พบผลลัพธ์ทั้งหมด 521 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6118/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คชำระดอกเบี้ยเกินอัตรา กฎหมายคุ้มครองลูกหนี้
จำเลยกู้เงินโจทก์และได้ออกเช็คพิพาทชำระค่าดอกเบี้ยที่โจทก์เรียกร้องเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ อันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2475 มาตรา 3โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องบังคับให้จำเลยชำระเงินตามเช็คไม่ได้การที่จำเลยออกเช็คพิพาทจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2497 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6118/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การออกเช็คชำระดอกเบี้ยเกินอัตราทางกฎหมาย ไม่เป็นความผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยกู้เงินโจทก์และได้ออกเช็คพิพาทชำระค่าดอกเบี้ยที่โจทก์เรียกร้องเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ อันเป็นความผิดต่อพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.2475 มาตรา 3 โจทก์จะใช้สิทธิเรียกร้องบังคับให้จำเลยชำระเงินตามเช็คไม่ได้ การที่จำเลยออกเช็คพิพาทจึงไม่เป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 6007/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลของการถอนอุทธรณ์และการสิ้นสุดของคดีเฉพาะตัวจำเลย รวมถึงขอบเขตอำนาจศาลในการวินิจฉัยคดี
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองข้อหาลักทรัพย์หรือรับของโจรศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ 2 ข้อหาลักทรัพย์และยกฟ้องจำเลยที่ 1 โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยที่ 1 ข้อหารับของโจรส่วนจำเลยที่ 2 อุทธรณ์ขอให้ยกฟ้อง ระหว่างพิจารณาคดีของศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 2 ขอถอนอุทธรณ์และศาลอุทธรณ์อนุญาตดังนี้คดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 2 ย่อมถึงที่สุด เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 1 และไม่ปรากฏว่าเหตุที่ยกฟ้องนั้นเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดีเกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ด้วย ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจหยิบยกเอาอุทธรณ์ของจำเลยที่ 2 ที่ถอนแล้วมาวินิจฉัยและพิพากษายกฟ้องจำเลยที่ 2 ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5850/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องคดีโดยการมอบอำนาจ: ผู้รับมอบอำนาจมีอำนาจเป็นโจทก์ได้หรือไม่ และขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 60 หรือไม่
หนังสือมอบอำนาจของโจทก์ระบุว่า บริษัทผู้เสียหายขอมอบอำนาจให้ อ. กระทำการแทนโจทก์ในกิจการต่าง ๆ ตามที่ระบุไว้ รวมทั้งให้มีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีได้ด้วย ดังนี้ อ. จึงมีอำนาจเป็นโจทก์ฟ้องคดีได้ หาเป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 60 ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5751/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับฟังพยานเอกสารขอผัดชำระหนี้ แม้ไม่ได้ส่งสำเนาก่อนสืบพยาน ศาลมีอำนาจรับฟังได้หากเป็นพยานหลักฐานสำคัญ
แม้โจทก์มิได้นำส่งสำเนาหนังสือขอผัดชำระหนี้เอกสารหมายจ.6 ถึง จ.9 ให้แก่จำเลยก่อนวันสืบพยานไม่น้อยกว่า 3 วัน เมื่อศาลชั้นต้นใช้ดุลพินิจรับฟังเอกสารเพื่อประโยชน์แห่งความยุติธรรมโดยเห็นว่าเป็นพยานหลักฐานอันสำคัญเกี่ยวกับประเด็นข้อสำคัญในคดี ศาลมีอำนาจรับเอกสารนั้นไว้พิจารณาได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 87(2) จึงเป็นการรับฟังพยานหลักฐานที่ชอบด้วยกฎหมาย
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5448/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อตกลงท้าพยานหลักฐานลายมือชื่อ การพิสูจน์ผลตามคำท้า และค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์
โจทก์อุทธรณ์ขอให้พิสูจน์ตามคำท้าใหม่หรือสืบพยานต่อไปมิได้เรียกร้องอะไรจากจำเลย ต้องเสียค่าขึ้นศาลในชั้นอุทธรณ์200 บาท ตามตาราง 1(2)(ก.) ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมิใช่เสียตามทุนทรัพย์ที่พิพาท
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5121/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สนับสนุนการฆ่า: ศาลฎีกาตัดสินลงโทษฐานสนับสนุน แม้ไม่มีแผนร่วม แต่ขัดขวางการช่วยเหลือ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ใช้และวางแผนให้จำเลยที่ 1 กับพวกกระทำความผิด ได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนได้
วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และที่ 2 กับพวกอีก 1 คน มานอนที่บ้านมารดาผู้ตาย ก่อนจำเลยที่ 1 บีบคอผู้ตาย จำเลยที่ 2 ได้เรียกมารดาผู้ตายออกมาจากห้องนอนพาลงจากบ้านและใช้ผ้าขาวม้ามัดมือไพล่หลังใช้มีดปลายแหลมขู่มิให้มารดาผู้ตายขัดขวางการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ดังนี้จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1
วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และที่ 2 กับพวกอีก 1 คน มานอนที่บ้านมารดาผู้ตาย ก่อนจำเลยที่ 1 บีบคอผู้ตาย จำเลยที่ 2 ได้เรียกมารดาผู้ตายออกมาจากห้องนอนพาลงจากบ้านและใช้ผ้าขาวม้ามัดมือไพล่หลังใช้มีดปลายแหลมขู่มิให้มารดาผู้ตายขัดขวางการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ดังนี้จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5121/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้สนับสนุนการฆ่าผู้อื่น แม้ไม่ได้วางแผน แต่ขัดขวางการช่วยเหลือ ทำให้ความผิดสำเร็จ
โจทก์ฟ้องว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ใช้และวางแผนให้จำเลยที่ 1กับพวกกระทำความผิด ได้ความว่าจำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิด ลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนได้ วันเกิดเหตุจำเลยที่ 1 และที่ 2 กับพวกอีก 1 คน มานอนที่บ้านมารดาผู้ตาย ก่อนจำเลยที่ 1 บีบคอผู้ตาย จำเลยที่ 2 ได้เรียกมารดาผู้ตายออกมาจากห้องนอนพาลงจากบ้านและใช้ผ้าขาวม้ามัดมือไพล่หลังใช้มีดปลายแหลมขู่มิให้มารดาผู้ตายขัดขวางการกระทำผิดของจำเลยที่ 1 ดังนี้ จำเลยที่ 2 เป็นเพียงผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของจำเลยที่ 1
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5065/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องขอจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมต้องมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่าที่ดินเป็นของโจทก์
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้บุคคลภายนอกโอนที่ดิน น.ส.3 ซึ่งมีชื่อ ว.เป็นเจ้าของให้แก่โจทก์ ศาลได้พิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลวินิจฉัยว่า แม้จะฟังว่าที่ดินเป็นของโจทก์ก็ไม่อาจบังคับตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ เช่นนี้ ศาลยังมิได้พิพากษาว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานจัดการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามคำพิพากษาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5065/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฟ้องบังคับจดทะเบียนโอนที่ดิน: ศาลฎีกาวินิจฉัยว่าคำพิพากษาเดิมไม่ได้ตัดสินเรื่องกรรมสิทธิ์ที่ดินโดยตรง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
เดิมโจทก์ฟ้องขอให้บุคคลภายนอกโอนที่ดิน น.ส.3 ซึ่งมีชื่อ ว. เป็นเจ้าของให้แก่โจทก์ ศาลได้พิพากษายกฟ้องโจทก์ คดีถึงที่สุดแล้วโดยศาลวินิจฉัยว่าแม้จะฟังว่าที่ดินเป็นของโจทก์ก็ไม่อาจบังคับตามคำขอท้ายฟ้องของโจทก์ได้ เช่นนี้ศาลยังมิได้พิพากษาว่าที่ดินตามฟ้องเป็นของโจทก์ โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้องขอให้จำเลยซึ่งเป็นเจ้าพนักงานจัดการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามคำพิพากษาได้