พบผลลัพธ์ทั้งหมด 5 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3240/2522
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การสนับสนุนการกระทำผิดยาเสพติด: ผู้จัดหาค่าใช้จ่ายและกระเป๋าเสื้อผ้า แต่ไม่ได้ร่วมพยายามนำออกนอกประเทศ
จำเลยที่ 3 เป็นผู้ชักชวนจำเลยที่ 1 ที่ 2 ให้ไปต่างประเทศ โดยจัดหาค่าใช้จ่าย ค่าพาหนะตลอดจนกระเป๋าเสื้อผ้าให้ ทั้งยังเป็นผู้บรรจุเสื้อผ้าให้แก่จำเลยที่ 1 ที่ 2 เองที่บ้านพักของจำเลยที่ 3 โดยจำเลยที่ 3 รู้ดีว่าภายในกระเป๋ามีเฮโรอีนบรรจุอยู่ กระเป๋าและเฮโรอีนของกลางนั้นบุคคลอื่นเป็นผู้จัดหามาให้อีกทอดหนึ่ง ขณะที่จำเลยที่ 1 ที่ 2 นำกระเป๋าเสื้อผ้าบรรจุเฮโรอีนของกลางที่จำเลยที่ 3 จัดให้ไปยังท่าอากาศยานกรุงเทพ เพื่อจะโดยสารเครื่องบินไปต่างประเทศได้ถูกจับกุมพร้อมของกลาง โดยจำเลยที่ 3 มิได้ไปด้วยดังนี้ ถือไม่ได้ว่าจำเลยที่ 3 ร่วมกับจำเลยที่ 1 ที่ 2 พยายามนำเฮโรอีนของกลางออกไปนอกประเทศเพื่อจำหน่าย ถือได้เพียงว่าจำเลยที่ 3 เป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ที่ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2664/2520
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การลงโทษจำเลยในความผิดฐานมีและจำหน่ายยาเสพติด โดยพิจารณาจากคำฟ้องเดิมและข้อเท็จจริงที่ได้ความ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจมีไว้ซึ่งยาเสพติดให้โทษชนิดเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์เพื่อจำหน่าย น้ำหนัก 0.11 กรัมราคา 3 บาท 30 สตางค์ และจำเลยได้บังอาจจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษดังกล่าวให้กับผู้มีชื่อ ดังนี้ ตามคำบรรยายฟ้องมีความหมายชัดแจ้ง แสดงว่าจำเลยมีเฮโรอีน 0.11 กรัมแล้วจำหน่ายไปทั้งหมด ไม่มีเหลืออยู่ที่จำเลยอีก แม้จะได้ความตามทางพิจารณาว่า หลังจากจำเลยจำหน่ายเฮโรอีนไป 1 หลอดแล้ว ยังมีเฮโรอีนเหลืออยู่ที่จำเลยอีก 2 หลอด ก็เป็นกรณีที่โจทก์มิได้กล่าวในฟ้องจะนำข้อเท็จจริงที่ได้ความนอกเหนือจากคำฟ้องมาวินิจฉัยให้เป็นโทษแก่จำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายมิได้ คงลงโทษจำเลยได้เฉพาะข้อหาฐานจำหน่ายเฮโรอีนเท่านั้น
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 364/2519
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดหลายกรรมต่างกันจากการมียาเสพติดและจำหน่ายยาเสพติด ต้องลงโทษทุกกรรม
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้บังอาจกระทำความผิดจ่อกฎหมายหลายกรรมต่างกันคือจำเลยบังอาจร่วมกันมีเฮโรอีนนไฮโดรคอลไรด์และจำเลยบังอาจร่วมกันขายเฮโรอีนไฮโดรคอลไรด์ จำเลยให้การรับสารภาพว่าได้กระทำความผิดจริงตามฟ้องทุกประการโจทก์นำพยานเข้าสืบประกอบคำรับสารภาพของจำเลยว่า นอกจากเอโรอีนของกลางบรรจุซองพลาสติกซึ่งพลตำรวจ จ. ปลอมตัวไปซื้อแล้ว ต่อมาเจ้าพนักงานตำรวจยังค้นได้ธนบัตร ฉบับละ 10 บาท 2 ฉบับใช้ห่อเอโรอีนไว้ 2 ห่อจากจำเลยอีก ดังนี้การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ต้องลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ซึ่งแก้ไขโดยประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 พ.ศ. 2514 ข้อ 2
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 996/2518
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเรียงกระทงความผิดในคดียาเสพติด: การจำหน่ายและครอบครองเพื่อจำหน่ายเป็นกระทงความผิดต่างกัน แม้กฎหมายบัญญัติไว้ในมาตราเดียวกัน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยบังอาจกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรมต่างกัน โดยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเฮโรอีนอันเป็นยาเสพติดให้โทษไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย และได้บังอาจจำหน่ายยาเสพติดให้โทษดังกล่าวแล้วอีกจำนวนหนึ่งให้แก่ผู้มีชื่อด้วย จำเลยให้การรับสารภาพ โจทก์สืบพยานประกอบคำรับสารภาพได้ความว่าจำเลยมีเฮโรอีนไว้เพื่อจำหน่ายจำนวนหนึ่งและจำหน่ายเฮโรอีนอีกจำนวนหนึ่ง ดังนี้การกระทำของจำเลยแยกได้เป็น 2 กระทง แต่ละกระทงเป็นความผิดตามกฎหมายถึงแม้ว่ากฎหมายจะบัญญัติความผิดดังกล่าวไว้ในมาตราเดียวกัน แต่การกระทำความผิดอาจแยกเป็นกระทงๆได้ ซึ่งแล้วแต่ข้อเท็จจริงแห่งคดีและการบรรยายฟ้องของโจทก์ประกอบกัน
จำเลยกระทำความผิดหลังจากที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 มีผลใช้บังคับแล้วตามประกาศดังกล่าวข้อ 2 ได้แก้ไขยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 โดยให้ลงโทษผู้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรม ดังนั้น ศาลมีอำนาจเรียงกระทงลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนได้
จำเลยกระทำความผิดหลังจากที่ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 11 มีผลใช้บังคับแล้วตามประกาศดังกล่าวข้อ 2 ได้แก้ไขยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 โดยให้ลงโทษผู้กระทำการอันเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปแม้โจทก์จะมิได้อ้างประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 มาในคำขอท้ายฟ้อง แต่โจทก์ก็ได้บรรยายฟ้องว่าจำเลยทั้งสองกระทำความผิดต่อกฎหมายหลายกรรม ดังนั้น ศาลมีอำนาจเรียงกระทงลงโทษจำเลยฐานมีเฮโรอีนไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายเฮโรอีนได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 766/2517
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
จำหน่ายยาเสพติดเพื่อจำหน่าย ศาลพิพากษาลงโทษตาม พ.ร.บ.ยาเสพติด และวินิจฉัยอำนาจศาล
จำเลยมีเฮโรอีนไฮโดรคลอไรด์และมอร์ฟีนไว้เพื่อจำหน่าย ย่อมมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2465 มาตรา 20ทวิ วรรคสอง และวรรคสาม พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ(ฉบับที่ 4) พ.ศ. 2504 มาตรา 6 ความผิดตามวรรคสามเป็นกระทงหนักที่สุด
จำเลยกระทำความผิดต่อ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษเมื่อวันที่24 กันยายน 2514 ศาลจังหวัดเชียงใหม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาเพราะได้มีประกาศพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2514 เวลา 6.00 นาฬิกาแล้ว
จำเลยกระทำความผิดต่อ พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษเมื่อวันที่24 กันยายน 2514 ศาลจังหวัดเชียงใหม่มีอำนาจพิจารณาพิพากษาเพราะได้มีประกาศพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในจังหวัดเชียงใหม่ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2514 เวลา 6.00 นาฬิกาแล้ว