานกันมาเป็นเวลานานแล้วโจทก์เพิ่งยกที่ดินให้จำเลยและภรรยาในภายหลังในขณะที่จำเลยและภรรยามีอาชีพและครอบครัวเป็นหลักฐานไม่อยู่ในสภาพที่โจทก์ผู้เป็นบิดามีหน้าที่ตามธรรมจรรยาที่จะต้องอุปการะเลี้ยงดูและที่ดินก็มีราคาสูงจึงมิใช่เป็นการให้เนื่องในการสมรสโดยหน้าที่ธรรมจรรยา จำเลยอ้างว่าได้จ่ายเงิน500บาทเป็นค่าที่ดินให้โจทก์แต่จำเลยมิได้ยกขึ้นเป็นประเด็นต่อสู้ไว้ในคำให้การจึงไม่เป็นเรื่องที่ได้ยกขึ้นว่ากล่าวกันมาแล้วในศาลชั้นต้นศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 850/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การป้องกันตัวในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจ การใช้กำลังพอสมควรแก่เหตุ
จำเลยที่2เป็นเจ้าพนักงานตำรวจเห็นจำเลยที่1กับพวกขับรถจักรยานยนต์วนเวียนไปมาและไปจอดรถที่ปากซอยที่เกิดเหตุมีพฤติการณ์เป็นที่น่าสงสัยจำเลยที่2จึงเข้าสอบถามและขอตรวจค้นแต่จำเลยที่1กับพวกติดเครื่องจะขับรถออกไปและใช้ปืนยิงมายังจำเลยที่2การที่จำเลยที่2ใช้ปืนยิงโต้ตอบถูกจำเลยที่1กับพวกได้รับบาดเจ็บถือว่าเป็นการป้องกันตัวในการปฏิบัติหน้าที่และได้กระทำไปพอสมควรแก่เหตุแล้ว.