คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ประวิทย์ ขัมภรัตน์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,016 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1787/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความพิกัดอัตราศุลกากร: สินค้าเป็นชุดอุปกรณ์ควบคุมการจราจรทางรถไฟ ต้องจัดอยู่ในพิกัด 85.16
สินค้าที่จำเลยนำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องอุปกรณ์ควบคุมการจราจรด้วยไฟฟ้าสำหรับใช้กับรถไฟ จึงเป็นชุดของเครื่องอุปกรณ์ควบคุมการจราจรด้วยไฟฟ้าสำหรับใช้กับรถไฟ ซึ่งตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2503 ภาค 1 หลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากร ข้อ 6 บัญญัติว่า ของครบชุดสมบูรณ์หรือของซึ่งมีลักษณะอันเป็นสาระสำคัญที่ทำให้เห็นได้ว่าเป็นของครบชุดที่นำเข้ามาโดยแยกออกจากกันหรือมิได้ประกอบเข้าด้วยกัน แม้จะแยกนำเข้าต่างวาระกันก็ตามให้จัดเข้าในประเภทที่ว่าด้วยของครบชุดสมบูรณ์ได้ เมื่อเครื่องอุปกรณ์ควบคุมการจราจรด้วยไฟฟ้าสำหรับใช้กับรถไฟเป็นสินค้าประเภทพิกัดที่ 85.16 จึงต้องจัดสินค้าที่จำเลยนำเข้าเข้าในประเภทพิกัดที่ 85.16 ด้วย ที่เจ้าพนักงานกรมศุลกากรโจทก์จัดสินค้าดังกล่าวเข้าในประเภทพิกัดที่ 85.19ในฐานะเป็นเครื่องไฟฟ้าสำหรับต่อและตัดวงจรไฟฟ้า จึงไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1787/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การตีความพิกัดอัตราศุลกากร: สินค้าเป็นชุดอุปกรณ์ครบชุดหรือไม่ และการประเมินอากรที่ถูกต้อง
สินค้าที่จำเลยนำเข้าเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องอุปกรณ์ควบคุมการจราจรด้วยไฟฟ้าสำหรับใช้กับรถไฟ จึงเป็นชุดของเครื่องอุปกรณ์ควบคุมการจราจรด้วยไฟฟ้าสำหรับใช้กับรถไฟ ซึ่งตามพระราชกำหนดพิกัดอัตราศุลกากร พ.ศ. 2503 ภาค 1 หลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากร ข้อ 6 บัญญัติว่า ของครบชุดสมบูรณ์หรือของซึ่งมีลักษณะอันเป็นสาระสำคัญที่ทำให้เห็นได้ว่าเป็นของครบชุด ที่นำเข้ามาโดยแยกออกจากกันหรือมิได้ประกอบเข้าด้วยกัน แม้จะแยกนำเข้าต่างวาระกันก็ตาม ให้จัดเข้าในประเภทที่ว่าด้วยของครบชุดสมบูรณ์ได้ เมื่อเครื่องอุปกรณ์ควบคุมการจราจรด้วยไฟฟ้าสำหรับใช้กับรถไฟเป็นสินค้าประเภทพิกัดที่ 85.16 จึงต้องจัดสินค้าที่จำเลยนำเข้าเข้าในประเภทพิกัดที่ 85.16 ด้วย ที่เจ้าพนักงานกรมศุลกากรโจทก์จัดสินค้าดังกล่าวเข้าในประเภทพิกัดที่ 85.19 ในฐานะเป็นเครื่องไฟฟ้าสำหรับต่อและตัดวงจรไฟฟ้าจึงไม่ชอบด้วยหลักเกณฑ์การตีความพิกัดอัตราศุลกากร

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1783/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ภาษียานยนต์: การเสียภาษีตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก และอำนาจเรียกเก็บภาษีย้อนหลังของกรมการขนส่งทางบก
บทบัญญัติมาตรา 167 วรรคแรกแห่งพระราชบัญญัติการขนส่งทางบกพ.ศ .2522 มีความหมายว่ารถยนต์ที่ได้เสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้ และครบกำหนดเวลาที่ได้เสียภาษีไว้แล้ว ก็ต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ เมื่อรถตามฟ้องเสียภาษีตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ไว้ในปี 2522 และครบกำหนดเมื่อสิ้นปีนั้น รถคันดังกล่าวจึงมีหน้าที่ต้องเสียภาษีรถยนต์ตามพระราชบัญญัติการขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 เป็นต้นไป เมื่อรถคันนั้นไม่เสียภาษี กรมการขนส่งทางบกซึ่งมีหน้าที่ในการนี้ย่อมมีอำนาจเรียกเก็บภาษีย้อนหลังไปจนถึงวันที่จะต้องเสียภาษีตามพระราชบัญญัติดังกล่าว ซึ่งไม่เกี่ยวกับภาษีที่ค้างชำระตามพระราชบัญญัติรถยนต์ พ.ศ. 2473 ที่จะต้องชำระก่อนถึงวันที่ต้องชำระภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ได้
รถตามฟ้องเจ้าของเดิมเคยนำมาขออนุญาตประกอบการขนส่งตามพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. 2497 ขณะนั้นกรมการขนส่งทางบกมีอำนาจเพียงพิจารณาออกใบอนุญาตให้ประกอบการขนส่ง ไม่มีอำนาจในการรับจดทะเบียนรถยนต์บรรทุก การที่โจทก์ขอให้กรมการขนส่งทางบกโอนทะเบียนจากเจ้าของเดิมมาเป็นของโจทก์ และขอเปลี่ยนประเภทจากรถยนต์บรรทุกสาธารณะมาเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคล ไม่มีกฎหมายบัญญัติว่าการกระทำดังกล่าวเป็นการจดทะเบียนใหม่ โจทก์จะเสียภาษีนับแต่งวดที่จดทะเบียนใหม่ตั้งแต่ปี 2530 เป็นต้นไปดังที่มาตรา 86 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติการขนส่ง พ.ศ. 2497 บัญญัติไว้หาได้ไม่ เมื่อไม่มีการจดทะเบียนรถใหม่ โจทก์จึงต้องเสียค่าธรรมเนียมโอนทะเบียนจากเจ้าของเดิมมาเป็นของโจทก์ และค่าเปลี่ยนประเภทจากรถยนต์บรรทุกสาธารณะมาเป็นรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลตามที่กฎหมายบัญญัติไว้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1771/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลกระทบของคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์และการประนอมหนี้ต่อคดีหนี้เดิม โจทก์ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้จำเลยร่วมกันชำระหนี้ต่อโจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 2 เด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้โฆษณาคำสั่งศาลชั้นต้นให้เจ้าหนี้ของจำเลยที่ 2ยื่นคำขอรับชำระหนี้ และต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายของจำเลยที่ 2 แล้ว ดังนั้น หนี้ที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ โจทก์จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 27,91 แห่งพระราชบัญญัติ ล้มละลาย พ.ศ. 2483 แม้โจทก์ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้โจทก์ก็ถูกผูกมัดโดยการประนอมหนี้ด้วยตามมาตรา 56 โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้อีกไม่ได้ ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง และให้จำหน่ายคดีในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2ในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1771/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ผลของการประนอมหนี้ก่อนล้มละลาย: โจทก์ต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ หรือผูกมัดตามการประนอมหนี้
จำเลยที่ 1 และที่ 2 ฎีกาคัดค้านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ที่ให้จำเลยร่วมกันชำระหนี้ต่อโจทก์ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่าศาลชั้นต้นมีคำสั่งพิทักษ์ทรัพย์ของจำเลยที่ 2 เด็ดขาด เจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ได้โฆษณาคำสั่งศาลชั้นต้นให้เจ้าหนี้ของจำเลยที่ 2 ยื่นคำขอรับชำระหนี้ และต่อมาศาลชั้นต้นมีคำสั่งเห็นชอบด้วยการประนอมหนี้ก่อนล้มละลายของจำเลยที่ 2 แล้ว ดังนั้น หนี้ที่โจทก์ฟ้องจำเลยที่ 2 ในคดีนี้ โจทก์จะต้องยื่นคำขอรับชำระหนี้ต่อเจ้าพนักงานพิทักษ์ทรัพย์ตามที่กำหนดไว้ในมาตรา 27, 91 แห่งพระราชบัญญัติล้มละลาย พ.ศ.2483 แม้โจทก์ไม่ยื่นคำขอรับชำระหนี้ โจทก์ก็ถูกผูกมัดโดยการประนอมหนี้ด้วยตามมาตรา 56 โจทก์จึงฟ้องให้จำเลยที่ 2 ชำระหนี้อีกไม่ได้ศาลฎีกาพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลล่างทั้งสอง และให้จำหน่ายคดีในส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 ในคดีนี้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1722/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินราคาภาษีอากรที่ถูกต้อง: การเปรียบเทียบราคาต้องคำนึงถึงปริมาณ เวลา และแหล่งที่มาของสินค้า
จำเลยนำสินค้าพิพาทจากประเทศ สิงคโปร์เข้ามา 2 ครั้ง ครั้งแรกแบบ ซีวีโอ 700 จำนวน 150 ชุด ครั้งที่ 2 แบบ ซีวีโอ 500 จำนวน204 ชุด โดยสั่งซื้อ จากบริษัท ช. ราคาสินค้าพิพาทที่จำเลยสำแดงก็เท่ากับที่ผู้นำเข้ารายอื่นนำเข้าทางท่าเรือกรุงเทพในระยะเวลานั้น การที่โจทก์นำราคาสินค้าชนิดเดียวกันซึ่ง ว. สั่งซื้อ จากผู้ขายต่าง รายกัน และนำเข้าในจำนวนน้อยกว่ามาก โดย นำเข้าแบบซีวีโอ 500 จำนวน 100 ชุด และแบบ ซีวีโอ 700 จำนวนเพียง 2 ชุดเพียงรายเดียว มาเปรียบเทียบกับราคาสินค้าของจำเลย โดย ถือว่าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดแล้วเรียกเก็บภาษีอากรเพิ่มเติมจากจำเลย ทั้ง ๆ ที่ระยะเวลานำเข้าก็ต่างกันเกือบ 1 ปี และต่าง ปีกันจึงไม่ถูกต้อง ถือได้ว่าราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงไว้เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1722/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ราคาสินค้านำเข้า: การเปรียบเทียบราคาเพื่อประเมินภาษีต้องพิจารณาสภาพตลาดและระยะเวลาที่สมเหตุสมผล
จำเลยนำสินค้าพิพาทจากประเทศ สิงคโปร์ เข้ามา 2 ครั้ง ครั้งแรกแบบ ซีวีโอ700จำนวน150ชุดครั้งที่2แบบซีวีโอ 500 จำนวน204 ชุด โดยสั่งซื้อ จากบริษัท ช. ราคาสินค้าพิพาทที่จำเลยสำแดงก็เท่ากับที่ผู้นำเข้ารายอื่นนำเข้าทางท่าเรือกรุงเทพในระยะเวลานั้น การที่โจทก์นำราคาสินค้าชนิดเดียวกันซึ่ง ว. สั่งซื้อ จากผู้ขายต่าง รายกัน และนำเข้าในจำนวนน้อยกว่ามาก โดย นำเข้าแบบซีวีโอ500จำนวน100ชุดและแบบซีวีโอ 700 จำนวนเพียง 2 ชุดเพียงรายเดียว มาเปรียบเทียบกับราคาสินค้าของจำเลย โดย ถือว่าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดแล้วเรียกเก็บภาษีอากรเพิ่มเติมจากจำเลย ทั้ง ๆ ที่ระยะเวลานำเข้าก็ต่างกันเกือบ 1 ปี และต่าง ปีกันจึงไม่ถูกต้อง ถือได้ว่าราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงไว้เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1722/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินราคาภาษีอากรที่ถูกต้องตามราคาตลาด พิจารณาจากปริมาณการซื้อ ระยะเวลา และแหล่งที่มาของสินค้า
จำเลยนำสินค้าพิพาทจากประเทศสิงคโปร์เข้ามา 2 ครั้งครั้งแรกแบบซีวีโอ700จำนวน150ชุดครั้งที่2แบบซีวีโอ500 จำนวน 204 ชุด โดยสั่งซื้อจากบริษัทช. และสำแดงราคาสินค้าพิพาทเพื่อคำนวณภาษีอากรเท่ากับที่ผู้นำเข้ารายอื่นนำเข้าทางท่าเรือกรุงเทพในระยะเวลานั้น การที่โจทก์นำราคาสินค้าชนิดเดียวกันซึ่งว.ผู้นำเข้าเพียงรายเดียวสั่งซื้อจากผู้ขายต่างรายกัน และนำเข้าในจำนวนน้อยกว่ามาก โดยนำเข้าแบบซีวีโอ 500 จำนวน 100 ชุดและแบบซีวีโอ 700 จำนวน เพียง 2 ชุด มาเปรียบเทียบกับราคาสินค้าของจำเลย โดยถือว่าเป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาดแล้วเรียกเก็บภาษีอากรเพิ่มเติมจากจำเลยทั้ง ๆ ที่ระยะเวลานำเข้าก็ต่างกันเกือบ 1 ปี และต่างปีกัน จึงไม่ถูกต้องถือได้ว่าราคาสินค้าที่จำเลยสำแดงไว้เป็นราคาอันแท้จริงในท้องตลาด

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1678/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประเมินภาษี: หลักฐานการซื้อขายดอกฝ้ายไม่น่าเชื่อถือ, การยอมรับการประเมินของตัวแทนโจทก์
โจทก์ประกอบกิจการโรงงานอุตสาหกรรมทอฝ้าย ปั่นฝ้าย และจำหน่ายฝ้าย โจทก์อ้างว่า ในปี พ.ศ. 2509-2520 โจทก์ซื้อดอกฝ้ายจากพ่อค้า ชาวไร่ และสหกรณ์ในหลายจังหวัดเป็นเงิน 48 ล้านบาทเศษและ 43 ล้านบาทเศษตามลำดับ โดยซื้อในราคาใกล้เคียงกับราคาที่ปรากฏในวารสารฝ้ายและสิ่งทอ แต่ใบเสร็จรับเงินที่โจทก์นำมาแสดงเป็นแบบพิมพ์ที่โจทก์จัดทำขึ้นเอง โจทก์จึงมีโอกาสที่จะกรอกแบบพิมพ์เหล่านี้ให้ผิดไปจากความเป็นจริงได้โดยง่าย เมื่อพยานหลักฐานโจทก์ที่นำสืบเกี่ยวกับราคาดอกฝ้ายไม่มีน้ำหนัก ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าโจทก์ซื้อดอกฝ้ายตามราคาที่อ้าง การที่จำเลยสุ่มตัวอย่างราคาดอกฝ้ายตามใบเสร็จรับเงินในแต่ละเดือนแล้วนำราคามาถัวเฉลี่ยเป็นราคาดอกฝ้ายนั้น ถือเป็นวิธีการที่มีเหตุผล เมื่อปรากฏว่าราคาถัวเฉลี่ยของดอกฝ้ายดังกล่าวมีราคาต่ำกว่าราคาดอกฝ้ายที่โจทก์อ้างข้างต้น จึงถือตามราคาถัวเฉลี่ยดังกล่าว

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1634/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบังคับคดีแพ่งถึงที่สุด ผลของคำพิพากษาคดีอาญาไม่อาจลบล้างได้
การที่เจ้าพนักงานบังคับคดียึดทรัพย์ และดำเนินการเพื่อจะขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสองในคดีแพ่งที่ถึงที่สุดแล้วนั้นเป็นกรณีปฏิบัติไปตามบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งในเรื่องการบังคับคดีตามคำพิพากษาโดยชอบ ซึ่งเป็นการบังคับเอาแก่ทรัพย์สินของจำเลยทั้งสอง ส่วนคดีอาญาที่จำเลยทั้งสองฟ้องโจทก์นั้นเป็นเรื่องที่จะบังคับเกี่ยวกับตัวโจทก์ เป็นกรณีคนละเรื่องกันผลของคำพิพากษาในคดีอาญาไม่อาจลบล้างคำพิพากษาในคดีแพ่งได้จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะงดการขายทอดตลาดทรัพย์สินของจำเลยทั้งสอง
of 102