พบผลลัพธ์ทั้งหมด 482 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5173/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำแถลงคู่ความมีผลผูกพันเสมือนคำท้า หากผลคดีแพ่งถึงที่สุดแล้ว คดีอาญาต้องยกตามคำแถลง
คู่ความแถลงร่วมกันว่าคดีนี้เกี่ยวเนื่องกับคดีแพ่งอีกคดีหนึ่งโดย จ.เป็นโจทก์ฟ้องโจทก์คดีนี้และ พ.เป็นจำเลยและจำเลยร่วมคดีนี้เป็นโจทก์ร่วม อ้างว่าที่ดินพิพาทเป็นที่ดินของราชพัสดุ ข้อเท็จจริงอย่างเดียวกันหากผลของคดีดังกล่าวปรากฏว่า จ.เป็นฝ่ายชนะคดี โจทก์จะถอนฟ้องจำเลยคดีนี้ เป็นคำแถลงที่ไม่ฝ่าฝืนต่อกฎหมาย คู่ความจึงต้องผูกพันตามคำแถลงดังกล่าวถือได้ว่าเป็นคำท้าว่าหาก จ.ชนะคดีโจทก์ในคดีนั้นโจทก์ก็จะถอนฟ้องคดีนี้ เมื่อคดีดังกล่าวถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษาให้จ.ชนะคดี โจทก์ยังแถลงขอถอนข้อหาส่วนอาญา ให้ตัดสินตามคำท้าโดยมิได้ยกขึ้นกล่าวอ้างว่า คำพิพากษาของศาลฎีกาในคดีดังกล่าวมิได้ครอบคลุมถึงที่พิพาทในคดีนี้ทั้งหมด โจทก์จึงต้องแพ้คดีตามคำท้า ที่โจทก์ฎีกาว่าสัญญาเช่าที่ดินระหว่างจำเลยและจำเลยร่วมเป็นโมฆะ โจทก์ยังมีสิทธิครอบครองที่ดินพิพาทโดยชอบด้วยกฎหมายที่ดินตามคำพิพากษาศาลฎีกาในคดีดังกล่าวเป็นคูเมือง แต่ส่วนที่ เหลือกว้าง 12 วาเป็นที่ดินชานกำแพงเมืองอยู่ในความครอบครองของโจทก์ จำเลยรับว่าปลูกเรือนในที่พิพาทก่อนขอเช่าที่พิพาทจากจำเลยร่วมจึงเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์นั้น เป็นข้อเท็จจริงที่มิได้ยกขึ้นว่ากล่าวมาตั้งแต่ศาลชั้นต้น โจทก์จะยกขึ้นกล่าวอ้างในชั้นฎีกาไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4604/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การแก้ไขคำฟ้อง: การเปลี่ยนแปลงข้อหาใหม่ไม่ชอบตาม ป.วิ.พ. มาตรา 179
ตามคำฟ้องเดิมโจทก์ขอให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญาทรัสต์รีซีทแม้โจทก์จะบรรยายฟ้องว่าจำเลยขอให้โจทก์เปิดเลตเตอร์ออฟเครดิตเพื่อชำระราคาสินค้าที่จำเลยสั่งซื้อจากต่างประเทศ และต่อมาโจทก์ได้ชำระราคาสินค้าแทนจำเลยแล้วก็เป็นแต่เพียงการบรรยายถึงมูลเหตุแห่งการทำสัญญาทรัสต์รีซีทที่โจทก์ฟ้องเท่านั้น การที่โจทก์ขอแก้ไขคำฟ้องโดยไม่ขอบังคับตามสัญญาทรัสต์รีซีท แต่ขอให้จำเลยชำระหนี้ตามสัญญาเลตเตอร์ออฟเครดิต เป็นการตั้งข้อหาใหม่เปลี่ยนแปลงข้อหาในคำฟ้องเดิมมิใช่เป็นการสละข้อหาบางข้อจึงไม่ชอบที่จะกระทำได้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 179
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4593/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
สัญญาเช่าซื้อระงับเมื่อรถสูญหาย ผู้เช่าซื้อต้องชำระค่าเช่าซื้อค้างก่อนเกิดเหตุ และชำระค่าเสียหายที่สมควร
สัญญาเช่าซื้อเป็นสัญญาเช่าทรัพย์ประเภทหนึ่ง จึงต้องนำบทบัญญัติลักษณะเช่าทรัพย์มาใช้บังคับด้วย เมื่อรถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายสัญญาเช่าซื้อย่อมระงับไปตั้งแต่วันที่รถยนต์สูญหายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 567 ผู้ให้เช่าซื้อจะฟ้องเรียกค่าเช่าซื้อที่ยังค้างชำระอยู่ตั้งแต่วันที่รถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายไปหาได้ไม่ เมื่อสัญญาเช่าซื้อกำหนดให้ผู้เช่าซื้อชำระเงินค่าเช่าซื้อจนครบในกรณีที่รถยนต์ที่เช่าซื้อถูกโจรภัย แม้ผู้เช่าซื้อไม่ต้องชำระค่าเช่าซื้อนับแต่วันที่รถยนต์ที่เช่าซื้อสูญหายก็ถือได้ว่าผู้เช่าซื้อได้ตกลงชำระค่าเสียหายให้แก่ผู้ให้เช่าซื้อไว้ด้วย ซึ่งศาลมีอำนาจกำหนดให้ตามที่เห็นสมควร
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4487/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและใช้กำลังประทุษร้าย ผู้เสียหายจำได้และมีหลักฐานสนับสนุน
จำเลยที่ 1 กับจำเลยที่ 2 ใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะแล่นตามหลังรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายและจำเลยที่ 2 ขับรถจักรยานยนต์เข้าชนรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายอย่างแรงจนเสียหลักล้มลงแล้วจำเลยที่ 1 ซึ่งนั่งซ้อนท้ายได้กระชากสร้อยคอทองคำที่คอผู้เสียหายไป การกระทำของจำเลยทั้งสองถือได้ว่าเป็นการใช้กำลังประทุษร้ายเพื่อความสะดวกในการลักทรัพย์ จึงมีความผิดฐานชิงทรัพย์
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4342/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจตัวแทนเกินขอบเขต จำเลยที่ 1 ต้องรับผิดชอบหนี้ที่เกิดจากการซื้อขาย หากโจทก์เชื่อว่าตัวแทนมีอำนาจ
จำเลยที่ 2 ผู้จัดการเหมืองแร่ของจำเลยที่ 1 สั่งซื้อสินค้าพิพาทจากโจทก์นำไปใช้ในกิจการเหมืองแร่ของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 2จะทำเกินอำนาจตัวแทน แต่การซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1ก็ไม่เคยมีหนี้สินติดค้างกันมาก่อน การซื้อขายสินค้าพิพาทนี้มีมูลเหตุทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเชื่อว่าจำเลยที่ 2 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าพิพาทได้ภายในขอบอำนาจ จำเลยที่ 1จึงต้องรับผิดชำระราคาสินค้าพิพาทให้แก่โจทก์ ส่วนเรื่องที่จำเลยที่ 2 ปฏิบัติผิดระเบียบของจำเลยที่ 1 เป็นเรื่องภายในที่จะต้องไปว่ากล่าวกันเอง หาเกี่ยวข้องกับโจทก์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4342/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรับผิดในสัญญาซื้อขายเมื่อตัวแทนสั่งซื้อเกินอำนาจ และโจทก์เชื่อว่ามีอำนาจ
จำเลยที่ 2 ผู้จัดการเหมืองแร่ของจำเลยที่ 1 สั่งซื้อสินค้าพิพาทจากโจทก์นำไปใช้ในกิจการเหมืองแร่ของจำเลยที่ 1 แม้จำเลยที่ 2 จะทำเกินอำนาจตัวแทน แต่การซื้อขายระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 1 ก็ไม่เคยมีหนี้สินติดค้างกันมาก่อน การซื้อขายสินค้าพิพาทนี้มีมูลเหตุทำให้โจทก์ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกเชื่อว่าจำเลยที่ 2 มีอำนาจสั่งซื้อสินค้าพิพาทได้ภายในขอบอำนาจ จำเลยที่ 1 จึงต้องรับผิดชำระราคาสินค้าพิพาทให้แก่โจทก์ ส่วนเรื่องที่จำเลยที่ 2 ปฏิบัติผิดระเบียบของจำเลยที่ 1 เป็นเรื่องภายในที่จะต้องไปว่ากล่าวกันเอง หาเกี่ยวข้องกับโจทก์ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4206/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจ แม้ไม่มีการรับรองเอกสารจากสถานทูต หากไม่มีการโต้แย้งและพิสูจน์ลายมือชื่อ
โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ประเทศเยอรมนีมอบอำนาจให้ว.ฟ้องคดี แม้หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จะไม่มีเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในประเทศเยอรมนีรับรองมา แต่ศาลชั้นต้นก็มิได้สอบสวนและจำเลยก็ไม่ร้องขอให้ศาลสอบสวนถึงอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจถือว่าศาลและจำเลยมิได้สงสัยอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจ เมื่อจำเลยไม่มีหลักฐานมาสืบหักล้างว่า ลายมือชื่อผู้มอบอำนาจไม่ใช่ของโจทก์ก็ฟังได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีโดยถูกต้องแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4206/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจต่างประเทศ: การรับรองและการพิสูจน์ลายมือชื่อ
โจทก์มีภูมิลำเนาอยู่ประเทศเยอรมนี มอบอำนาจให้ ว. ฟ้องคดี แม้หนังสือมอบอำนาจให้ฟ้องคดีของโจทก์จะไม่มีเจ้าหน้าที่สถานทูตไทยในประเทศเยอรมนีรับรองมา แต่ศาลชั้นต้นก็มิได้สอบสวนและจำเลยก็ไม่ร้องขอให้ศาลสอบสวนถึงอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจ ถือว่าศาลและจำเลยมิได้สงสัยอำนาจฟ้องของผู้รับมอบอำนาจ เมื่อจำเลยไม่มีหลักฐานมาสืบหักล้างว่า ลายมือชื่อผู้มอบอำนาจไม่ใช่ของโจทก์ก็ฟังได้ว่าโจทก์มอบอำนาจให้ผู้รับมอบอำนาจฟ้องคดีโดยถูกต้องแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3910/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การไม่รับอุทธรณ์และการสิ้นสุดกระบวนการยุติธรรมหลังคำสั่งศาลอุทธรณ์
ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเกินกำหนด 15 วันศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของผู้ประกันดังนี้ เท่ากับว่าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้นคำสั่งดังกล่าวเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 198 ทวิ วรรคสาม
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3910/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การอุทธรณ์ไม่ทันเวลาและการสิ้นสุดกระบวนพิจารณาตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
ผู้ประกันยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาลชั้นต้นเกินกำหนด 15 วัน ศาลชั้นต้นสั่งไม่รับอุทธรณ์ ผู้ประกันอุทธรณ์คำสั่งที่ไม่รับอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งให้ยกคำร้องอุทธรณ์คำสั่งของผู้ประกัน ดังนี้เท่ากับว่าศาลอุทธรณ์มีคำสั่งยืนตามคำปฏิเสธของศาลชั้นต้น คำสั่งดังกล่าวเป็นที่สุดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 198 ทวิ วรรคสาม