คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ถวิล ทองสว่างรัตน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 489 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3028/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบุกรุกที่ดินและการครอบครองปรปักษ์ จำเลยไม่ได้ครอบครองที่ดินโจทก์โดยสงบและเปิดเผย
จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าคำฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะบรรยายฟ้องสับสน ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าโจทก์ได้ที่ดินมาอย่างไร และครอบครองที่ดินของโจทก์อย่างไรเขตที่อ้างว่าจำเลยบุกรุกอยู่ตรงไหน แต่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 มิได้ให้การต่อสู้ไว้ว่าคำฟ้องเคลือบคลุม แม้จำเลยที่ 2 จะให้การว่าคำฟ้องเคลือบคลุมแต่ก็อ้างเหตุแห่งการเคลือบคลุมว่าฟ้องโจทก์มีได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับความเสียหายและค่าขาดประโยชน์ซึ่งเป็นคนละเหตุกับเหตุที่จำเลยที่ 1 อ้างในฎีกา ถือไม่ได้ว่าฎีกาของจำเลยที่ 1 ข้อนี้เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
จำเลยไม่เคยเข้าไปกระทำการใด ๆ ในที่ดินของโจทก์เพียงแต่ในการขอรังวัดสอบเขตที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดกันจำเลยนำชี้เขตที่ดินของตนว่าอยู่เลยแนวรั้วเข้าไปในที่ดินของโจทก์ซึ่งโจทก์ก็คัดค้าน เมื่อโจทก์ขอรังวัดสอบเขตที่ดินบ้าง จำเลยที่ 1 ก็ไประวังแนวเขตและชี้ว่าที่ดินของตนอยู่เลยแนวรั้วเข้าไปในที่ดินของโจทก์ เป็นเหตุให้รังวัดสอบเขตไม่สำเร็จ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเขตที่ดินในโฉนด ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินส่วนที่เลยแนวรั้วในที่ดินของโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3028/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์ต้องมีการครอบครองจริงและเปิดเผย มิใช่แค่การชี้แนวเขตที่ไม่สำเร็จ
จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าคำฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะบรรยายฟ้องสับสน ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าโจทก์ได้ที่ดินมาอย่างไร และครอบครองที่ดินของโจทก์อย่างไรเขตที่อ้างว่าจำเลยบุกรุกอยู่ตรงไหน แต่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 มิได้ให้การต่อสู้ไว้ว่าคำฟ้องเคลือบคลุม แม้จำเลยที่ 2 จะให้การว่าคำฟ้องเคลือบคลุมแต่ก็อ้างเหตุแห่งการเคลือบคลุมว่าฟ้องโจทก์มีได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับความเสียหายและค่าขาดประโยชน์ซึ่งเป็นคนละเหตุกับเหตุที่จำเลยที่ 1 อ้างในฎีกา ถือไม่ได้ว่าฎีกาของจำเลยที่ 1 ข้อนี้เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น
จำเลยไม่เคยเข้าไปกระทำการใด ๆ ในที่ดินของโจทก์เพียงแต่ในการขอรังวัดสอบเขตที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดกันจำเลยนำชี้เขตที่ดินของตนว่าอยู่เลยแนวรั้วเข้าไปในที่ดินของโจทก์ซึ่งโจทก์ก็คัดค้าน เมื่อโจทก์ขอรังวัดสอบเขตที่ดินบ้าง จำเลยที่ 1 ก็ไประวังแนวเขตและชี้ว่าที่ดินของตนอยู่เลยแนวรั้วเข้าไปในที่ดินของโจทก์ เป็นเหตุให้รังวัดสอบเขตไม่สำเร็จ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเขตที่ดินในโฉนด ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินส่วนที่เลยแนวรั้วในที่ดินของโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3028/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองปรปักษ์, เขตที่ดิน, การรังวัด, การรุกล้ำที่ดิน, สิทธิในที่ดิน
จำเลยที่ 1 ฎีกาว่าคำฟ้องโจทก์เคลือบคลุมเพราะบรรยายฟ้องสับสน ไม่เป็นที่แน่ชัดว่าโจทก์ได้ที่ดินมาอย่างไร และครอบครองที่ดินของโจทก์อย่างไร เขตที่อ้างว่าจำเลยบุกรุกอยู่ตรงไหนแต่ปรากฏว่าจำเลยที่ 1 มิได้ให้การต่อสู้ไว้ว่าคำฟ้องเคลือบคลุมแม้จำเลยที่ 2 จะให้การว่าคำฟ้องเคลือบคลุมแต่ก็อ้างเหตุแห่งการเคลือบคลุมว่าฟ้องโจทก์มิได้มีรายละเอียดเกี่ยวกับความเสียหายและค่าขาดประโยชน์ซึ่งเป็นคนละเหตุกับเหตุที่จำเลยที่ 1 อ้างในฎีกา ถือไม่ได้ว่าฎีกาของจำเลยที่ 1 ข้อนี้เป็นข้อที่ได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้น จำเลยไม่เคยเข้าไปกระทำการใด ๆ ในที่ดินของโจทก์เพียงแต่ในการขอรังวัดสอบเขตที่ดินของจำเลยซึ่งอยู่ติดกัน จำเลยนำชี้เขตที่ดินของตนว่าอยู่เลยแนวรั้วเข้าไปในที่ดินของโจทก์ซึ่งโจทก์ก็คัดค้าน เมื่อโจทก์ขอรังวัดสอบเขตที่ดินบ้าง จำเลยที่ 1 ก็ไประวังแนวเขตและชี้ว่าที่ดินของตนอยู่เลยแนวรั้วเข้าไปในที่ดินของโจทก์เป็นเหตุให้รังวัดสอบเขตไม่สำเร็จไม่มีการเปลี่ยนแปลงเขตที่ดินในโฉนด ถือไม่ได้ว่าจำเลยได้ครอบครองที่ดินส่วนที่เลยแนวรั้วในที่ดินของโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2998/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ถูกกล่าวหาโดยตรง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวนว่า ม. กับพวกร่วมกันบุกรุกที่ดินของจำเลย ความจริงเป็นที่ดินของโจทก์ทำให้โจทก์ต้องฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีแพ่ง จึงเห็นได้ว่าผู้เสียหายในคดีที่จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จคือ ม. หาใช่โจทก์ไม่ และความเสียหายที่โจทก์กล่าวอ้างว่า โจทก์อาจแพ้คดีแพ่งตามผลคดีอาญาที่จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จก็ได้นั้น ก็ไม่ใช่ความเสียหายที่ทำให้โจทก์กลายเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2998/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องคดีแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ถูกแจ้งความโดยตรง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวนว่า ม.กับพวกร่วมกันบุกรุกที่ดินของจำเลยความจริงเป็นที่ดินของโจทก์ทำให้โจทก์ต้องฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีแพ่ง จึงเห็นได้ว่าผู้เสียหายในคดีที่จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จคือ ม. หาใช่โจทก์ไม่ และความเสียหายที่โจทก์กล่าวอ้างว่าโจทก์อาจแพ้คดีแพ่งตามผลคดีอาญาที่จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จก็ได้นั้น ก็ไม่ใช่ความเสียหายที่ทำให้โจทก์กลายเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2998/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องในคดีแจ้งความเท็จ: ผู้เสียหายต้องเป็นผู้ถูกกล่าวหาโดยตรง
โจทก์บรรยายฟ้องว่า จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่พนักงานสอบสวนว่า ม. กับพวกร่วมกันบุกรุกที่ดินของจำเลย ความจริงเป็นที่ดินของโจทก์ทำให้โจทก์ต้องฟ้องขับไล่จำเลยเป็นคดีแพ่ง จึงเห็นได้ว่าผู้เสียหายในคดีที่จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จคือ ม. หาใช่โจทก์ไม่ และความเสียหายที่โจทก์กล่าวอ้างว่า โจทก์อาจแพ้คดีแพ่งตามผลคดีอาญาที่จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จก็ได้นั้น ก็ไม่ใช่ความเสียหายที่ทำให้โจทก์กลายเป็นผู้เสียหายตามกฎหมาย โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2908/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดสัญญาประกันตัว: สิทธิการร้องขอลดค่าปรับและสิทธิอุทธรณ์
ศาลสั่งปรับผู้ประกันเพราะผิดสัญญาประกันไม่นำตัวจำเลยมามอบต่อศาลตามนัด ผู้รับมอบอำนาจให้นำหนังสือรับรองการทำประโยชน์มายื่นต่อศาลและทำสัญญาประกันตัวจำเลยแทนผู้ประกัน ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ลดค่าปรับตามสัญญาประกัน ทั้งไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นและฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับเรื่องค่าปรับตามสัญญาประกัน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2908/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับมอบอำนาจประกันตัวจำเลยไม่มีสิทธิอุทธรณ์เรื่องค่าปรับ หากผู้ประกันผิดสัญญา
ศาลสั่งปรับผู้ประกันเพราะผิดสัญญาประกันไม่นำตัวจำเลยมามอบต่อศาลตามนัด ผู้รับมอบอำนาจให้นำหนังสือรับรองการทำประโยชน์มายื่นต่อศาลและทำสัญญาประกันตัวจำเลยแทนผู้ประกัน ไม่มีสิทธิยื่นคำร้องขอให้ลดค่าปรับตามสัญญาประกัน ทั้งไม่มีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นและฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เกี่ยวกับเรื่องค่าปรับตามสัญญาประกัน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2888-2889/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความล่าช้าในการยื่นคำให้การเนื่องจากความประมาทเลินเล่อของผู้ถูกฟ้อง ไม่ถือเป็นเหตุสมควร ศาลไม่จำเป็นต้องไต่สวน
จำเลยมอบหมายเรียกสำเนาคำฟ้องและใบแต่งทนายความให้ ต. คนขับรถบรรทุกข้าวสารของจำเลยนำไปให้ทนายความที่กรุงเทพฯ ก่อนครบกำหนดยื่นคำให้การ 2 วัน ปกติรถบรรทุกข้าวสารของจำเลยจะต้องถึงกรุงเทพฯ ในวันรุ่งขึ้นแต่รถเสียกลางทางต้องซ่อมหลายวันจนพ้นกำหนดยื่นคำให้การ ทนายความจึงยื่นคำให้การ เมื่อพ้นกำหนดเวลา นับว่าเป็นความบกพร่องและความผิดของจำเลยเองพฤติการณ์ดังกล่าวของจำเลยเป็นไปโดยจงใจและไม่มีเหตุอันสมควรที่จะอนุญาตให้จำเลยยื่นคำให้การและการยื่นคำร้องขอยื่นคำให้การโดยอ้างเหตุดังนี้ ศาลชั้นต้นสั่งยกคำร้องขอยื่นคำให้การโดยไม่จำเป็นต้องไต่สวนคำร้องเสียก่อนได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2886/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีขับไล่และการบอกเลิกสัญญาเช่า ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224
โจทก์ฟ้องขอให้ขับไล่จำเลยออกจากอสังหาริมทรัพย์ซึ่งขณะยื่นฟ้องอาจให้เช่าได้ไม่เกินเดือนละสองพันบาท จำเลยมิได้กล่าวแก้ข้อพิพาทด้วยกรรมสิทธิ์ทั้งไม่มีประเด็นเรื่องแปลความหมายแห่งข้อความในสัญญาเช่า ศาลชั้นต้นพิพากษาขับไล่จำเลย การที่จำเลยอุทธรณ์อ้างว่าคำสั่งศาลชั้นต้นที่ไม่อนุญาตให้จำเลยเลื่อนคดีโดยถือว่าจำเลยไม่มีพยานมาสืบและให้สืบพยานโจทก์ไปฝ่ายเดียวเป็นการไม่ชอบ ทั้งมีสัญญาต่างตอบแทนระหว่างผู้ให้เช่ากับจำเลย โจทก์บอกเลิกการเช่าโดยมิชอบและค่าเสียหายของโจทก์ไม่ถึงจำนวนตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้นนั้นเป็นอุทธรณ์ในปัญหาข้อเท็จจริง ต้องห้ามอุทธรณ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 224.
of 49