คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
คำนึง อุไรรัตน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 368 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1637/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความรับผิดจากเพลิงไหม้โรงงาน: การพิสูจน์ความประมาทเลินเละและทรัพย์อันตราย
ประเด็นว่า เตา อบ และน้ำยาฆ่าแมลงที่จำเลยครอบครองเป็นทรัพย์อันเป็นของเกิดอันตรายได้โดยสภาพหรือโดยความมุ่งหมายที่จะใช้ตามป.พ.พ. มาตรา 437 วรรคสอง หรือไม่นั้น เมื่อโจทก์มิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างหรือตั้งประเด็นเกี่ยวกับความรับผิดตามมาตราดังกล่าวไว้จึงเป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วในศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยให้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1624/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเงินที่ได้จากการกระทำผิด: เงินค่าจ้างขนเฮโรอีนเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด จึงต้องริบ
เงินของกลางที่จำเลยกับพวกได้มาจากการรับจ้างขนเฮโรอีนเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำความผิด จึงควรริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33 (2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1624/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การริบเงินที่ได้จากการกระทำผิด: เงินได้จากการขนเฮโรอีนเป็นทรัพย์ที่ได้จากการกระทำความผิด จึงต้องริบ
เงินของกลางที่จำเลยกับพวกได้มาจากการรับจ้างขนเฮโรอีนเป็นทรัพย์ที่จำเลยได้มาโดยได้กระทำความผิด จึงควรริบตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33(2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1581/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ หลักฐานการซื้อขายยาเสพติดต้องชัดเจนและต่อเนื่อง การได้ยินได้เห็นโดยตรงสำคัญกว่าการอ้างอิงจากผู้อื่น
โจทก์ไม่มีพยานผู้ใดรู้เห็นเลยว่า จำเลยได้ทำการจำหน่ายยาเสพติดให้โทษให้กับสายลับผู้ไปล่อซื้อ คงมีแต่คำกล่าวอ้างของพยานโจทก์ทั้งสามปากผู้ทำการจับกุมจำเลย ลำพังแต่ธนบัตรซึ่งพยานโจทก์อ้างว่าทำเครื่องหมายกำกับไว้และค้นได้จากตัวจำเลย ก็ยังไม่เพียงพอที่จะฟังเป็นหลักฐานให้เชื่อได้โดยปราศจากสงสัยว่า เป็นเงินที่จำเลยได้มาจากการจำหน่ายเฮโรอีน.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดและการคุ้มครองประโยชน์ระหว่างพิจารณาคดี: ศาลไม่อนุญาตให้ระงับการขายทอดตลาด แม้มีการอุทธรณ์คำสั่ง
เจ้าพนักงานบังคับคดีทำการขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลย จำเลยคัดค้านว่าราคาต่ำไป แต่ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ทำการขายได้ จำเลยอุทธรณ์คำสั่งและขอให้งดการขายทอดตลาด แม้ผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดจะได้โอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์ที่ซื้อไปให้แก่บุคคลภายนอกในระหว่างอุทธรณ์ หากต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าวและให้ศาลชั้นต้นทำการขายทอดตลาดใหม่ทั้งผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดและผู้รับโอนทรัพย์ดังกล่าวก็ไม่ได้ไปซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สิน และศาลชั้นต้นก็ยังคงดำเนินการขายทอดตลาดใหม่ตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ กรณีจึงไม่ได้ทำให้จำเลยได้รับความเสียหาย ที่จะเป็นเหตุให้งดการดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาด ตามที่จำเลยขอคุ้มครองประโยชน์ในระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1565/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การขายทอดตลาดทรัพย์สิน: ผลกระทบต่อกรรมสิทธิ์และการคุ้มครองผู้ขายเมื่อราคาต่ำกว่าที่ควร
จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำสั่งศาลชั้นต้นที่อนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยอ้างว่าราคาต่ำและยื่นคำร้องขอให้งดการดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาดศาลอุทธรณ์เห็นว่าไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งให้งดการดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาดให้ยกคำร้อง จำเลยฎีกาว่าศาลชั้นต้นอนุญาตให้ขายทอดตลาดทรัพย์ของจำเลยในราคาต่ำมาก ทำให้จำเลยเสียหายและเสียเปรียบซึ่งจำเลยได้อุทธรณ์คำสั่ง หากศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ทำการขายทอดตลาดใหม่ แต่ผู้ซื้อได้โอนทรัพย์ไปให้บุคคลอื่นเสียก่อนจะทำให้ไม่สามารถขายทอดตลาดได้ ดังนี้ แม้ศาลอุทธรณ์จะพิพากษาให้เพิกถอนการขายทอดตลาดดังกล่าวและให้ศาลชั้นต้นขายทอดตลาดใหม่ กรณีก็ไม่ทำให้จำเลยได้รับความเสียหายเพราะผู้ซื้อทรัพย์จากการขายทอดตลาดและผู้รับโอนทรัพย์ต่อจากนั้นก็คงไม่ได้ไปซึ่งกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินดังกล่าว จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะสั่งให้งดการดำเนินการเกี่ยวกับการขายทอดตลาด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1561/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอายัดที่ดินตาม ป.ก.ท. มาตรา 83 ทำได้ก่อนฟ้องคดี เมื่อฟ้องแล้วสิทธิอายัดระงับ ต้องดำเนินการทางศาล
การขออายัดที่ดินตาม ประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 83 นั้น ให้สิทธิแก่ผู้มีส่วนได้เสียที่จะอายัดได้ก่อนที่จะมีการเสนอคดีขึ้นสู่ศาลเท่านั้น ดังนี้ เมื่อโจทก์ได้ฟ้องร้องผู้จัดการมรดกให้แบ่งทรัพย์ไว้แล้ว สิทธิของโจทก์มีอย่างไรต้องไปดำเนินการทางศาลจะกลับมาขออายัดที่ดินต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน มาตรา 83 อีกไม่ได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1506/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีอาญา: การเปลี่ยนแปลงคำให้การ และข้อต่อสู้เรื่องป้องกันตัวที่ไม่สมเหตุสมผล
จำเลยต้องหาว่าพยายามฆ่าผู้อื่น ชั้นพิจารณาจำเลยนำสืบว่าจำเลยถูกผู้เสียหายกับพวกทำร้ายก่อนจึงต้องแทงผู้เสียหายเพื่อป้องกันตัวเมื่อจำเลยมิได้ซักค้านความข้อนี้ไว้ให้ปรากฏในขณะสืบพยานโจทก์ แต่เพิ่งจะมานำสืบเป็นข้อเท็จจริงขึ้นใหม่ในชั้นสืบพยานจำเลย ข้อนำสืบจึงเป็นพิรุธ ข้อต่อสู้ที่จำเลยอ้างว่าต้องแทงผู้เสียหายเพื่อป้องกันตัวจึงฟังไม่ขึ้น.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายจากการก่อสร้าง แม้เจ้าของที่ดินจะจ้างเหมา
จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ติดกับอาคารของโจทก์ ได้จ้างเหมาให้บุคคลอื่นเป็นผู้ก่อสร้างอาคารในที่ดินของจำเลย โดยจำเลยมิได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการก่อสร้างแต่อย่างใด เมื่อปรากฏว่าอาคารโจทก์ได้รับความเสียหายเพราะผลจากการก่อสร้าง ผู้รับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโจทก์ในมูลละเมิดจึงมิใช่จำเลย ที่โจทก์มาฟ้องจำเลยจึงเป็นการสำคัญผิดในตัวบุคคลผู้ทำละเมิด การที่จำเลยปลูกอาคารผิดไปจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการและถูกเจ้าหน้าที่ลงโทษปรับไปแล้วนั้น เป็นเรื่องของความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ ซึ่งกฎหมายบัญญัติไว้แตกต่างไปจากความรับผิดในมูลละเมิดอันมีต่อบุคคลภายนอกที่เนื่องมาจากการก่อสร้างอาคารดังกล่าว เมื่อจำเลยมิได้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง แต่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ว่าจ้างผู้อื่นทำการก่อสร้าง โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใด ๆ จากจำเลย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1436/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายจากการก่อสร้าง เจ้าของที่ดินไม่ต้องรับผิดหากไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรง
จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินที่ติดกับอาคารของโจทก์ ได้จ้างเหมาให้บุคคลอื่นเป็นผู้ก่อสร้างอาคารในที่ดินของจำเลยโดยจำเลยมิได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการก่อสร้างแต่อย่างใดเมื่อปรากฏว่าอาคารโจทก์ได้รับความเสียหายเพราะผลจากการก่อสร้าง ผู้รับผิดในความเสียหายที่เกิดขึ้นกับโจทก์ในมูลละเมิดจึงมิใช่จำเลย ที่โจทก์มาฟ้องจำเลยจึงเป็นการสำคัญผิดในตัวบุคคลผู้ทำละเมิด การที่จำเลยปลูกอาคารผิดไปจากแบบแปลนที่ได้รับอนุญาตจากทางราชการและถูกเจ้าหน้าที่ลงโทษปรับไปแล้วนั้น เป็นเรื่องของความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคารฯ ซึ่งกฎหมายบัญญัติไว้แตกต่างไปจากความรับผิดในมูลละเมิดอันมีต่อบุคคลภายนอกที่เนื่องมาจากการก่อสร้างอาคารดังกล่าว เมื่อจำเลยมิได้เป็นผู้ดำเนินการก่อสร้าง แต่มีบุคคลภายนอกเป็นผู้ว่าจ้างผู้อื่นทำการก่อสร้าง โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าเสียหายใดๆจากจำเลย.(ที่มา-ส่งเสริมฯ)
of 37