พบผลลัพธ์ทั้งหมด 981 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 274/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การจัดการมรดกเสร็จสิ้นแล้ว ผู้คัดค้านขอถอนผู้จัดการมรดกไม่ได้
ผู้จัดการมรดกได้แบ่งปันทรัพย์มรดกแก่ทายาทเสร็จสิ้นแล้วผู้คัดค้านซึ่งเป็นผู้รับทรัพย์ตามพินัยกรรมจะต้องขอให้ศาลสั่งถอนผู้จัดการมรดกโดยอ้างว่าผู้จัดการมรดกละเลยไม่ทำการตามหน้าที่ไม่ได้ ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1727
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาดบังคับคดี: ศาลพิจารณาความเหมาะสมของราคาและระยะเวลาในการขาย รวมถึงดุลพินิจของเจ้าพนักงานบังคับคดี
ในการขายทอดตลาดทรัพย์พิพาท เมื่อผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาท ช.เจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้เคาะไม้ขายไปในราคาดังกล่าว แต่ได้ปรึกษาป.รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดีและวางทรัพย์ภูมิภาคที่ 3 แล้วป.เห็นว่า เพื่อรักษาประโยชน์ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุดจึงให้ ช.ออกมาถามว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้อีกหรือไม่ ปรากฏว่าผู้ซื้อทรัพย์เสนอเพิ่มราคาเป็น3,500,000 บาท ป.จึงอนุมัติให้ ช.เคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปในราคาดังกล่าว ถือได้ว่า ช.ได้กระทำต่อเนื่องตามระเบียบและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าสู้ราคากันอย่างเต็มที่เป็นการขายทอดตลาดที่ชอบด้วยกฎหมาย เมื่อผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาท ช.เจ้าพนักงานบังคับคดี มิได้เพียงแต่แจ้งแก่ผู้สู้ราคาว่าราคาที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้สูงสุดนั้นต่ำไปเท่านั้น หากแต่ได้ถามผู้สู้ราคาซึ่งอยู่ในขณะนั้นประมาณ 20 คนว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนออีกหรือไม่ และดำเนินการขายทอดตลาดต่อไปจนในที่สุดได้เคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ซึ่งได้เพิ่มราคาสูงสุดเป็น 3,500,000 บาท การที่ช.ผู้ทอดตลาดแจ้งแก่ผู้สู้ราคาว่า ราคานั้นต่ำไปจะมีใครให้ราคาสูงกว่านี้อีกหรือไม่ จึงยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการขายทอดตลาดเพื่อรักษาประโยชน์ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุด มิใช่เป็นการที่ผู้ทอดตลาดถนนทรัพย์จากการขายทอดตลาดโดยปริยาย การขายทอดตลาดทรัพย์เพื่อนำเงินที่ขายได้มาชำระหนี้ให้เจ้าหนี้ตามคำพิพากษามีข้อที่จะต้องพิจารณาว่าสมควรจะอนุมัติให้ขายแก่ผู้ให้ราคาสูงสุดหรือไม่อยู่ 2 ประการ ประการแรกราคาทรัพย์ที่แท้จริงประมาณเท่าใด ประการที่สอง สมควรจะขายได้แล้วหรือไม่ปรากฏว่าตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงวันขายทอดตลาดได้ เป็นเวลาเกือบ 3 ปี ได้ทำการขายทอดตลาดมาเป็นครั้งที่ 11และราคาที่ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลได้ก็สูงกว่าราคาปานกลางที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินไว้ อีกทั้งยังสูงกว่าราคาที่ผู้แทนโจทก์เคยกำหนดว่าควรขายได้ เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงสมควรอนุมัติขายได้แล้ว การปฏิบัติของเจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบแล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 262/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขายทอดตลาด: การพิจารณาเรื่องราคาที่เหมาะสมและระยะเวลาการขายทรัพย์เพื่อชำระหนี้
ในการขายทอดตลาดทรัพย์ ผู้ซื้อทรัพย์ให้ราคาสูงสุด 3,000,000 บาทเจ้าพนักงานบังคับคดีไม่ได้เคาะไม้ขายไปในราคาดังกล่าว แต่ เมื่อได้ปรึกษา ป. รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานบังคับคดี และวางทรัพย์ภูมิภาคแล้ว เจ้าพนักงานบังคับคดีถามผู้เข้าสู้ราคา ว่าจะมีใครให้ราคาสูงกว่าที่ผู้ซื้อทรัพย์เสนอไว้อีกหรือไม่ตาม ที่ ป. แนะนำปรากฏว่าผู้ซื้อทรัพย์เสนอเพิ่มราคาเป็น3,500,000 บาท ป.จึง อนุมัติให้เจ้าพนักงานบังคับคดีเคาะไม้ขายให้แก่ผู้ซื้อทรัพย์ไปในราคา3,500,000 บาท การดำเนินการขายทอดตลาด เช่นนี้ถือได้ว่า เจ้าพนักงานบังคับคดีได้กระทำต่อเนื่องตาม ระเบียบและเปิดโอกาสให้ผู้อื่นเข้าสู้ราคากันอย่างเต็มที่และ ยังอยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการขายทอดตลาดเพื่อรักษาผลประโยชน์ ของคู่ความให้ได้ราคาสูงสุด หาใช่เป็นการที่ผู้ทอดตลาดถอนทรัพย์ จากการขายทอดตลาดโดยปริยายไม่จึงเป็นการขายทอดตลาดที่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่โจทก์เริ่มฟ้องคดีจนถึงวันขายทอดตลาดได้เป็นเวลา เกือบ3 ปี ได้ทำการขายทอดตลาดมาเป็นครั้งที่ 11 และราคา ที่ผู้ซื้อทรัพย์ประมูลได้ก็สูงกว่าราคาปานกลางที่เจ้าพนักงานบังคับคดีได้ประเมินไว้อีกทั้งยังสูงกว่าราคาที่ผู้แทนโจทก์เคย กำหนดว่าควรขายได้เจ้าพนักงานบังคับคดีจึงชอบที่จะอนุมัติให้ ขายได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 222/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การร่วมกันขนส่งยาเสพติด การรับสารภาพ และพยานหลักฐานสนับสนุน
จำเลยที่ 1 เป็นผู้เช่ารถคันที่ใช้บรรทุกกัญชา และร่วมโดยสารมาในรถตั้งแต่ขับออกจากกรุงเทพมหานคร การขนกัญชาเป็นการกระทำผิดกฎหมายโดยเฉพาะขนกันเป็นจำนวนมากด้วยย่อมมีโทษสูง ตามธรรมดาผู้กระทำผิดย่อมจะต้องปกปิดเป็นความลับ ถ้า จำเลยที่ 1 มิได้มีส่วนร่วมรู้เห็นในการกระทำความผิดแล้วก็ไม่มีเหตุผลอันใดที่ผู้กระทำความผิดจะกล้าให้จำเลยโดยสารมาในรถด้วย พฤติการณ์ฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 เป็นตัวการร่วมกันมีกัญชาไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยมิได้รับอนุญาต.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 219/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การซื้อขายเรือประมง: ศาลรับฟังพยานบุคคลยืนยันโจทก์เป็นผู้ซื้อ แม้สัญญาจะระบุชื่อจำเลยเป็นผู้ซื้อ
การนำสืบพยานหลักฐานถึงการเข้าเป็นคู่สัญญาของโจทก์ในการซื้อเรือประมงระหว่าง ด. กับจำเลยทั้งสองว่าโจทก์เป็นผู้ซื้อด้วยหรือไม่ ไม่ใช่เป็นการนำสืบในข้อพิพาทระหว่างคู่สัญญาซื้อขายที่กฎหมายบังคับให้ต้องทำหลักฐานเป็นหนังสือแม้เอกสารสัญญาซื้อขายจะระบุว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ซื้อเรือศาลก็รับฟังพยานบุคคลว่าโจทก์เป็นผู้ซื้อเรือได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 211/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การริบของกลางซ้ำ: ศาลพิพากษาให้ริบของกลางที่ศาลชั้นต้นริบไปแล้วไม่ได้
ศาลชั้นต้นได้พิพากษาริบกัญชาของกลางไว้ในคดีอื่นแล้วและโจทก์มิได้ขอให้ริบในคดีนี้ ศาลจะพิพากษาให้ริบกัญชาของกลางอีกไม่ได้ เป็นการริบของกลางซ้ำและเกินคำขอ ไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 192 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียม: พฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะพิจารณา
ข้อเท็จจริงตามคำร้องของทนายจำเลยที่ว่า จำเลยเตรียมค่าฤชาธรรมเนียมมาไม่พอวางศาล ทนายจำเลยบอกให้จำเลย ที่ 1 เบิกเงินจากธนาคาร จำเลยที่ 1 เบิกเงินไม่ทัน ยังถือไม่ได้ ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษตาม ป.วิ.พ. มาตรา 23 ซึ่งศาลจะสั่งขยาย ระยะเวลาให้ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 176/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การขยายระยะเวลาวางค่าฤชาธรรมเนียมอุทธรณ์: พฤติการณ์พิเศษที่ศาลจะพิจารณา
จำเลยเตรียมเงินค่าฤชาธรรมเนียมอุทธรณ์มาไม่พอวางศาลทนายจำเลยบอกให้จำเลยที่ 1 เบิกเงินจากธนาคาร แต่จำเลยที่ 1เบิกเงินไม่ทัน ยังถือไม่ได้ว่าเป็นพฤติการณ์พิเศษที่จะขยายระยะเวลาวางเงินค่าธรรมเนียมอุทธรณ์และค่าทนายความส่วนที่ขาดตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 23
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2535 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างที่มีกำหนดสัญญาชัดเจน กรณีลูกจ้างจงใจขัดคำสั่งนายจ้าง สิทธิในการเลิกจ้างโดยไม่ต้องบอกกล่าว
ลูกจ้างขัดคำสั่งของนายจ้างโดยเข้าอยู่อาศัยในสำนักงานของนายจ้างกับผู้หญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยาของตนโดยมิชอบ เมื่อนายจ้างสั่งให้ย้ายออกก็มิได้ย้ายออกไปในทันที กับไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของนายจ้างซึ่งให้ลงชื่อในเช็คสองคน แม้ลูกจ้างดังกล่าวจะเป็นลูกจ้างที่มีกำหนดระยะเวลาการจ้างไว้แน่นอนและยังไม่ครบกำหนดระยะเวลาการจ้าง นายจ้างก็เลิกจ้างลูกจ้างเพราะเหตุดังกล่าวนั้นได้โดยมิพักต้องบอกกล่าวก่อนหรือให้สินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 กรณีเช่นนี้ไม่อาจนำมาตรา387 ซึ่งอยู่ในบรรพ 2 ลักษณะ 2 หมวดที่ 4 เรื่อง การเลิกสัญญามาใช้บังคับ เพื่อให้นายจ้างรับผิดใช้ค่าเสียหายแก่ลูกจ้างได้เพราะการจ้างแรงงานเป็นเอกเทศสัญญาในบรรพ 3 ที่มีบทบัญญัติไว้เป็นพิเศษในมาตรา 583 อยู่แล้ว
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 144/2535
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การเลิกจ้างลูกจ้างที่มีกำหนดสัญญา กรณีขัดคำสั่งนายจ้าง สิทธิในการบอกกล่าวล่วงหน้าและสินไหมทดแทน
โจทก์เป็นลูกจ้างของจำเลยซึ่งมีกำหนดระยะเวลาการจ้างแน่นอนระหว่างอายุสัญญาโจทก์ขัดคำสั่งของจำเลยคือเข้าอยู่อาศัยใน สำนักงานของจำเลยกับผู้หญิงอื่นซึ่งมิใช่ภรรยา จำเลยให้ย้ายออก ก็ไม่ย้าย ในทันที และไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของจำเลยที่ให้ลงชื่อ ในเช็คสองคนซึ่งถือว่าเป็นการกระทำที่ขาดความรับผิดชอบในฐานะ พนักงานอาวุโสจำเลยจึงเลิกจ้างโจทก์ได้โดยไม่ต้องบอกกล่าวก่อน หรือให้สินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 583 กรณีนี้ไม่อาจนำประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 387 เรื่อง การเลิกสัญญามาใช้บังคับได้ เพราะการจ้างแรงงานเป็นเอกเทศสัญญา ในบรรพ 3 ที่มีบทบัญญัติ ไว้เป็นพิเศษในมาตรา 583 อยู่แล้ว.