คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไกร บุญญะกิติ

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 64 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนโดยมิได้รับอนุญาต ลดโทษจากคุณความดีและประโยชน์ต่อสังคม
แม้อาวุธปืนที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในความครอบครองจะเป็นอาวุธปืนยาวเอ็ม16จำนวนถึง2กระบอกแต่ปรากฏว่าจำเลยที่ที่1ปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านจนได้รับปูนบำเหน็จจากทางราชการได้รับเงินเดือนขึ้น2ขั้นมา3ครั้งได้รับรางวัลที่2ในฐานะผู้ใหญ่บ้านดีเด่นส่วนจำเลยที่2เป็นทหารพรานของหน่วยพตท.33รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลยรับรองว่าจำเลยทั้งสองมีความประพฤติเรียบร้อยดีให้ความร่วมมือช่วยเหลือทางราชการมาโดยตลอดทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับโทษจำคุกมาก่อนถือได้ว่ามีเหตุอันควรให้ความปรานีโดยการรอการลงโทษ(จำคุก)จำเลยทั้งสองไว้.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2078/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย: เหตุบรรเทาโทษจากคุณความดีและความร่วมมือกับราชการ
แม้อาวุธปืนที่จำเลยทั้งสองร่วมกันมีไว้ในความครอบครองจะเป็นอาวุธปืนยาวเอ็ม 16จำนวนถึง2กระบอกแต่ปรากฏว่าจำเลยที่1ปฏิบัติหน้าที่ผู้ใหญ่บ้านจนได้รับปูนบำเหน็จจากทางราชการได้รับเงินเดือนขึ้น2ขั้นมา3ครั้งได้รับรางวัลที่2ในฐานะผู้ใหญ่บ้านดีเด่น ส่วนจำเลยที่2เป็นทหารพรานของหน่วยพตท.33รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดเลย รับรองว่าจำเลยทั้งสองมีความประพฤติเรียบร้อยดีให้ความร่วมมือช่วยเหลือทางราชการมาโดยตลอดทั้งไม่ปรากฏว่าจำเลยทั้งสองได้รับโทษจำคุกมาก่อนถือได้ว่ามีเหตุอันควรให้ความปรานี โดยการรอการลงโทษ(จำคุก)จำเลยทั้งสองไว้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์เพื่อติดตามภริยา ไม่ถือเป็นการบุกรุก หากมีเหตุอันสมควรและไม่รบกวนการครอบครอง
การที่จำเลยเข้าไปในตึกที่เกิดเหตุเพื่อไปติดตามภริยาที่เช่าห้องหนึ่งในตึกนั้นย่อมมีเหตุอันสมควรและหาเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสูขของผู้เสียหายไม่จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2075/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกเคหสถาน: เหตุอันสมควรในการติดตามภริยา ไม่เป็นการรบกวนการครอบครอง
การที่จำเลยเข้าไปในตึกที่เกิดเหตุเพื่อไปติดตามภริยาที่เช่าห้องหนึ่งในตึกนั้น ย่อมมีเหตุอันสมควรและหาเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์โดยปกติสูขของผู้เสียหายไม่ จำเลยไม่มีความผิดฐานบุกรุก

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คไม่มีมูลหนี้เมื่อสัญญาเช่าซื้อถูกยกเลิก แต่ความผิดสำเร็จแล้วก่อนยกเลิกสัญญา
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ค่าเช่าซื้อในขณะที่ออกเช็คและในขณะที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยยังคงมีหน้าที่จะต้องชำระค่าเช่าซื้อให้แก่โจทก์ตามสัญญาจึงเป็นเช็คที่ออกโดยมีมูลหนี้ที่มีผลผูกพันกันตามกฎหมายแม้ต่อมาโจทก์จะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้ออันจะมีผลทำให้จำเลยไม่ต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างให้แก่โจทก์อีกต่อไปก็หาทำให้ความผิดอาญาที่เกิดขึ้นสำเร็จแล้วระงับไปไม่.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2066/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เช็คชำระหนี้ค่าเช่าซื้อ แม้สัญญาถูกบอกเลิก ความผิดตาม พ.ร.บ. เช็คยังคงสำเร็จ
จำเลยออกเช็คชำระหนี้ค่าเช่าซื้อในขณะที่ออกเช็คและในขณะที่ธนาคารตามเช็คปฏิเสธการจ่ายเงินจำเลยยังคงมีหน้าที่จะต้องชำระค่าเช่าซื้อให้แก่โจทก์ตามสัญญาจึงเป็นเช็คที่ออกโดยมีมูลหนี้ที่มีผลผูกพันกันตามกฎหมายแม้ต่อมาโจทก์จะบอกเลิกสัญญาเช่าซื้ออันจะมีผลทำให้จำเลยไม่ต้องชำระค่าเช่าซื้อที่ค้างให้แก่โจทก์อีกต่อไปก็หาทำให้ความผิดอาญาที่เกิดขึ้นสำเร็จแล้วระงับไปไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำอนาจารและความยินยอม: พฤติการณ์บ่งชี้ความสัมพันธ์ฉันหนุ่มสาวและการไม่ขัดขืน
ประจักษ์พยานโจทก์มีผู้เสียหายเพียงผู้เดียวคำเบิกความของผู้เสียหายจึงต้องพิเคราะห์ด้วยความระมัดระวัง ผู้เสียหายกับจำเลยรักใคร่กันฉันหนุ่มสาวก่อนเกิดเหตุได้พากันซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเที่ยวสองต่อสองเกือบทั้งวันระหว่างทางกลับบ้านผู้เสียหายไม่สบายมากจำเลยได้พาผู้เสียหายไปให้แพทย์ตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้วกอดจูบทำอนาจารผู้เสียหายในห้องพักคนไข้ แม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าขณะจำเลยกอดจูบนางพยาบาลได้ออกจากห้องไปแล้วแต่ภายหลังจากนั้นนางพยาบาลก็เข้ามาในห้องอีกผู้เสียหายมิได้เล่าเรื่องกอดจูบให้นางพยาบาลทราบพฤติการณ์น่าเชื่อว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยกระทำจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานกระทำอนาจาร.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2049/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกระทำอนาจารและการพิจารณาพยานผู้เสียหายเมื่อมีพฤติการณ์รักใคร่กันก่อนเกิดเหตุ
ประจักษ์พยานโจทก์มีผู้เสียหายเพียงผู้เดียวคำเบิกความของผู้เสียหายจึงต้องพิเคราะห์ด้วยความระมัดระวัง ผู้เสียหายกับจำเลยรักใคร่กันฉันหนุ่มสาวก่อนเกิดเหตุได้พากันซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ไปเที่ยวสองต่อสองเกือบทั้งวันระหว่างทางกลับบ้านผู้เสียหายไม่สบายมากจำเลยได้พาผู้เสียหายไปให้แพทย์ตรวจรักษาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งแล้วกอดจูบทำอนาจารผู้เสียหายในห้องพักคนไข้แม้ผู้เสียหายจะเบิกความว่าขณะจำเลยกอดจูบนางพยาบาลได้ออกจากห้องไปแล้วแต่ภายหลังจากนั้นนางพยาบาลก็เข้ามาในห้องอีกผู้เสียหายมิได้เล่าเรื่องกอดจูบให้นางพยาบาลทราบพฤติการณ์น่าเชื่อว่าผู้เสียหายยินยอมให้จำเลยกระทำจำเลยจึงไม่มีความผิดฐานกระทำอนาจาร.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956/2529

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยักยอกเงินค่าเหรียญ: จำเลยครอบครองเงินของผู้เสียหายแล้วเบียดบังยักยอกไปเป็นประโยชน์ตนเอง
โจทก์บรรยายฟ้องว่าจำเลยรับมอบเหรียญหลวงปู่แหวนจำนวน20องค์ราคาองค์ละ10บาทรวมราคา200บาทจากผู้เสียหายเพื่อเอาไปจำหน่ายให้กับประชาชนโดยทั่วไปแล้วจะต้องนำเงินที่จำหน่ายเหรียญดังกล่าวมอบให้ผู้เสียหายในวันเดียวกันต่อมาวันเดียวกันนี้จำเลยซึ่งได้ครอบครองเงินค่าจำหน่ายเหรียญดังกล่าวจำนวน200บาทได้เบียดบังยักยอกเอาเงินดังกล่าวของผู้เสียหายไปเป็นประโยชน์ของจำเลยโดยทุจริตดังนี้เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่าจำเลยครอบครองเงินค่าจำหน่ายเหรียญของผู้เสียหายมีหน้าที่ต้องนำเงินดังกล่าวมาคืนให้ผู้เสียหายแต่แล้วได้เบียดบังยักยอกไปอันครบองค์ความผิดฐานยักยอกแล้วและจำเลยรับสารภาพข้อเท็จจริงจึงต้องฟังเป็นที่ยุติตามคำฟ้องและคำให้การว่าเงินค่าจำหน่ายเหรียญเป็นของผู้เสียหายเมื่อจำเลยเบียดบังไปโดยทุจริตจำเลยจึงมีความผิดฐานยักยอก.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1956/2529 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ยักยอกทรัพย์: การครอบครองเงินแทนผู้อื่นแล้วเบียดบังยักยอกเข้าตัวเองถือเป็นความผิดอาญา
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยรับมอบเหรียญหลวงปู่แหวนจำนวน 20 องค์ ราคาองค์ละ 10 บาท รวมราคา 200 บาทจากผู้เสียหาย เพื่อเอาไปจำหน่ายให้กับประชาชนโดยทั่วไป แล้วจะต้องนำเงินที่จำหน่ายเหรียญดังกล่าวมอบให้ผู้เสียหายในวันเดียวกัน ต่อมาวันเดียวกันนี้จำเลยซึ่งได้ครอบครองเงินค่าจำหน่ายเหรียญดังกล่าวจำนวน 200 บาท ได้เบียดบังยักยอกเอาเงินดังกล่าวของผู้เสียหายไปเป็นประโยชน์ของจำเลยโดยทุจริต ดังนี้เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงว่า จำเลยครอบครองเงินค่าจำหน่ายเหรียญของผู้เสียหาย มีหน้าที่ต้องนำเงินดังกล่าวมาคืนให้ผู้เสียหาย แต่แล้วได้เบียดบังยักยอกไป อันครบองค์ความผิดฐานยักยอกแล้ว และจำเลยรับสารภาพ ข้อเท็จจริงจึงต้องฟังเป็นที่ยุติตามคำฟ้องและคำให้การว่า เงินค่าจำหน่ายเหรียญเป็นของผู้เสียหาย เมื่อจำเลยเบียดบังไปโดยทุจริต จำเลยจึงมีความผิดฐานยักยอก
of 7