คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สุนทร จันทรศักดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 482 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานไม่มีอำนาจหน้าที่กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148, 157, 162
จำเลยได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติงานด้านธุรการไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎร์และงานบัตรประจำตัวประชาชนเมื่อโจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยกระทำมิชอบเกี่ยวกับงานด้านทะเบียนราษฎร์และงานบัตรประจำตัวประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148,157 และ 162 จำเลยจึงไม่อาจกระทำความผิดตามบทกฎหมายมาตราดังกล่าวได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1074/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่นอกเหนือจากที่ได้รับมอบหมาย ไม่เข้าข่ายความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่
จำเลยได้รับคำสั่งแต่งตั้งให้มีอำนาจหน้าที่ปฏิบัติงานด้านธุรการ ไม่มีอำนาจหน้าที่เกี่ยวกับงานทะเบียนราษฎร์และงานบัตรประจำตัวประชาชน เมื่อโจทก์ฟ้องและนำสืบว่าจำเลยกระทำมิชอบเกี่ยวกับงานด้านทะเบียนราษฎร์และงานบัตรประจำตัวประชาชนตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 148,157 และ 162จำเลยจึงไม่อาจกระทำความผิดตามบทกฎหมายมาตราดังกล่าวได้.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยประเด็นนอกเ้ขตอำนาจศาล และผลของคำพิพากษาในคดีก่อนต่อคดีหลัง
คดีที่กระทรวงการคลังและการสื่อสารแห่งประเทศไทยฟ้องโจทก์กับพวก ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า โจทก์มิได้กระทำละเมิดต่อกระทรวงการคลังและการสื่อสารแห่งประเทศไทย โดยร่วมกับ ส. จงใจเบียดบังเงินค่าภาษีอากรเงินรายได้อื่นและเงินทุนไปรษณีย์ตามฟ้องแต่คดีนี้มีประเด็นที่พิพาทกันว่า โจทก์ละเว้นปฏิบัติการตามหน้าที่โดยไม่ตรวจตราควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฏิบัติงานเป็นเหตุให้ ส. เบียดบังเอาเงินดังกล่าวไปหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นนี้ให้ในคดีก่อน จึงหามีข้อเท็จจริงในคดีก่อนมาผูกพันคดีนี้ที่โจทก์จะไม่ต้องรับผิดใช้เงินคืนดังที่โจทก์อ้างไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การไม่รับผิดชอบเงินเบียดบังจากผู้ใต้บังคับบัญชา: ศาลฎีกาวินิจฉัยประเด็นละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
คดีที่กระทรวงการคลังและการสื่อสารแห่งประเทศไทยฟ้องโจทก์กับพวก ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า โจทก์มิได้กระทำละเมิดต่อกระทรวงการคลังและการสื่อสารแห่งประเทศไทย โดยร่วมกับ ส. จงใจเบียดบังเงินค่าภาษีอากรเงินรายได้อื่นและเงินทุนไปรษณีย์ตามฟ้องแต่คดีนี้มีประเด็นที่พิพาทกันว่า โจทก์ละเว้นปฏิบัติการตามหน้าที่โดยไม่ตรวจตราควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฏิบัติงานเป็นเหตุให้ ส. เบียดบังเอาเงินดังกล่าวไปหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นนี้ให้ในคดีก่อน จึงหามีข้อเท็จจริงในคดีก่อนมาผูกพันคดีนี้ที่โจทก์จะไม่ต้องรับผิดใช้เงินคืนดังที่โจทก์อ้างไม่.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การวินิจฉัยประเด็นละเมิดหน้าที่ราชการและการผูกพันคำพิพากษาในคดีแพ่ง
คดีที่กระทรวงการคลังและการสื่อสารแห่งประเทศไทยฟ้องโจทก์กับพวก ศาลฎีกาได้วินิจฉัยว่า โจทก์มิได้กระทำละเมิดต่อกระทรวงการคลังและการสื่อสารแห่งประเทศไทย โดยร่วมกับ ส.จงใจเบียดบังเงินค่าภาษีอากรเงินรายได้อื่นและเงินทุนไปรษณีย์ตามฟ้อง แต่คดีนี้มีประเด็นที่พิพาทกันว่าโจทก์ละเว้นปฏิบัติการตามหน้าที่โดยไม่ตรวจตราควบคุมดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฏิบัติงานเป็นเหตุให้ ส. เบียดบังเอาเงินดังกล่าวไปหรือไม่ ซึ่งศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัยประเด็นนี้ให้ในคดีก่อน จึงหามีข้อเท็จจริงในคดีก่อนมาผูกพันคดีนี้ที่โจทก์จะไม่ต้องรับผิดใช้เงินคืนดังที่โจทก์อ้างไม่

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1030/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การต่อสู้คดีแพ่ง: การนำสืบข้อเท็จจริงตามประเด็นที่ศาลกำหนด และผลของการพิพากษาคดีก่อน
คดีมีประเด็นข้อพิพาทว่าจำเลยมีสิทธิเบิกเงินสะสมของโจทก์เพื่อชดใช้เงินของทางราชการที่ขาดหายไปหรือไม่ การที่จำเลยนำสืบว่าโจทก์ประมาทเลินเล่อในการปฏิบัติหน้าที่หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ตรวจสอบควบคุมการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ใต้บังคับบัญชา อันเป็นการทำละเมิดซึ่งโจทก์ต้องรับผิดชดใช้เงินดังกล่าว ทำให้จำเลยมีสิทธิเบิกเงินสะสมของโจทก์เพื่อชดใช้เงินของทางราชการที่ขาดหายไป เป็นการนำสืบตามข้อต่อสู้ของจำเลย ไม่เป็นการนอกประเด็น
คดีเดิมมีประเด็นว่า โจทก์ทำละเมิดโดยร่วมกับ ส. โดยจงใจเบียดบังค่าภาษีอากร เงินรายได้อื่น และเงินทุนไปรษณีย์ของทางราชการหรือไม่ ส่วนคดีหลังมีประเด็นว่าโจทก์ทำละเมิดโดยละเว้นปฏิบัติการตามหน้าที่ไม่ควบคุม ส. ซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาในการปฏิบัติงาน เป็นเหตุให้ ส. เบียดบังเอาเงินของทางราชการไปหรือไม่ แม้ศาลจะวินิจฉัยว่าโจทก์มิได้ทำละเมิดในคดีแรกและคดีถึงที่สุดแล้วก็เป็นคนละประเด็นกับคดีหลังซึ่งศาลยังมิได้วินิจฉัย ดังนั้น ข้อเท็จจริงที่โจทก์ไม่ต้องรับผิดในคดีก่อนจึงหาผูกพันคดีหลังไม่.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 981/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ตัวการ ตัวแทน ละเมิด: จำเลยต้องรับผิดในความเสียหายจากอุบัติเหตุที่ตัวแทนขับรถชน
จำเลยใช้ให้ ย.ขับรถยนต์ไปทำธุรกิจให้จำเลยโดยมีจำเลยนั่งไปด้วย ย่อมถือได้ว่าจำเลยเป็นตัวการ และ ย.เป็นตัวแทนของจำเลยในกิจการนี้โดยปริยาย เมื่อ ย.ขับรถยนต์โดยประมาทชนรถยนต์ที่โจทก์รับประกันภัยไว้เสียหาย ถือได้ว่า ย.กระทำละเมิดภายในขอบอำนาจแห่งฐานะตัวแทนจำเลยซึ่งเป็นตัวการจึงต้องรับผิดในผลแห่งการละเมิดที่ ย.ได้กระทำไปตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 427 ประกอบด้วย มาตรา 420

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความความผิดข่มขืนกระทำชำเราต่อเนื่อง – การร้องทุกข์ภายในกำหนด
จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายหลายคราวต่อเนื่องกันตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2530 จนถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2530 ผู้เสียหายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2530 เป็นการร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันรู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิดแล้ว คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อายุความข่มขืนกระทำชำเรา: การร้องทุกข์ภายใน 3 เดือนนับจากวันที่รู้เรื่องและรู้ตัวผู้กระทำความผิด
จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2530จนกระทั่งถึงวันที่ 18 ตุลาคม 2530 เป็นการกระทำผิดหลายคราวต่อเนื่องกันตลอดมา ผู้เสียหายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยเมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2530 เป็นการร้องทุกข์ภายในกำหนด 3 เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 945/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานข่มขืนกระทำชำเราต่อเนื่อง อายุความไม่ขาด
จำเลยข่มขืนกระทำชำเราผู้เสียหายตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๓๐จนกระทั่งถึงวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๓๐ เป็นการกระทำผิดหลายคราวต่อเนื่องกันตลอดมา ผู้เสียหายร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยเมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๓๐ เป็นการร้องทุกข์ภายในกำหนด ๓ เดือนนับแต่วันที่รู้เรื่องความผิดและรู้ตัวผู้กระทำความผิด คดีโจทก์ไม่ขาดอายุความ.
of 49