พบผลลัพธ์ทั้งหมด 482 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจที่ไม่ชัดเจนเรื่องค่าตอบแทนและการก่อสร้าง ทำให้สัญญายังไม่สมบูรณ์ และโจทก์ไม่สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้
หนังสือมอบอำนาจที่จำเลยมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลนและก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลย มิได้มีข้อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงินเท่าใด และโจทก์ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจะได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างใดบ้างใบมอบอำนาจดังกล่าวยังไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทน คงถือได้ว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อประสานงานและเสนอขออนุมัติแบบแปลน แผนผัง การวางเงินมัดจำกับทางจังหวัดและกรมธนารักษ์เท่านั้นส่วนการก่อสร้าง อาคารพาณิชย์และตลาดสดจะได้มีการตกลงทำสัญญากันอีกต่างหาก.
คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า โจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้วเมื่อหักค่าใช้จ่ายออกโจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้อง แต่โจทก์มิได้บรรยายว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยโดยอาศัยข้อตกลงอะไร เมื่อโจทก์และจำเลยมิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไร และโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไร โจทก์จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้.
คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า โจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้วเมื่อหักค่าใช้จ่ายออกโจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้อง แต่โจทก์มิได้บรรยายว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยโดยอาศัยข้อตกลงอะไร เมื่อโจทก์และจำเลยมิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไร และโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไร โจทก์จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2532 เวอร์ชัน 4 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจที่ไม่เป็นสัญญาต่างตอบแทน และความไม่ชัดเจนของข้อตกลงค่าก่อสร้าง ทำให้ฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้
หนังสือมอบอำนาจที่จำเลยมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลนและก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลย มิได้มีข้อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงินเท่าใดและโจทก์ในฐานะ ผู้รับมอบอำนาจจะได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างใดบ้าง ใบมอบอำนาจดังกล่าวยังไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนคงถือได้ว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อประสานงานและเสนอขออนุมัติแบบแปลน แผนผัง การวางเงินมัดจำกับทางจังหวัดและกรมธนารักษ์เท่านั้น ส่วนการก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดจะได้มีการตกลงทำสัญญากันอีกต่างหาก
คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่าโจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้ว เมื่อหักค่าใช้จ่ายออกโจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้องแต่ โจทก์ก็มิได้บรรยายว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยโดยอาศัยข้อตกลงอะไร เมื่อโจทก์และจำเลยมิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไรและโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไร โจทก์จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้
คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่าโจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้ว เมื่อหักค่าใช้จ่ายออกโจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้องแต่ โจทก์ก็มิได้บรรยายว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยโดยอาศัยข้อตกลงอะไร เมื่อโจทก์และจำเลยมิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไรและโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไร โจทก์จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจที่ไม่ชัดเจนและการขาดข้อตกลงเรื่องค่าก่อสร้าง ทำให้ฟ้องเรียกค่าเสียหายไม่ได้
หนังสือมอบอำนาจที่จำเลยมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลนและก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลย มิได้มีข้อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงินเท่าใดและโจทก์ในฐานะ ผู้รับมอบอำนาจจะได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างใดบ้าง ใบมอบอำนาจดังกล่าวยังไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทนคงถือได้ว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อประสานงานและเสนอขออนุมัติแบบแปลน แผนผัง การวางเงินมัดจำกับทางจังหวัดและ กรมธนารักษ์ เท่านั้น ส่วนการ ก่อสร้าง อาคารพาณิชย์ และตลาดสดจะได้มีการตกลง ทำสัญญากันอีกต่างหาก คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า โจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้ว เมื่อหักค่าใช้จ่ายออกโจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้องแต่ โจทก์ก็มิได้บรรยายว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยโดย อาศัยข้อตกลงอะไร เมื่อโจทก์และจำเลยมิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไรและโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไร โจทก์จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2164/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หนังสือมอบอำนาจกับการก่อสร้าง: สัญญาไม่ชัดเจนขาดมูลความเสียหาย
หนังสือมอบอำนาจที่จำเลยมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ดำเนินการจัดทำแบบแปลน และก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดของจำเลยมิได้มีข้อกำหนดว่าใครจะเป็นผู้ออกเงินค่าก่อสร้างเป็นจำนวนเงินเท่าใด และโจทก์ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจะได้รับค่าตอบแทนหรือผลประโยชน์อย่างใดบ้างใบมอบอำนาจดังกล่าวยังไม่มีลักษณะเป็นสัญญาต่างตอบแทน คงถือได้ว่าเป็นหนังสือมอบอำนาจให้โจทก์เป็นผู้ติดต่อประสานงานและเสนอขออนุมัติแบบแปลน แผนผัง การวางเงินมัดจำกับทางจังหวัดและกรมธนารักษ์เท่านั้นส่วนการก่อสร้างอาคารพาณิชย์และตลาดสดน่าจะได้มีการตกลงทำสัญญากันอีกต่างหาก คำฟ้องของโจทก์บรรยายว่า โจทก์คิดค่าก่อสร้างแล้ว เมื่อหักค่าใช้จ่ายออกโจทก์จะมีกำไรเป็นจำนวนเงินดังกล่าวในฟ้อง แต่โจทก์ก็มิได้บรรยายว่าโจทก์จะคิดค่าก่อสร้างจากจำเลยโดยอาศัยข้อตกลงอะไรเมื่อโจทก์และจำเลยมิได้ทำสัญญากันไว้ คำฟ้องของโจทก์จึงไม่แจ้งชัดพอที่จะฟังได้ว่าโจทก์ขาดประโยชน์เพราะอะไร และโจทก์จะมีกำไรจากการก่อสร้างอย่างไร โจทก์จึงขอให้จำเลยชดใช้ค่าขาดประโยชน์ดังกล่าวไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ไม่สำเร็จ และสิทธิในการขอพิจารณาคดีใหม่เมื่อไม่มีผู้รับแทน ณ ภูมิลำเนา
พนักงานเดินหมายนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้จำเลยที่ 2 ยังภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2 แต่ผู้จัดการของจำเลยที่ 2ออกไปธุระนอกบ้าน ไม่มีผู้ใดยอมรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทนจำเลยที่ 2 ดังนี้ มิใช่กรณีที่จะลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 และจำเลยที่ 2 มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ไม่สำเร็จตามภูมิลำเนา/สำนักทำการงาน และสิทธิในการขอพิจารณาคดีใหม่
พนักงานเดินหมายนำหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไปส่งให้จำเลยที่ 2 ยังภูมิลำเนาของจำเลยที่ 2 แต่ผู้จัดการของจำเลยที่ 2 ออกไปธุระนอกบ้าน ไม่มีผู้ใดยอมรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทนจำเลยที่ 2 ดังนี้ มิใช่กรณีที่จะลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 79 และจำเลยที่ 2 มีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1925/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การส่งหมายเรียกที่ถูกต้องตามกฎหมายเมื่อจำเลยมีภูมิลำเนาแน่นอน การลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ไม่ชอบ
จำเลยที่ 2 มีภูมิลำเนาหรือสำนักทำการงานเป็นหลักแหล่งแน่นอนแต่ส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องให้แก่จำเลยที่ 2 ไม่ได้ เพราะผู้จัดการของจำเลยที่ 2 ออกไปธุระนอกบ้าน ไม่มีผู้ใดยอมรับหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องไว้แทนจำเลยที่ 2 ดังนี้ มิใช่กรณีที่จะลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา 79 การที่ศาลชั้นต้นอนุญาตให้ลงโฆษณาทางหนังสือพิมพ์จึงไม่ชอบ และจะถือว่าจำเลยที่ 2 ทราบประกาศการส่งหมายเรียกและสำเนาคำฟ้องโดยผลของกฎหมายแล้วไม่ได้ จำเลยที่ 2 ย่อมมีสิทธิขอให้พิจารณาใหม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2532
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารเสนอขอทำประกันชีวิตไม่ใช่เอกสารสิทธิ ตามความหมายในประมวลกฎหมายอาญา
คำขอเอาประกันชีวิตแบบออมทรัพย์สงเคราะห์มีสาระสำคัญว่าพ.และส. มีความประสงค์ที่จะเอาประกันชีวิตตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในคำขอมีลักษณะเป็นเพียงคำเสนอขอทำสัญญาประกันชีวิตเท่านั้น ยังไม่แน่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะตกลงรับประกันหรือไม่ ส่วนบันทึกปากคำผู้เอาประกันก็เป็นเพียงเอกสารซึ่งผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบคำถามตามที่บริษัทผู้รับประกันต้องการทราบในเรื่องความเกี่ยวพันระหว่างผู้เอาประกันชีวิตกับผู้รับประโยชน์ ตลอดจนรายละเอียดในการชำระเบี้ยประกัน เอกสารดังกล่าวมานี้มิใช่หลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ จึงไม่ใช่เอกสารสิทธิ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารเสนอขอทำสัญญาประกันภัยไม่ใช่เอกสารสิทธิปลอมตาม ป.อ. มาตรา 1(9)
คำขอเอาประกันชีวิตแบบออมทรัพย์สงเคราะห์มีสาระสำคัญว่า ผู้เอาประกันมีความประสงค์ที่จะเอาประกันชีวิตตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในคำขอ มีลักษณะเป็นเพียงคำเสนอขอทำสัญญาประกันชีวิตเท่านั้น ยังไม่แน่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะตกลงรับประกันหรือไม่ และบันทึกปากคำผู้เอาประกันก็เป็นเพียงเอกสารซึ่งผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบคำถามตามที่บริษัทผู้รับประกันต้องการทราบในเรื่องความเกี่ยวพันระหว่างผู้เอาประกันชีวิตกับผู้รับประโยชน์ ตลอดจนรายละเอียดในการชำระเบี้ยประกัน เอกสารดังกล่าวมิใช่หลักฐานแห่งการก่อเปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ จึงมิใช่เอกสารสิทธิตาม ป.อ. มาตรา 1(9).
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1892/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เอกสารเสนอขอทำสัญญาประกันชีวิตไม่ใช่เอกสารสิทธิ ตามประมวลกฎหมายอาญา
คำขอเอาประกันชีวิตแบบออมทรัพย์สงเคราะห์มีสาระสำคัญว่า พ. และ ส. มีความประสงค์ที่จะเอาประกันชีวิตตามรายละเอียดที่ระบุไว้ในคำขอมีลักษณะเป็นเพียงคำเสนอขอทำสัญญาประกันชีวิตเท่านั้น ยังไม่แน่ว่าอีกฝ่ายหนึ่งจะตกลงรับประกันหรือไม่ ส่วนบันทึกปากคำผู้เอาประกันก็เพียงเอกสารซึ่งผู้ขอเอาประกันชีวิตตอบคำถามตามที่บริษัทผู้รับประกันต้องการทราบ ในเรื่องความเกี่ยวพันระหว่างผู้เอาประกันชีวิตกับผู้รับประโยชน์ตลอดจนรายละเอียดในการชำระเบี้ยประกัน เอกสารดังกล่าวมานี้มิใช่หลักฐานแห่งการก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิ จึงไม่ใช่เอกสารสิทธิ