คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไมตรี กลั่นนุรักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 981 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3892/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาปล้นทรัพย์ แม้ยังไม่สำเร็จ ถือเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์ได้
วันเกิดเหตุ จำเลยที่ 3 มาบอกผู้เสียหายว่าจำเลยที่ 1 กับพวกจะมาปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย ต่อมาอีกไม่กี่ชั่วโมง จำเลยที่ 1 และที่3 ถืออาวุธปืน จำเลยที่ 2 ถือมีดปลายแหลมเข้ามาในร้านผู้เสียหายพร้อมด้วยจำเลยที่ 4 กับพวก จำเลยที่ 1 จับแขนผู้เสียหายและถามถึงที่ซ่อนทรัพย์ แม้จำเลยทั้งสี่กับพวกมิได้แตะต้องตัวทรัพย์ของผู้เสียหายที่ตั้งใจจะเอาไปและทรัพย์ยังไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปจากที่เก็บก็ตาม ถือว่าจำเลยทั้งสี่กับพวกได้ลงมือใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย เพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์และเพื่อให้ผู้เสียหายยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น ตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339(1) และ (2) แล้ว เมื่อจำเลยทั้งสี่กับพวกร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป แต่กระทำไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายได้หลบหนีออกจากร้านและร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเสียก่อน การกระทำของจำเลยทั้งสี่จึงเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3892/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาปล้นทรัพย์แม้ยังไม่สำเร็จ ถือเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์
วันเกิดเหตุ จำเลยที่ 3 มาบอกผู้เสียหายว่าจำเลยที่ 1 กับพวกจะมาปล้นทรัพย์ผู้เสียหาย ต่อมาอีกไม่กี่ชั่วโมง จำเลยที่ 1 และที่ 3 ถืออาวุธปืน จำเลยที่ 2 ถือมีดปลายแหลมเข้ามาในร้านผู้เสียหายพร้อมด้วยจำเลยที่ 4 กับพวก จำเลยที่ 1 จับแขนผู้เสียหายและถามถึงที่ซ่อนทรัพย์ แม้จำเลยทั้งสี่กับพวกมิได้แตะต้องตัวทรัพย์ของผู้เสียหายที่ตั้งใจจะเอาไปและทรัพย์ยังไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปจากที่เก็บก็ตาม ถือว่าจำเลยทั้งสี่กับพวกได้ลงมือใช้กำลังประทุษร้ายผู้เสียหาย เพื่อให้ความสะดวกแก่การลักทรัพย์และเพื่อให้ผู้เสียหายยื่นให้ซึ่งทรัพย์นั้น ตามความหมายของประมวลกฎหมายอาญามาตรา 339(1) และ (2) แล้ว เมื่อจำเลยทั้งสี่กับพวกร่วมกันกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป แต่กระทำไปไม่ตลอดเพราะผู้เสียหายได้หลบหนีออกจากร้านและร้องขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นเสียก่อน การกระทำของจำเลยทั้งสี่จึงเป็นความผิดฐานพยายามปล้นทรัพย์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3809/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจศาลในการไต่สวนข้อเท็จจริงกรณีละเมิดอำนาจศาล: ไม่จำกัดรูปแบบการไต่สวนและไม่ต้องกระทำต่อหน้าคู่ความ
บทบัญญัติเรื่องละเมิดอำนาจศาลเป็นกฎหมายพิเศษที่ศาลมีอำนาจค้นหาข้อเท็จจริงโดยไม่จำต้องกระทำต่อหน้าผู้ถูกกล่าวหาหรือต่อหน้าจำเลยดังเช่นการพิจารณาคดีอาญาทั่วไปและการที่จะสอบปากคำผู้รู้เห็นข้อเท็จจริงเป็นจำนวนมากน้อยเพียงใดเป็นเรื่องดุลพินิจของศาล เมื่อเห็นว่าข้อเท็จจริงได้ความชัดพอที่จะวินิจฉัยชี้ขาดว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลจริงหรือไม่แล้ว ก็ชอบที่จะวินิจฉัยชี้ขาดไปตามข้อเท็จจริงที่ได้ความนั้นได้เลย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3752/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในแผงลอย/บ้านเช่าหลังสัญญาเช่าที่ดินสิ้นสุด สิทธิยังคงเป็นของผู้เช่าเดิม แม้จะมีการเช่าต่อ
โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินจากสุขาภิบาลโดยสัญญาว่าจะปลูกสร้างแผงลอยหรือบ้านพิพาทตามแบบหรือคำสั่งของสุขาภิบาล แต่ไม่มีข้อสัญญาว่าเมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่าแล้วแผงลอยหรือบ้านพิพาทจะต้องตกเป็นของสุขาภิบาลแต่อย่างใด ดังนั้นแผงลอยหรือบ้านพิพาทจึงยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แม้ว่าสัญญาเช่าที่ดินระหว่างโจทก์กับสุขาภิบาลจะสิ้นสุดลง และจำเลยได้ทำสัญญาเช่าที่ดินนั้นต่อจากโจทก์ก็ตาม เมื่อศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาทซึ่งจำเลยทำสัญญาเช่าจากโจทก์ จึงหาทำให้ฐานะในคดีของโจทก์เปลี่ยนแปลงไปไม่ ไม่มีเหตุที่จะถอนการบังคับคดี.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3752/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ กรรมสิทธิ์ในสิ่งปลูกสร้างบนที่ดินเช่า: สัญญาเช่าไม่ระบุโอนกรรมสิทธิ์ให้สุขาภิบาลเมื่อสิ้นสุดสัญญา
โจทก์ทำสัญญาเช่าที่ดินจากสุขาภิบาลโดยสัญญาว่าจะปลูกสร้างแผงลอยหรือบ้านพิพาทตามแบบหรือคำสั่งของสุขาภิบาล แต่ไม่มีข้อสัญญาว่าเมื่อสิ้นกำหนดเวลาเช่าแล้วแผงลอยหรือบ้านพิพาทจะต้องตกเป็นของสุขาภิบาลแต่อย่างใด ดังนั้นแผงลอยหรือบ้านพิพาทจึงยังคงเป็นกรรมสิทธิ์ของโจทก์แม้ว่าสัญญาเช่าที่ดินระหว่างโจทก์กับสุขาภิบาลจะสิ้นสุดลง และจำเลยได้ทำสัญญาเช่าที่ดินนั้นต่อจากโจทก์ก็ตาม เมื่อศาลพิพากษาให้ขับไล่จำเลยออกจากบ้านพิพาทซึ่งจำเลยทำสัญญาเช่าจากโจทก์ จึงหาทำให้ฐานะในคดีของโจทก์เปลี่ยนแปลงไปไม่ ไม่มีเหตุที่จะถอนการบังคับคดี

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3630/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความระหว่างดำเนินคดีเช็ค ศาลระงับคดีตามกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
คดีความผิดต่อส่วนตัว ระหว่างนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องเป็นใจความว่า จำเลยชำระหนี้ตามเช็คที่นำมาฟ้องให้แก่โจทก์เป็นที่พอใจแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยอีกต่อไปขอถอนคำร้องทุกข์ จำเลยไม่คัดค้าน ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายฟ้องคดีเอง และไม่เคยแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน คำร้องดังกล่าวจึงพอแปลความได้ว่าโจทก์จำเลยยอมความกันสิทธินำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3630/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การยอมความระหว่างดำเนินคดีเช็ค สิทธิฟ้องอาญาจึงระงับตามกฎหมาย
คดีความผิดต่อส่วนตัว ระหว่างนัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา โจทก์ยื่นคำร้องเป็นใจความว่า จำเลยชำระหนี้ตามเช็คที่นำมาฟ้องให้แก่โจทก์เป็นที่พอใจแล้ว โจทก์ไม่ประสงค์จะดำเนินคดีแก่จำเลยอีกต่อไปขอถอนคำร้องทุกข์ จำเลยไม่คัดค้าน ปรากฏว่าโจทก์เป็นผู้เสียหายฟ้องคดีเอง และไม่เคยแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน คำร้องดังกล่าวจึงพอแปลความได้ว่าโจทก์จำเลยยอมความกันสิทธินำคดีอาญามาฟ้องจึงระงับไปตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 39(2).

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3595/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานยักยอกทรัพย์: บทบาทบุคคลภายนอกร่วมกับผู้มีหน้าที่ดูแลทรัพย์
ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ไม่ใช่ความผิดเฉพาะตัวของผู้ครอบครองทรัพย์เพียงผู้เดียว ผู้อื่นก็อาจร่วมกระทำความผิดกับผู้ครอบครองในการยักยอกทรัพย์ได้หากได้ร่วมมือร่วมใจกันกระทำการยักยอกกับผู้ได้รับมอบหมายให้ครอบครองทรัพย์ ข้อที่ว่า "ผู้ใดครอบครองทรัพย์"นั้น มิใช่คุณสมบัติเฉพาะตัวผู้กระทำ แต่เป็นเพียงองค์ประกอบความผิดในส่วนการกระทำอันหนึ่งเท่านั้น จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิใช่ผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ร่วมกับผู้จัดการและสมุห์บัญชีของธนาคารยักยอกทรัพย์ของธนาคาร จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ประกอบด้วยมาตรา 83 แม้จำเลยจะร่วมกระทำผิดกับผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนก็เป็นเหตุเฉพาะตัวผู้กระทำผิดแต่ละคน จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ประกอบด้วยมาตรา 86 (วินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่เฉพาะวรรคสอง)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3595/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดยักยอกทรัพย์: ตัวการร่วมกับผู้มีหน้าที่ดูแลทรัพย์สิน แม้ไม่ใช่ผู้มีอาชีพที่ไว้วางใจได้ก็มีความผิด
ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ไม่ใช่ความผิดเฉพาะตัวของผู้ครอบครองทรัพย์เพียงผู้เดียว ผู้อื่นก็อาจร่วมกระทำความผิดกับผู้ครอบครองในการยักยอกทรัพย์ได้ หากได้ร่วมมือร่วมใจกันกระทำการยักยอกกับผู้ได้รับมอบหมายให้ครอบครองทรัพย์ ข้อที่ว่า ผู้ใดครอบครองทรัพย์นั้น มิใช่คุณสมบัติเฉพาะตัวผู้กระทำ แต่เป็นเพียงองค์ประกอบความผิดในส่วนการกระทำอันหนึ่งเท่านั้น
การที่จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิใช่ผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ร่วมกับผู้จัดการและสมุห์บัญชีของธนาคารยักยอกทรัพย์ของธนาคาร จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ประกอบด้วยมาตรา 83แม้จำเลยจะร่วมกระทำผิดกับผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนก็เป็นเหตุเฉพาะตัวผู้กระทำผิดแต่ละคน จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ประกอบด้วยมาตรา 86.
(วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2532)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3595/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดยักยอกทรัพย์: ตัวการร่วม vs. ผู้สนับสนุน แม้ร่วมกับผู้มีหน้าที่ดูแลทรัพย์
ความผิดฐานยักยอกทรัพย์ไม่ใช่ความผิดเฉพาะตัวของผู้ครอบครองทรัพย์เพียงผู้เดียว ผู้อื่นก็อาจร่วมกระทำความผิดกับผู้ครอบครองในการยักยอกทรัพย์ได้ หากได้ร่วมมือร่วมใจกันกระทำการยักยอกกับผู้ได้รับมอบหมายให้ครอบครองทรัพย์ ข้อที่ว่า ผู้ใดครอบครองทรัพย์นั้น มิใช่คุณสมบัติเฉพาะตัวผู้กระทำ แต่เป็นเพียงองค์ประกอบความผิดในส่วนการกระทำอันหนึ่งเท่านั้น การที่จำเลยซึ่งเป็นบุคคลภายนอกมิใช่ผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนได้ร่วมกับผู้จัดการและสมุห์บัญชีของธนาคารยักยอกทรัพย์ของธนาคาร จำเลยย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการยักยอกทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 352 ประกอบด้วยมาตรา 83แม้จำเลยจะร่วมกระทำผิดกับผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนก็เป็นเหตุเฉพาะตัวผู้กระทำผิดแต่ละคน จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานเป็นผู้สนับสนุนในการที่ผู้อื่นกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354 ประกอบด้วยมาตรา 86. (วรรคสองวินิจฉัยโดยที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 8/2532)
of 99