คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
สมศักดิ์ จูสวัสดิ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 366 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2516/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การสลักหลังตั๋วแลกเงิน ความชอบธรรมในการฟ้อง และการระบุรายละเอียดในตั๋วแลกเงิน
โจทก์บรรยายฟ้องว่า บริษัท ค. ได้ออกตั๋วแลกเงินสั่งให้จำเลยจ่ายเงินแก่ธนาคาร ฮ.ซึ่งเป็นธนาคารตัวแทนของบริษัทค.และเป็นผู้รับเงินตามตั๋วแลกเงิน ธนาคาร ฮ. สลักหลังตั๋วแลกเงินให้ธนาคาร ก. ดำเนินการแทนโดยธนาคาร ก. ได้จัดการให้จำเลยรับรองตั๋วแลกเงินแล้ว เมื่อตั๋วแลกเงินถึงกำหนดจำเลยผิดนัดไม่ยอมชำระเงินแก่ธนาคาร ก. บริษัท ค. มอบหมายให้โจทก์เป็นผู้ติดตามเรียกให้จำเลยชำระเงินตามตั๋วแลกเงินธนาคาร ก. จึงสลักหลังตั๋วแลกเงินให้แก่โจทก์ในฐานะจัดการแทน การสลักหลังของธนาคาร ก. เป็นการสลักหลังตาม ป.พ.พ. มาตรา 925 โจทก์ผู้รับสลักหลังจึงเป็นตัวแทนของบริษัท ค. ซึ่งเป็นตัวการ ดังนี้ ฟ้องโจทก์ไม่เคลือบคลุม แม้เดิม โจทก์บรรยายฟ้องว่า "ธนาคาร ฮ. ได้สลักหลังให้ธนาคาร ก. ดำเนินการแทน" ต่อมาโจทก์แก้ฟ้องเป็นว่า"บริษัท ค. ได้มอบหมายให้โจทก์ดำเนินการแทน" คำฟ้องโจทก์ก็ไม่เคลือบคลุม รายการในตั๋วแลกเงินตาม ป.พ.พ. มาตรา 909(3) ระบุเพียงว่า"ชื่อ หรือยี่ห้อผู้จ่าย" จะถือว่าต้องมีข้อความระบุว่า "ผู้จ่าย"ด้วยไม่ได้และมาตรา 909(8) ระบุเพียงว่า "ลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย"ไม่จำต้องมีข้อความเขียนว่า "ผู้สั่งจ่าย" ด้วย เมื่อธนาคาร ฮ. ผู้รับเงินตามตั๋วแลกเงิน ซึ่งเป็นผู้ทรงตั๋วแลกเงินได้สลักหลังตั๋วแลกเงินให้ธนาคาร ก. จัดการแทน และธนาคาร ก. สลักหลังต่อไปยังโจทก์ โจทก์ย่อมเป็นผู้ทรงตั๋วแลกเงินและจะใช้สิทธิทั้งปวงอันเกิดแต่ตั๋ว นั้นย่อมได้ทั้งสิ้นตาม ป.พ.พ.มาตรา 925 โจทก์จึงมีสิทธิติดตามทวงถามเงินตามตั๋วแลกเงิน และฟ้องคดีได้ด้วยตนเอง จำเลยมีชื่อ ในตั๋วแลกเงิน และยังมีตรา บริษัท และลายมือชื่อของผู้มีอำนาจลงชื่อแทนบริษัทจำเลยอีกแห่งหนึ่งด้วย อันหมายความถึงการรับรองตั๋วแลกเงิน จึงถือได้ว่าจำเลยเป็นผู้จ่าย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานบริการอาบน้ำนวด/อบตัว: การประเมินภาษีการค้าตามบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภท 4 ชนิด 2
โจทก์ประกอบกิจการเปิดบริการลูกค้ารวม 5 ประเภท ได้แก่การบริหารร่างกาย อบ ตัวด้วยไอน้ำแบบซาวน่า กระชับกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าเรียกว่า เอส.ซี. ลดตะโพกด้วยเครื่องสั่นและลดหน้าท้องเรียกว่า อาร์.ซี. และนวด ในสถานที่แห่งเดียวกันโดยคิดค่าบริการรวมกันตามจำนวนครั้งที่มารับบริการ กิจการของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการให้บริการในสถานอาบน้ำ นวด หรืออบ ตัวตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการหรือสถานนวด หรืออบ ตัวอย่างอื่นตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 4 ชนิด 2 โจทก์จะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 10ของรายรับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานบริการอาบน้ำนวดอบตัว: การประเมินภาษีการค้าตามประเภทบริการที่รวมกัน
โจทก์ประกอบกิจการเปิดบริการลูกค้ารวม 5 ประเภท ได้แก่การบริหารร่างกาย อบตัวด้วยไอน้ำแบบซาวน่า กระชับกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าเรียกว่าเอส.ซี ลดตะโพกด้วยเครื่องสั่นและลดหน้าท้องเรียกว่าอาร์.ซี และนวด ในสถานที่แห่งเดียวกันโดยคิดค่าบริการรวมกันตามจำนวนครั้งที่มารับบริการ กิจการของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการให้บริการ ในสถานอาบน้ำ นวดหรืออบตัวตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการหรือสถานนวดหรืออบตัวอย่างอื่นตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 4 ชนิด 2 โจทก์จะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 10 ของรายรับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2402/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สถานบริการอาบน้ำนวดอบตัว: การประเมินภาษีการค้าจากรายรับรวม แม้แบ่งประเภทบริการ
โจทก์ประกอบกิจการเปิดบริการลูกค้ารวม 5 ประเภท ได้แก่การบริหารร่างกาย อบตัวด้วยไอน้ำแบบซาวน่า กระชับกล้ามเนื้อด้วยไฟฟ้าเรียกว่าเอส.ซี ลดตะโพกด้วยเครื่องสั่นและลดหน้าท้องเรียกว่าอาร์.ซี และนวด ในสถานที่แห่งเดียวกันโดยคิดค่าบริการรวมกันตามจำนวนครั้งที่มารับบริการ กิจการของโจทก์ถือได้ว่าเป็นการให้บริการ ในสถานอาบน้ำ นวดหรืออบตัวตามกฎหมายว่าด้วยสถานบริการหรือสถานนวดหรืออบตัวอย่างอื่นตามความหมายในบัญชีอัตราภาษีการค้าประเภทการค้า 4 ชนิด 2 โจทก์จะต้องเสียภาษีการค้าในอัตราร้อยละ 10 ของรายรับ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2380/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมบังคับคดี: การอายัดเงินและการยึดทรัพย์ที่ไม่มีการขาย ความรับผิดชอบค่าธรรมเนียม
เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินของจำเลยจากคดีอื่น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่อายัดดังกล่าวแก่โจทก์ เป็นการจ่ายเงินที่อายัดตามความหมายของตาราง 5 ข้อ 2 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึงต้องคิดค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีในอัตราร้อยละ 3 ครึ่งของจำนวนเงินที่จ่าย
จำเลยผิดนัดชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งศาลพิพากษาตามยอมแล้ว โจทก์จึงนำยึดที่ดินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ แต่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลงดการขายทอดตลาด และโจทก์แถลงของดการขายทอดตลาดด้วย ต่อมาโจทก์ขออายัดเงินในคดีอื่นซึ่งจำเลยมีสิทธิได้รับศาลส่งเงินมาให้ตามที่โจทก์อายัดและโจทก์ได้รับชำระหนี้คดีนี้ครบถ้วน จึงถอนการยึดที่ดินเช่นนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 การที่จะให้คู่ความฝ่ายใดเสียค่าธรรมเนียมการยึดที่ดินแล้วไม่มีการขายเป็นดุลพินิจของศาลว่า สมควรให้คู่ความฝ่ายใดเป็นฝ่ายเสียเป็นจำนวนทั้งหมดหรือบางส่วน ดังนี้ เมื่อโจทก์ต้องนำยึดที่ดินโดยถือได้ว่าเป็นความผิดของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดในค่าธรรมเนียมการยึดแล้วไม่มีการขาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2380/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ค่าธรรมเนียมบังคับคดี: การอายัดเงินและการยึดทรัพย์ที่ไม่มีการขาย ความรับผิดของจำเลยที่ผิดนัดชำระหนี้
เจ้าพนักงานบังคับคดีอายัดเงินของจำเลยจากคดีอื่น การที่เจ้าพนักงานบังคับคดีจ่ายเงินที่อายัดดังกล่าวแก่โจทก์ เป็นการจ่ายเงินที่อายัดตามความหมายของตาราง 5 ข้อ 2 ท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง จึงต้องคิดค่าธรรมเนียมเจ้าพนักงานบังคับคดีในอัตราร้อยละ 3 ครึ่งของจำนวนเงินที่จ่าย
จำเลยผิดนัดชำระเงินตามสัญญาประนีประนอมยอมความซึ่งศาลพิพากษาตามยอมแล้ว โจทก์จึงนำยึดที่ดินของจำเลยเพื่อขายทอดตลาดนำเงินมาชำระหนี้ แต่จำเลยยื่นคำร้องขอให้ศาลงดการขายทอดตลาด และโจทก์แถลงของดการขายทอดตลาดด้วย ต่อมาโจทก์ขออายัดเงินในคดีอื่นซึ่งจำเลยมีสิทธิได้รับศาลส่งเงินมาให้ตามที่โจทก์อายัดและโจทก์ได้รับชำระหนี้คดีนี้ครบถ้วน จึงถอนการยึดที่ดินเช่นนี้ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 161 การที่จะให้คู่ความฝ่ายใดเสียค่าธรรมเนียมการยึดที่ดินแล้วไม่มีการขายเป็นดุลพินิจของศาลว่า สมควรให้คู่ความฝ่ายใดเป็นฝ่ายเสียเป็นจำนวนทั้งหมดหรือบางส่วน ดังนี้ เมื่อโจทก์ต้องนำยึดที่ดินโดยถือได้ว่าเป็นความผิดของจำเลย จำเลยจึงต้องรับผิดในค่าธรรมเนียมการยึดแล้วไม่มีการขาย.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2307/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย แม้ไม่สำเร็จผล การกระทำเป็นความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้มีดถางไร่ฟันถูกที่ศีรษะผู้เสียหายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย แม้จะฟันเพียงทีเดียว แต่ปรากฏว่ากะโหลกศีรษะแตก แสดงว่าจำเลยพันโดยแรง ซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าการที่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเพราะได้รับการรักษาจากแพทย์ทันท่วงที การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2307/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธร้ายแรง แม้ไม่ถึงแก่ชีวิต ถือเป็นความผิดพยายามฆ่า
จำเลยใช้มีดถางไร่ฟันถูกที่ศีรษะผู้เสียหายซึ่งเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกาย แม้จะฟันเพียงทีเดียว แต่ปรากฏว่ากะโหลกศีรษะแตก แสดงว่าจำเลยพันโดยแรง ซึ่งอาจทำให้ผู้เสียหายถึงแก่ความตายได้ ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าการที่ผู้เสียหายไม่ถึงแก่ความตายเพราะได้รับการรักษาจากแพทย์ทันท่วงที การกระทำของจำเลยจึงเป็นความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ประกันภัยรถยนต์: ใบอนุญาตขับรถขาดต่ออายุ ยังถือว่ามีใบอนุญาตโดยชอบตามเจตนาของคู่สัญญา
คู่ความตกลงท้ากันให้นายทะเบียนยานพาหนะฯ วินิจฉัยว่าส.มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายที่ได้รับจากนายทะเบียนฯในขณะเกิดเหตุคดีนี้หรือไม่ ถ้า นายทะเบียนวินิจฉัยว่า ส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์ที่ได้รับจากนายทะเบียนฯ โดยชอบ โจทก์ยอมแพ้หากวินิจฉัยตรงกันข้ามจำเลยยอมแพ้ ดังนี้เมื่อหัวหน้าแผนกขับขี่รถยนต์ที่ศาลหมายเรียกมาสอบถามแถลงว่าไม่สามารถวินิจฉัยได้ว่า ส.มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายที่ได้รับจากนายทะเบียนฯในขณะที่เกิดเหตุหรือไม่ คู่ความจึงต้องสืบพยานกันต่อไปเฉพาะ ในประเด็นตามคำท้า เมื่อข้อเท็จจริงที่คู่ความนำสืบมารับฟังได้ว่าในวันเกิดเหตุส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลที่ออกให้โดยนายทะเบียนยานพาหนะฯแต่ขาดต่ออายุ การวินิจฉัยคดีว่าฝ่ายใดจะชนะหรือแพ้คดีตามคำท้าย่อมจะต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยรายพิพาทประกอบด้วยซึ่งเห็นได้ว่าเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยฯ มีไว้เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไม่เป็นหรือไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์มาขับรถยนต์ที่เอาประกันเพราะเกรงจะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย การที่ ส. เพียงแต่ขาดต่ออายุใบอนุญาตฯ จึงถือได้ว่า ส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายตามคำท้า โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2290/2530 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรมธรรม์ประกันภัย: การขาดต่ออายุใบอนุญาตขับรถ ไม่ถือเป็นการไม่ได้รับอนุญาตขับรถตามกรมธรรม์
การที่คู่ความตกลงนำสืบพยานกันเฉพาะประเด็นตามคำท้าว่าขณะเกิดเหตุ ส. ผู้ขับรถจำเลยที่ 1 คันที่เอาประกันภัยกับโจทก์มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่นั้น ย่อมหมายถึงชอบด้วยกฎหมายตามกรมธรรม์ประกันภัยรายพิพาทหรือไม่ การวินิจฉัยย่อมต้องพิจารณาถึงเงื่อนไขในกรมธรรม์ประกันภัยประกอบเมื่อปรากฏว่าตามเงื่อนไขในกรมธรรม์มีไว้เพื่อไม่ให้ผู้ที่ขับรถยนต์ไม่เป็นหรือไม่ได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์มาขับรถยนต์คันที่เอาประกันภัย การที่ ส. มีใบอนุญาตขับรถยนต์มาก่อนเกิดเหตุเพียงแต่ขาดต่ออายุระหว่างเกิดเหตุ หาได้หมายความว่า ความสามารถในการขับรถยนต์ของ ส.บกพร่องไปไม่ จึงถือได้ว่า ส.มีใบอนุญาตขับรถยนต์โดยชอบด้วยกฎหมายตามคำท้าของโจทก์และจำเลยที่ 1 โจทก์ต้องเป็นฝ่ายแพ้คดี.
of 37