พบผลลัพธ์ทั้งหมด 64 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2370/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
พินัยกรรมปลอมและการตกได้ซึ่งทรัพย์สินของพระภิกษุหลังมรณภาพ ทรัพย์สินตกเป็นของวัด
โจทก์อ้างว่าพระภิกษุทำพินัยกรรมยกทรัพย์มรดกให้โจทก์ผู้ร้องสอดต่อสู้ว่าพินัยกรรมนั้นปลอมเช่นนี้เป็นหน้าที่ของโจทก์ผู้กล่าวอ้างจะต้องนำสืบให้ได้ความว่าพินัยกรรมนั้นไม่ปลอม พระภิกษุช. ได้ทรัพย์พิพาทมาระหว่างอยู่ในสมณเพศแล้วถึงแก่มรณภาพโดยไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใดทรัพย์พิพาทจึงตกได้แก่วัดที่เป็นภูมิลำเนาของพระภิกษุช. ตามป.พ.พ.มาตรา1623.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2370/2529 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินพระภิกษุ: การพิสูจน์พินัยกรรมและการตกได้แก่ วัดเมื่อไม่มีพินัยกรรมยกทรัพย์
เงินประมาณ 7 แสนบาท และที่ดิน 5 โฉนด เป็นทรัพย์สินของพระภิกษุ ช. เจ้ามรดกได้มาในระหว่างที่อยู่ในสมณเพศ โจทก์อ้างว่าพระภิกษุ ช.ได้ทำพินัยกรามยกทรัพย์มรดกให้แก่โจทก์ วัดผู้ร้องสอดต่อสู้ว่าพินัยกรรมนั้นปลอมขึ้นภายหลังพระภิกษุ ช.มรณภาพแล้ว เป็นหน้าที่ของโจทก์ผู้กล่าวอ้างจะต้องนำสืบว่าพินัยกรรมที่อ้างนั้นไม่ปลอม
ทรัพย์พิพาทพระภิกษุ ช. ได้มาในระหว่างอยู่ในสมณเพศแล้วถึงแก่กรรมและไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด จึงตกได้แก่วัดผู้ร้องสอด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1623
ทรัพย์พิพาทพระภิกษุ ช. ได้มาในระหว่างอยู่ในสมณเพศแล้วถึงแก่กรรมและไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใด จึงตกได้แก่วัดผู้ร้องสอด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1623
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2370/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ทรัพย์สินพระภิกษุตกได้แก่วัดเมื่อไม่มีพินัยกรรม โดยโจทก์มีหน้าที่พิสูจน์ว่าพินัยกรรมที่อ้างไม่ปลอม
เงินประมาณ7แสนบาทและที่ดิน5โฉนดเป็นทรัพย์สินของพระภิกษุช.เจ้ามรดกได้มาในระหว่างที่อยู่ในสมณเพศโจทก์อ้างว่าพระภิกษุช.ได้ทำพินัยกรามยกทรัพย์มรดกให้แก่โจทก์วัดผู้ร้องสอดต่อสู้ว่าพินัยกรรมนั้นปลอมขึ้นภายหลังพระภิกษุช.มรณภาพแล้วเป็นหน้าที่ของโจทก์ผู้กล่าวอ้างจะต้องนำสืบว่าพินัยกรรมที่อ้างนั้นไม่ปลอม ทรัพย์พิพาทพระภิกษุช.ได้มาในระหว่างอยู่ในสมณเพศแล้วถึงแก่กรรมและไม่ได้ทำพินัยกรรมยกให้ผู้ใดจึงตกได้แก่วัดผู้ร้องสอดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา1623.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2346/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจศาลในการรับฟังรายงานคุมประพฤติ และการพิจารณาโทษจากประวัติผู้ต้องหา
พระราชบัญญัติวิธีดำเนินการคุมความประพฤติตามประมวลกฎหมายอาญาพ.ศ.2522มาตรา13บัญญัติเพียงให้ศาลมีอำนาจที่จะรับฟังรายงานและความเห็นของพนักงานคุมประพฤติเท่านั้นมิใช่เป็นบทบัญญัติเด็ดขาดที่จำต้องให้ศาลรับฟังเสมอไป. จำเลยเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่3แล้วออกมาช่วยมารดาและพี่น้องค้าขายและขับรถรับส่งคนโดยสาร.จนตอนเกิดเหตุมาทำงานเป็นพนักงานจำหน่ายตั๋วรถยนต์โดยสารประจำทางปรับอากาศถือได้ว่าจำเลยประกอบอาชีพโดยสุจริตตลอดมาไม่เคยกระทำผิดใดๆมาก่อนกระสุนปืนที่จำเลยมีไว้ที่ใช้กับอาวุธปืนก็เพียงนัดเดียวไม่มีพฤติการณ์ส่อให้เห็นว่าจำเลยจะใช้ก่อเหตุร้ายควรรอการลงโทษจำเลยและคุมความประพฤติไว้เหมาะสมกับความร้ายแรงแห่งการกระทำผิดและเพียงพอให้จำเลยได้สำนึกปฏิบัติตนไม่ประพฤติผิดกฎหมายต่อไปแล้ว.(ที่มา-เนติฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2324/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับคดีอาญาเนื่องจากการเสียชีวิตของจำเลย
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้อง โจทก์ฎีกา ในระหว่างที่ศาลชั้นต้นส่งสำเนาฎีกาให้จำเลย ปรากฏว่าจำเลยถึงแก่ความตาย ดังนี้ สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (1) ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดี
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2324/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การระงับคดีอาญาเนื่องจากจำเลยเสียชีวิตระหว่างการพิจารณา
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ฎีกาในระหว่างที่ศาลชั้นต้นส่งสำเนาฎีกาให้จำเลยปรากฏว่าจำเลยถึงแก่ความตายดังนี้สิทธินำคดีอาญามาฟ้องย่อมระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา39(1)ศาลฎีกามีคำสั่งให้จำหน่ายคดี.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2319/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ยักยอกเช็ค vs. ยักยอกเงิน: การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของเงินที่ได้จากการขายเช็ค และอายุความการฟ้องร้อง
จำเลยนำสินค้าของโจทก์ไปส่งแก่ลูกค้าของโจทก์ได้รับเช็คชำระค่าสินค้าจำเลยควรส่งมอบเช็คแก่โจทก์แต่ไม่ส่งมอบกลับนำเช็คไปขายแล้วเอาเงินไปใช้เป็นประโยชน์ส่วนตัวเสีย.เงินที่จำเลยขายเช็คได้ไม่ใช่เงินของโจทก์เพราะโจทก์มิได้มอบหมายให้จำเลยเอาเช็คไปขายและมิใช่เงินที่จำเลยได้รับมอบจากธนาคารตามเช็คซึ่งอาจถือได้ว่ารับไว้แทนโจทก์แต่เป็นเงินของจำเลยเองจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานยักยอกเงินที่จำเลยนำเช็คไปขายได้มาคงมีความผิดฐานยักยอกเช็คแต่โจทก์มิได้ฟ้องภายใน3เดือนนับแต่จำเลยยักยอกเช็คคดีขาดอายุความ.(ที่มา-เนติฯ)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2316/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ฎีกาต้องห้ามในปัญหาข้อเท็จจริง: การปลอมเอกสารราชการและการกระทำความผิดหลายกระทง
ในการที่จะพิจารณาว่าคดีใดต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้นต้องพิจารณาจากกระทงความผิดเป็นกระทง ๆ ไป คดีนี้ ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดรวม 3 กระทง ให้ลงโทษจำคุกกระทงละ 2 ปี รวมเป็นจำคุก 6 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218
ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้ทำปลอมขึ้นซึ่งเอกสาร และการกระทำของจำเลยไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายหรือไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่จำเลยทำคำสั่งจังหวัดตราดเรื่องแต่งตั้งข้าราชการลงในกระดาษไขโดยไม่มีอำนาจ แล้วตัดเอากระดาษไขที่มีลายมือชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัดตราดซึ่งได้ลงนามไว้ในคำสั่งฉบับอื่น มาติดไว้ท้ายคำสั่งที่จำเลยทำขึ้น และจำเลยโรเนียวคำสั่งนี้ออกมา เพื่อแสดงให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าคำสั่งที่จำเลยทำขึ้นนี้เป็นคำสั่งที่แท้จริง ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ
ที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยมิได้ทำปลอมขึ้นซึ่งเอกสาร และการกระทำของจำเลยไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายหรือไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
การที่จำเลยทำคำสั่งจังหวัดตราดเรื่องแต่งตั้งข้าราชการลงในกระดาษไขโดยไม่มีอำนาจ แล้วตัดเอากระดาษไขที่มีลายมือชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัดตราดซึ่งได้ลงนามไว้ในคำสั่งฉบับอื่น มาติดไว้ท้ายคำสั่งที่จำเลยทำขึ้น และจำเลยโรเนียวคำสั่งนี้ออกมา เพื่อแสดงให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าคำสั่งที่จำเลยทำขึ้นนี้เป็นคำสั่งที่แท้จริง ถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2316/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำเอกสารปลอมโดยเจตนาหลอกลวง และการพิจารณาข้อเท็จจริงเพื่อประกอบการตัดสินคดีอาญา
ในการที่จะพิจารณาว่าคดีใดต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงหรือไม่นั้นต้องพิจารณาจากกระทงความผิดเป็นกระทงๆไปคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดรวม3กระทงให้ลงโทษจำคุกกระทงละ2ปีรวมเป็นจำคุก6ปีศาลอุทธรณ์พิพากษายืน.จำเลยจึงต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา218. ที่จำเลยฎีกาว่าจำเลยมิได้ทำปลอมขึ้นซึ่งเอกสารและการกระทำของจำเลยไม่ทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายหรือไม่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชนเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง. การที่จำเลยทำคำสั่งจังหวัดตราดเรื่องแต่งตั้งข้าราชการลงในกระดาษไขโดยไม่มีอำนาจแล้วตัดเอากระดาษไขที่มีลายมือชื่อของผู้ว่าราชการจังหวัดตราดซึ่งได้ลงนามไว้ในคำสั่งฉบับอื่นมาติดไว้ท้ายคำสั่งที่จำเลยทำขึ้นและจำเลยโรเนียวคำสั่งนี้ออกมาเพื่อแสดงให้บุคคลอื่นหลงเชื่อว่าคำสั่งที่จำเลยทำขึ้นนี้เป็นคำสั่งที่แท้จริงถือได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นการทำเอกสารปลอมขึ้นทั้งฉบับ.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2230/2529
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ลักทรัพย์ในเคหสถาน: พยานแวดล้อมเพียงพอพิสูจน์ความผิด แม้ไม่มีประจักษ์พยาน
จำเลยเข้าไปอยู่ในบ้านของผู้เสียหายในยามวิกาลโดยผู้เสียหายมิได้อนุญาตน. น้องสะใภ้ของผู้เสียหายซึ่งผู้เสียหายใช้ให้ไปเฝ้าบ้านแทนได้พบจำเลยอยู่ในบ้านของผู้เสียหายเมื่อผู้เสียหายกลับมาบ้านได้สำรวจทรัพย์สินปรากฏว่าข้าวของบนบ้านถูกรื้อกระจุยกระจายกระปุกออมสินหายไป1อันแตก1อันในกระปุกออมสินเก็บเงินไว้ประมาณ1,500บาทผู้เสียหายจึงไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนจำเลยหลบหนีไปต่อมาประมาณ2เดือนจำเลยกลับมาและขอชดใช้เงิน1,500บาทแต่ผู้เสียหายไม่ยอมรับดังนี้แม้โจทก์จะไม่มีประจักษ์พยานว่าจำเลยเป็นผู้ลักทรัพย์แต่เมื่อมีพยานแวดล้อมกรณีของโจทก์ที่นำสืบเชื่อได้ว่าจำเลยกระทำความผิดฐานลักทรัพย์ศาลก็ลงโทษจำเลยได้.