คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ส่อง สุขะปุณณพันธ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 451 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สิทธิในการขอคืนของกลางขึ้นอยู่กับความเป็นเจ้าของ หากไม่ใช่เจ้าของ ไม่มีสิทธิ
ผู้ร้องร้องขอคืนของกลาง ศาลชั้นต้นฟังว่าของกลางเป็นของผู้ร้องแต่ผู้ร้องมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดของจำเลยจึงสั่งยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์และแม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ในข้อที่ว่าผู้ร้องมิใช่เจ้าของของกลาง ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาให้ยกคำร้องของผู้ร้องด้วยเหตุที่ของกลางมิใช่ของผู้ร้องได้ เมื่อผู้ร้องฎีกาต่อมา และศาลฎีกาเห็นว่าผู้ร้องมิใช่เจ้าของของกลางย่อมพิพากษายืนให้ยกคำร้องของผู้ร้องได้เช่นกัน เพราะผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอคืน.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2429/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์รถยนต์พิพาท: ผู้ร้องไม่สามารถพิสูจน์ความเป็นเจ้าของได้ จึงไม่มีสิทธิขอคืนของกลาง
ผู้ร้องร้องขอคืนของกลาง ศาลชั้นต้นฟังว่าของกลางเป็นของผู้ร้องแต่ผู้ร้องมีส่วนรู้เห็นในการกระทำความผิดของจำเลย จึงสั่งยกคำร้อง ผู้ร้องอุทธรณ์และแม้โจทก์จะมิได้อุทธรณ์ในข้อที่ว่าผู้ร้องมิใช่เจ้าของของกลาง ศาลอุทธรณ์ย่อมพิพากษาให้ยกคำร้อง ของผู้ร้อง ด้วยเหตุที่ของกลางมิใช่ของผู้ร้องได้ เมื่อผู้ร้องฎีกาต่อมา และศาลฎีกาเห็นว่า ผู้ร้องมิใช่เจ้าของของกลาง ย่อมพิพากษายืนให้ยกคำร้อง ของ ผู้ร้องได้เช่นกัน เพราะผู้ร้องไม่มีสิทธิร้องขอคืน

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2344/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยอุทธรณ์เกินกำหนดเวลาตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ไม่ทำให้คำวินิจฉัยเป็นโมฆะ แต่เปิดสิทธิให้เสนอคดีต่อศาลได้ทันที
แม้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา 52 วรรคสอง บัญญัติให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ก็ตาม แต่บทบัญญัติดังกล่าวมิได้บัญญัติว่าหากวินิจฉัยอุทธรณ์เกินกำหนดจะมีผลเป็นอย่างไร ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ในกำหนด จึงไม่ทำให้อำนาจของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่จะรับวินิจฉัยอุทธรณ์หมดไป เพียงแต่ผู้อุทธรณ์มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ทันทีหลังจากพ้นกำหนดเวลาสามสิบวันโดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยอุทธรณ์ตามขั้นตอนเท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2344/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาวินิจฉัยอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ไม่ส่งผลถึงความสมบูรณ์ของคำวินิจฉัย แต่เปิดสิทธิเสนอคดีต่อศาล
แม้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มาตรา 52 วรรคสองบัญญัติให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ก็ตาม แต่บทบัญญัติดังกล่าวมิได้บัญญัติว่าหากวินิจฉัยอุทธรณ์เกินกำหนดจะมีผลเป็นอย่างไร ดังนั้นเมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ในกำหนดจึงไม่ทำให้อำนาจของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่จะรับวินิจฉัยอุทธรณ์หมดไป เพียงแต่ผู้อุทธรณ์มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ทันทีหลังจากพ้นกำหนดเวลาสามสิบวันโดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยอุทธรณ์ตามขั้นตอนเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2344/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กำหนดเวลาวินิจฉัยอุทธรณ์ตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร ไม่ส่งผลถึงอำนาจวินิจฉัย หากเลยกำหนด ผู้อุทธรณ์เสนอคดีต่อศาลได้ทันที
แม้พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ.2522 มาตรา 52 วรรคสอง บัญญัติให้คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์วินิจฉัยอุทธรณ์ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่ได้รับอุทธรณ์ก็ตาม แต่บทบัญญัติดังกล่าวมิได้บัญญัติว่าหากวินิจฉัยอุทธรณ์เกินกำหนดจะมีผลเป็นอย่างไร ดังนั้น เมื่อคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ไม่วินิจฉัยอุทธรณ์ในกำหนด จึงไม่ทำให้อำนาจของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ที่จะรับวินิจฉัยอุทธรณ์หมดไป เพียงแต่ผู้อุทธรณ์มีสิทธิฟ้องคดีต่อศาลได้ทันทีหลังจากพ้นกำหนดเวลาสามสิบวันโดยไม่ต้องรอคำวินิจฉัยอุทธรณ์ตามขั้นตอนเท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2274/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินที่มีหลักฐานเป็นหนังสือ แม้จำนองถูกเพิกถอน เจ้าหนี้ยังขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายได้
หนังสือสัญญาจำนองมีข้อความระบุว่าให้ถือสัญญาจำนองเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินจำนวน 300,000 บาท แม้ต่อมาสัญญาจำนองจะถูกเพิกถอนก็ไม่กระทบกระเทือนถึงข้อความที่ระบุไว้เกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน ถือได้ว่าการกู้ยืมมีหลักฐานเป็นหนังสือ เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 92.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2274/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้จากการกู้ยืม แม้ลูกหนี้มีหนี้สินล้นพ้นตัว และสัญญาจำนองถูกเพิกถอน
หนังสือสัญญาจำนองมีข้อความระบุว่าให้ถือสัญญาจำนองเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินจำนวน 300,000 บาท แม้ต่อมาสัญญาจำนองจะถูกเพิกถอนก็ไม่กระทบกระเทือนถึงข้อความที่ระบุไว้เกี่ยวกับการกู้ยืมเงินถือได้ว่าการกู้ยืมมีหลักฐานเป็นหนังสือ เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483มาตรา 92

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2274/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การกู้ยืมเงินมีหลักฐานเป็นหนังสือแม้จำนองถูกเพิกถอน เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลาย
หนังสือสัญญาจำนองมีข้อความระบุว่าให้ถือสัญญาจำนองเป็นหลักฐานแห่งการกู้ยืมเงินจำนวน 300,000 บาท แม้ต่อมาสัญญาจำนองจะถูกเพิกถอนก็ไม่กระทบกระเทือนถึงข้อความที่ระบุไว้เกี่ยวกับการกู้ยืมเงิน ถือได้ว่าการกู้ยืมมีหลักฐานเป็นหนังสือ เจ้าหนี้มีสิทธิขอรับชำระหนี้ได้ตามพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ. 2483 มาตรา 92

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2258/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษหนักขึ้นในคดีปล้นทรัพย์เฉพาะผู้มีหรือใช้อาวุธปืน แม้ร่วมกระทำผิดด้วยกัน
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี มุ่งหมายที่จะลงโทษให้หนักขึ้นเฉพาะผู้ที่มีหรือใช้อาวุธปืนเท่านั้น มิใช่ว่าผู้ที่ร่วมกระทำการปล้นทรัพย์รายเดียวกันจะต้องระวางโทษหนักทุกคน คนร้ายคนหนึ่งซึ่งเป็นพวกของจำเลยมีและใช้อาวุธปืนในการปล้นทรัพย์ จำเลยทั้งสองไม่ได้มีหรือใช้อาวุธปืนด้วย กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 340 ตรี เมื่อการปล้นทรัพย์ไม่สำเร็จ จำเลยทั้งสองคงมีความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ตามมาตรา 340 วรรคสี่ ประกอบด้วยมาตรา 80

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2258/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษหนักขึ้นเฉพาะผู้มีหรือใช้อาวุธปืนในการปล้นทรัพย์ ผู้ร่วมกระทำความผิดไม่จำเป็นต้องได้รับโทษหนักไปด้วย
ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 ตรี มุ่งหมายที่จะลงโทษให้หนักขึ้นเฉพาะผู้ที่มีหรือใช้อาวุธปืนเท่านั้น มิใช่ว่าผู้ที่ร่วมกระทำการปล้นทรัพย์รายเดียวกันจะต้องระวางโทษหนักทุกคน คนร้ายคนหนึ่งซึ่งเป็นพวกของจำเลยมีและใช้อาวุธปืนในการปล้นทรัพย์ จำเลยทั้งสองไม่ได้มีหรือใช้อาวุธปืนด้วย กรณีไม่ต้องด้วยมาตรา 340 ตรี เมื่อการปล้นทรัพย์ไม่สำเร็จ จำเลยทั้งสองคงมีความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ตามมาตรา 340 วรรคสี่ ประกอบด้วยมาตรา80.
of 46