พบผลลัพธ์ทั้งหมด 1,016 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับการประเมินภาษีแล้วถือเป็นอันยุติ แม้จะอ้างภายหลังว่ามีขาดทุนสะสมก็ฟังไม่ได้
โจทก์ยอมรับผลการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินที่เรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินเพิ่มจากโจทก์สำหรับปี 2516 และ 2517 โดยโจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้าน และโจทก์ได้ชำระเงินตามที่เจ้าพนักงานประเมินให้แก่จำเลยแล้ว ย่อมถือได้ว่าการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินดังกล่าวชอบแล้ว และเป็นอันยุติ โจทก์จะรื้อฟื้นขึ้นมาโต้เถียงเป็นอย่างอื่นอีกโดยอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์หาได้ไม่ ดังนี้จึงฟังไม่ได้ว่ายังมียอดขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปีก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปี 2518 ค้างอยู่อีก.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1326/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การยอมรับการประเมินภาษีและชำระเงินแล้ว ถือเป็นการยุติสิทธิในการอ้างยอดขาดทุนสะสมเพื่อลดหย่อนภาษีในรอบปีถัดไป
โจทก์ยอมรับผลการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินที่เรียกเก็บภาษีเงินได้นิติบุคคลและเงินเพิ่มจากโจทก์สำหรับปี 2516 และ 2517 โดยโจทก์มิได้อุทธรณ์คัดค้าน และโจทก์ได้ชำระเงินตามที่เจ้าพนักงานประเมินให้แก่จำเลยแล้ว ย่อมถือได้ว่าการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินดังกล่าวชอบแล้ว และเป็นอันยุติ โจทก์จะรื้อฟื้นขึ้นมาโต้เถียงเป็นอย่างอื่นอีกโดยอ้างว่ารู้เท่าไม่ถึงการณ์หาได้ไม่ ดังนี้จึงฟังไม่ได้ว่ายังมียอดขาดทุนสุทธิยกมาไม่เกิน 5 ปีก่อนรอบระยะเวลาบัญชีปี 2518 ค้างอยู่อีก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนผู้จัดการในหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัด และการบังคับชำระหนี้จากกองมรดก
ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ.มีส. เป็นหุ้นส่วนผู้จัดการและเป็นหุ้นส่วนประเภทไม่จำกัดความรับผิดเพียงคนเดียว ปรากฏว่าห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ. มีหนี้ภาษีอากรค้างซึ่งจะต้องชำระแก่จำเลยแต่ห้างฯ ไม่ยอมชำระ ถือได้ว่าเป็นการผิดนัด ซึ่งตาม ป.พ.พ. มาตรา1070 ประกอบด้วยมาตรา 1080 บัญญัติให้เจ้าหนี้ของห้างหุ้นส่วนชอบที่จะเรียกให้ชำระเอาแต่หุ้นส่วนผู้จัดการได้ เมื่อห้างฯ ดังกล่าวเป็นอันเลิกไปโดยผลของกฎหมายเพราะ ส.ตายส. จึงต้องรับผิดในบรรดาหนี้ของห้างหุ้นส่วนนั้นอย่างไม่จำกัดจำนวนตาม ป.พ.พ.มาตรา 1077(2) ซึ่งย่อมรวมถึงหนี้ภาษีอากรค้างด้วย ทรัพย์สินกองมรดกของ ส. จึงตก เป็นทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรตาม ป.รัษฎากร มาตรา 12 วรรคสอง จำเลยจึงชอบที่จะยึดทรัพย์สินดังกล่าวของ ส. เพื่อบังคับชำระหนี้ภาษีอากรค้างได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หุ้นส่วนจำกัดความรับผิดรับผิดหนี้ห้างหุ้นส่วนแม้หลังเลิกไป ทรัพย์มรดกถูกบังคับชำระหนี้ภาษี
ส.เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัดฮ.จึงต้องรับผิดในหนี้ของห้างหุ้นส่วนดังกล่าวโดยไม่จำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1077(2) เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดฮ.ผิดนัดชำระหนี้ภาษีอากรค้างแก่จำเลยจำเลยย่อมมีสิทธิเรียกให้ ส.ชำระหนี้ดังกล่าวได้ตามมาตรา1070 ประกอบด้วยมาตรา 1080 แม้ห้างหุ้นส่วนจำกัดฮ.ต้องเลิกกันโดยผลของกฎหมายเนื่องจาก ส.ตายแล้วก็ตาม ทรัพย์สินกองมรดกของ ส.ก็ต้องตกเป็นทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความรับผิดของหุ้นส่วนไม่จำกัดความรับผิดในหนี้ของห้างหุ้นส่วนจำกัด และการบังคับชำระหนี้จากทรัพย์มรดก
ส.เป็นหุ้นส่วนจำพวกไม่จำกัดความรับผิดของห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ.จึงต้องรับผิดในหนี้ของห้างหุ้นส่วนดังกล่าวโดยไม่จำกัดจำนวนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1077 (2) เมื่อห้างหุ้นส่วนจำกัดฮ.ผิดนัดชำระหนี้ภาษีอากรค้างแก่จำเลย จำเลยย่อมมีสิทธิเรียกให้ ส.ชำระหนี้ดังกล่าวได้ตามมาตรา1070 ประกอบด้วยมาตรา 1080 แม้ห้างหุ้นส่วนจำกัด ฮ.ต้องเลิกกันโดยผลของกฎหมายเนื่องจาก ส.ตายแล้วก็ตาม ทรัพย์สินกองมรดกของ ส.ก็ต้องตกเป็นทรัพย์สินของผู้ต้องรับผิดเสียภาษีอากรตามประมวลรัษฎากร มาตรา 12 วรรคสอง.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1296/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ข้อจำกัดการอุทธรณ์คดีภาษีอากรเกี่ยวกับข้อเท็จจริงและอายุความ รวมถึงการคิดดอกเบี้ยเงินเพิ่ม
ประมวลรัษฎากรได้บัญญัติไว้โดยเฉพาะแล้วว่า เมื่อลูกหนี้ผิดนัดไม่ชำระค่าภาษี จะต้องรับผิดเสียเงินเพิ่ม ฉะนั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกเก็บดอกเบี้ยจากค่าภาษีที่ค้างชำระอีก
จำเลยอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ แม้จะใช้แบบพิมพ์คำร้องมิได้ใช้แบบพิมพ์อุทธรณ์ซึ่งเป็นการไม่ถูกต้อง แต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับมาโดยมิได้สั่งให้ทำใหม่ ก็พออนุโลมว่าเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมายได้
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากร ฯ มาตรา 25 ห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีที่มีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท ปัญหาว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่ สินค้าที่นำเข้ามีราคาที่แท้จริงเป็นจำนวนเท่าใด เป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ค่าภาษีอากรพร้อมด้วยเงินเพิ่มจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ประเด็นแห่งคดีที่ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดมีเพียงว่าข้ออ้างของโจทก์ตามที่กล่าวในฟ้องนั้นมีมูลที่จำเลยจะต้องรับผิดหรือไม่คดีไม่มีประเด็นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เพราะจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้แม้ศาลภาษีอากรกลางจะวินิจฉัยในปัญหาข้อนี้มาก็ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
จำเลยอ้างว่ามิได้จงใจขาดนัดยื่นคำให้การ แม้จะใช้แบบพิมพ์คำร้องมิได้ใช้แบบพิมพ์อุทธรณ์ซึ่งเป็นการไม่ถูกต้อง แต่เมื่อศาลชั้นต้นสั่งรับมาโดยมิได้สั่งให้ทำใหม่ ก็พออนุโลมว่าเป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมายได้
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลภาษีอากร ฯ มาตรา 25 ห้ามมิให้คู่ความอุทธรณ์ข้อเท็จจริงในคดีที่มีจำนวนทุนทรัพย์ที่พิพาทไม่เกินห้าหมื่นบาท ปัญหาว่าจำเลยจงใจขาดนัดยื่นคำให้การหรือไม่ สินค้าที่นำเข้ามีราคาที่แท้จริงเป็นจำนวนเท่าใด เป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้อุทธรณ์
โจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระหนี้ค่าภาษีอากรพร้อมด้วยเงินเพิ่มจำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ ประเด็นแห่งคดีที่ศาลจะต้องวินิจฉัยชี้ขาดมีเพียงว่าข้ออ้างของโจทก์ตามที่กล่าวในฟ้องนั้นมีมูลที่จำเลยจะต้องรับผิดหรือไม่คดีไม่มีประเด็นว่าฟ้องโจทก์ขาดอายุความหรือไม่ เพราะจำเลยมิได้ให้การต่อสู้ไว้แม้ศาลภาษีอากรกลางจะวินิจฉัยในปัญหาข้อนี้มาก็ไม่ชอบด้วยกระบวนพิจารณา ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีเป็นยุติ หากไม่โต้แย้งหรือชำระภาษีภายในเวลาที่กำหนด แม้การประเมินไม่ถูกต้องก็ไม่มีสิทธิโต้เถียงได้
พนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์แจ้งรายการประเมินภาษีโรงเรือนให้จำเลยทราบ จำเลยมิได้ยื่นคำร้องโต้แย้งคัดค้านการประเมินหรือขอให้พิจารณาใหม่ และมิได้ชำระค่าภาษีให้โจทก์ตามขั้นตอนที่ พ.ร.บ. ภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 มาตรา 25,31 และ39 กำหนดไว้ จึงเท่ากับว่าผลของการประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่เป็นยุติแล้ว โดยห้ามมิให้จำเลยนำคดีมาสู่ศาล ซึ่งหมายความรวมถึงว่าจำเลยไม่มีสิทธิโต้เถียง ว่าการประเมินไม่ถูกต้องด้วย ดังนั้นจำเลยจะต่อสู้คดีว่าการประเมินไม่ถูกต้องหาได้ไม่ แม้ศาลชั้นต้นจะวินิจฉัยถึงเนื้อหาของการประเมินของพนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์ว่าไม่ถูกต้องบางประการก็ตาม ก็ไม่ทำให้กลายเป็นว่าจำเลยมีสิทธิต่อสู้ว่าการประเมินไม่ถูกต้องไปได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1288/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดิน: ผลของการไม่โต้แย้งการประเมินและการสิ้นสิทธิในการอ้างเหตุผลความไม่ถูกต้อง
พนักงานเจ้าหน้าที่ของโจทก์แจ้งรายการประเมินภาษีโรงเรือนและที่ดินให้จำเลยทราบแล้ว จำเลยมิได้ยื่นคำร้องโต้แย้งคัดค้านการประเมิน หรือขอให้พิจารณาการประเมินใหม่ ตามที่พระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พุทธศักราช 2475 มาตรา 25 กำหนดไว้ และมิได้ชำระค่าภาษีให้โจทก์ตามที่กฎหมายกำหนด จึงเท่ากับว่าผลของการประเมินของโจทก์เป็นยุติแล้ว โดยห้ามมิให้จำเลยนำคดีมาสู่ศาล ซึ่งหมายความรวมถึงว่าจำเลยย่อมไม่มีสิทธิโต้แย้งว่า การประเมินไม่ถูกต้องด้วย ดังนี้เมื่อโจทก์ฟ้องให้จำเลยชำระค่าภาษีดังกล่าว จำเลยจะต่อสู้คดีว่าการประเมินไม่ถูกต้องหาได้ไม่.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1282/2530
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิจารณาโทษจำเลยในคดีฆ่าผู้อื่นและฆ่าเจ้าพนักงาน แม้จำเลยจะรับสารภาพ แต่พยานหลักฐานโจทก์ก็เพียงพอต่อการลงโทษ
จำเลยใช้อาวุธปืนยิง ก. ถึงแก่ความตายแล้วหลบหนีไป บ. พยานโจทก์ เบิกความว่า พลตำรวจ ช. กับ บ. และ ป. ได้วิ่งติดตามจำเลยไปเพื่อจะจับจำเลย บ. ได้ยินเสียงปืนดังมาจากทางที่จำเลยวิ่งไปประมาณ 4-5 นัด กระสุนปืนถูกพลตำรวจ ช. ทำให้ถึงแก่ความตายข้อเท็จจริงดังกล่าวฟังได้ว่า จำเลยเป็นคนใช้อาวุธปืนยิงพลตำรวจ ช. แม้จำเลยจะไม่ให้การรับสารภาพ พยานหลักฐานโจทก์ก็พอฟังลงโทษจำเลยได้คำรับสารภาพของจำเลยจึงไม่เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา และไม่มีเหตุบรรเทาโทษอย่างอื่น กรณีไม่สมควรลดโทษให้ตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1254/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ที่ดินสาธารณะต้องปฏิบัติตามกม.หวงห้าม หากไม่ปฏิบัติตามสิทธิเดิมของผู้ครอบครองยังคงอยู่
คำว่า "ที่ดินรกร้างว่างเปล่า" ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1304(1)ตรงกับคำว่า "ที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน"ตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน พ.ศ. 2478 การดำเนินการจัดหาที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทำเป็นที่สาธารณะประจำตำบล และหมู่บ้านตามหนังสือของกระทรวงมหาดไทยถึงคณะกรรมการจังหวัดทุกจังหวัดนั้น จะต้องปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ดังกล่าวกล่าวคือต้องออกเป็นพระราชกฤษฎีกาและประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อไม่ปรากฏว่า ได้มีการดำเนินการตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการหวงห้ามที่ดินรกร้างว่างเปล่าอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินฯ ซึ่งมีผลบังคับอยู่ในขณะนั้นแม้จะได้มีการขึ้นทะเบียนที่พิพาทเป็นที่สาธารณะประจำหมู่บ้าน ก็ไม่มีผลให้ที่พิพาทเป็นที่สาธารณะประจำหมู่บ้านไปได้ โจทก์เข้าครอบครองที่พิพาทก่อนประกาศใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน ทางราชการได้ออกใบเหยียบย่ำให้ เมื่อประกาศใช้ ป.ที่ดินโจทก์ได้แจ้งการครอบครองไว้แล้ว ทั้งยังครอบครองตลอดมา ที่พิพาทจึงเป็นสิทธิของโจทก์.