คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไมตรี กลั่นนุรักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 981 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 334/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ที่ดินรับโอนตาม พ.ร.บ.จัดที่ดินฯ ห้ามโอนภายใน 5 ปี การครอบครองก่อนระยะเวลาดังกล่าวไม่นับเป็นระยะเวลาครอบครองปรปักษ์
ที่ดินที่เจ้าของกรรมสิทธิ์ได้มาตามพระราชบัญญัติจัดที่ดินเพื่อการครองชีพ พ.ศ. 2511 นั้น ภายในกำหนดเวลาห้าปีนับแต่วันได้รับโฉนดที่ดิน ผู้ได้มาซึ่งกรรมสิทธิ์ในที่ดินจะโอนที่ดินนั้นไปยังผู้อื่นไม่ได้ นอกจากการตกทอดโดยทางมรดกหรือโอนไปยังสหกรณ์ที่ตนเป็นสมาชิกอยู่แล้วแต่กรณี และที่ดินประเภทนี้ผู้ครอบครองปรปักษ์ก็จะนำเอาระยะเวลาการครอบครองซึ่งอยู่ภายในกำหนดเวลาที่ห้ามโอนกรรมสิทธิ์มารวมคำนวณเป็นระยะเวลาครอบครองปรปักษ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1382 มิได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดฐานปล้นทรัพย์โดยใช้กำลังประทุษร้ายและอาวุธปืน
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยกับพวกร่วมกันใช้ กำลังประทุษร้ายโดย ใช้ มือรัดคอผู้เสียหายแล้วใช้ อาวุธปืนขู่เข็ญจ่อจี้ บังคับผู้เสียหายว่าในทันใดนั้นจะใช้ อาวุธปืนยิงประทุษร้ายผู้เสียหาย โดย มิได้บรรยายว่าในการปล้นทรัพย์ได้กระทำโดย ใช้ ปืนยิง ดังนั้นแม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าในการปล้นทรัพย์นั้นพวกจำเลยได้ ใช้ อาวุธปืนยิงผู้เสียหายด้วย จำเลยก็คงมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง เท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การบรรยายฟ้องความผิดฐานปล้นทรัพย์ด้วยอาวุธปืน จำเลยผิดตามบทลงโทษที่บรรยายฟ้องเท่านั้น
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยกับพวกร่วมกันใช้ กำลังประทุษร้ายโดย ใช้ มือรัดคอผู้เสียหายแล้วใช้ อาวุธปืนขู่เข็ญจ่อจี้ บังคับผู้เสียหายว่าในทันใดนั้นจะใช้ อาวุธปืนยิงประทุษร้ายผู้เสียหาย โดย มิได้บรรยายว่าในการปล้นทรัพย์ได้กระทำโดย ใช้ ปืนยิง ดังนั้นแม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าในการปล้นทรัพย์นั้นพวกจำเลยได้ ใช้ อาวุธปืนยิงผู้เสียหายด้วย จำเลยก็คงมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๔๐ วรรคสอง เท่านั้น.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 96/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การลงโทษฐานปล้นทรัพย์: การพิจารณาจากคำฟ้องและพฤติการณ์ที่กระทำความผิด
โจทก์บรรยายฟ้องแต่เพียงว่าจำเลยกับพวกร่วมกันใช้กำลังประทุษร้าย โดยใช้มือรัดคอผู้เสียหายแล้วใช้อาวุธปืนขู่เข็ญจ่อจี้ บังคับผู้เสียหายว่าในทันใดนั้นจะใช้อาวุธปืนยิงประทุษร้ายผู้เสียหาย โดยมิได้บรรยายว่าในการปล้นทรัพย์ได้กระทำโดยใช้ปืนยิง ดังนั้นแม้ทางพิจารณาจะได้ความว่าในการปล้นทรัพย์นั้นพวกจำเลยได้ใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายด้วย จำเลยก็คงมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคสอง เท่านั้น

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 2/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ข้อพิพาทสัญญาจะซื้อขายที่ดิน: การชำระราคา, การโอนกรรมสิทธิ์, และเบี้ยปรับ
โจทก์บรรยายฟ้องว่า โจทก์วางแผนผังเตรียมปลูกสร้างอาคารพาณิชย์ และเรือนแถวกำหนดแบบแปลนเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่สามารถทำได้ ถ้าจำเลยไม่ผิดสัญญาโจทก์สามารถปลูกสร้างอาคารขายได้กำไรมากกว่า 2,000,000 บาท หนังสือสัญญาจะซื้อขายที่ดินกำหนดเบี้ยปรับไว้ในกรณีฝ่ายผู้ขายผิดสัญญาเป็นเงิน 1,000,000 บาทโจทก์ได้รับความเสียหาย ขอเรียกค่าเสียหายเป็นเบี้ยปรับตามสัญญาเป็นเงิน 1,000,000 บาท คำฟ้องดังกล่าวชัดแจ้งไม่เคลือบคลุม
โจทก์ทำสัญญาจะซื้อขายที่ดิน โฉนดเลขที่ 89385 จาก ม. บิดาจำเลยราคา 2,000,000 บาท และที่ดินโฉนดเลขที่ 89384 จากจำเลยราคา 600,000 บาท มีข้อตกลงว่าผู้ซื้อต้องชำระราคาที่ดินโฉนดเลขที่ 89385 ครบถ้วนและผู้ขายทำการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินให้ในคราวเดียวกัน และผู้ขายยอมให้ผู้ซื้อขยายเวลาสำหรับชำระราคาที่ดินโฉนดเลขที่ 89384 ไปอีกหกเดือนนับแต่วันซื้อขายที่ดินโฉนดแรกเสร็จโจทก์ออกเช็คชำระราคาที่ดินโฉนดเลขที่89385 ครบถ้วนแล้ว ต่อมา ม. จะได้รับเงินตามเช็คเพียงใดหรือไม่ ก็เป็นเรื่องระหว่าง ม. กับโจทก์จะว่ากล่าวกันเองไม่เกี่ยวกับจำเลยแต่อย่างใด ดังนั้นจำเลยอ้างว่าโจทก์ยังค้างชำระเงินค่าที่ดิน ม. อยู่อีก 500,000 บาท จำเลยจึงไม่ยอมโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินโฉนดของจำเลยให้แก่โจทก์ ย่อมเป็นการไม่ถูกต้อง จำเลยจึงเป็นฝ่ายผิดสัญญา.(ที่มา-ส่งเสริม)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5973/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลยืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์
จำเลยใช้ไม้ไผ่กลมตันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เซนติเมตรยาว 1 เมตร ตีผู้เสียหายถึง 10 ครั้ง ผู้เสียหายถูกตีที่ศีรษะด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายจนกะโหลกศีรษะหลังร้าวสมองกระทบกระเทือนสลบไปนานประมาณ 5 ชั่วโมง แสดงว่าจำเลยตีโดยแรง ประกอบกับขณะที่ตีผู้เสียหายจำเลยพูดว่าถ้าตีไม่ตายจะยิงซ้ำให้ตาย และหลังจากผู้เสียหายสลบ จำเลยยังถือไม้ไผ่เข้าไปและพูดว่าจะตีให้ตายอีกหลายครั้งแต่มีคนห้ามไว้ แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5973/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาฆ่าจากการทำร้ายด้วยอาวุธอันตราย ศาลพิพากษายืนความผิดฐานพยายามฆ่า
จำเลยใช้ไม่ไผ่กลมตันมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 3 เซนติเมตร ยาว 1 เมตร ตีผู้เสียหายถึง 10 ครั้ง ผู้เสียหายถูกตีที่ศีรษะด้านซ้ายอันเป็นอวัยวะสำคัญของร่างกายจนกะโหลกศีรษะด้านหลังร้าว สมองกระทบกระเทือน สลบไปนานประมาณ 5 ชั่วโมง แสดงว่าจำเลยตีโดยแรงประกอบกับขณะที่ตีผู้เสียหายจำเลยพูดว่าถ้าตีไม่ตายจะยิงซ้ำให้ตาย และหลังจากผู้เสียหายสลบ จำเลยยังถือไม้ไผ่เข้าไปและพูดว่าจะตีให้ตายอีกหลายครั้ง แต่มีคนห้ามไว้แสดงว่าจำเลยมีเจตนาฆ่าผู้เสียหาย

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5886/2531

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยใช้คำรับรองเท็จ: การหลอกลวงให้ผู้เสียหายมอบข้าวเปลือกโดยอ้างจะขายนาชดใช้
จำเลยติดต่อขอซื้อข้าวเปลือกจากผู้เสียหาย โดยขอชำระราคาด้วยเช็คที่ ว. เป็นผู้ลงชื่อสั่งจ่ายให้ไว้ และจำเลยพูดรับรองว่าหากเช็คที่จำเลยมอบให้ขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยจะเป็นผู้รับผิดชอบเองโดยจะขายนา 30 ไร่ ของจำเลยมาชำระราคาข้าวเปลือกให้แก่ผู้เสียหายจนครบ ดังนี้การที่ผู้เสียหายยินยอมขายข้าวเปลือกตามฟ้องให้แก่จำเลยกับพวกโดยยอมรับเช็คซึ่ง ว. สั่งจ่ายไว้เพื่อเป็นการชำระราคาข้าวเปลือก ก็เพราะจำเลยเป็นผู้ให้คำรับรอง เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินไม่ได้จำเลยกลับปฏิเสธความรับผิดไม่ยอมรับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น อ้างว่าตนเป็นเพียงนายหน้าให้ ว.เท่านั้น พฤติการณ์ของจำเลยแสดงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดหลอกลวงเพื่อเอาข้าวเปลือกของผู้เสียหายทั้งสาม มีแผนการร่วมกับ ว. เจ้าของเช็ค โดยการให้คำรับรองด้วยข้อความอันเป็นเท็จต่อสู้เสียหายมาแต่ต้น จนผู้เสียหายหลงเชื่อยอมมอบข้าวเปลือกให้แก่จำเลย จำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมกับพวกฉ้อโกงโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5886/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ฉ้อโกงโดยการให้คำรับรองเท็จเพื่อหลอกลวงเอาทรัพย์สิน ผู้กระทำมีความผิดฐานฉ้อโกง
จำเลยติดต่อขอซื้อข้าวเปลือกจากผู้เสียหาย โดยขอชำระราคาด้วยเช็คที่ ว.เป็นผู้ลงชื่อสั่งจ่ายให้ไว้ และจำเลยพูดรับรองว่าหากเช็คที่จำเลยมอบให้ขึ้นเงินไม่ได้ จำเลยจะเป็นผู้รับผิดชอบเองโดยจะขายนา 30 ไร่ ของจำเลยมาชำระราคาข้าวเปลือกให้แก่ผู้เสียหายจนครบ ดังนี้ การที่ผู้เสียหายยินยอมขายข้าวเปลือกตามฟ้องให้แก่จำเลยกับพวกโดยยอมรับเช็คซึ่ง ว.สั่งจ่ายไว้เพื่อการชำระราคาข้าวเปลือก ก็เพราะจำเลยเป็นผู้ให้คำรับรอง เมื่อผู้เสียหายนำเช็คไปขึ้นเงินไม่ได้จำเลยกลับปฏิเสธความรับผิดไม่ยอมรับรู้ใด ๆ ทั้งสิ้น อ้างว่าตนเป็นเพียงนายหน้าให้ ว.เท่านั้น พฤติการณ์ของจำเลยแสดงว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตคิดหลอกลวงเพื่อเอาข้าเปลือกของผู้เสียหายทั้งสาม มีแผนการร่วมกับ ว.เจ้าของเช็ค โดยการให้คำรับรองด้วยข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้เสียหายมาแต่ต้น จนผู้เสียหายหลงเชื่อยอมมอบข้าวเปลือกให้แก่จำเลย จำเลยจึงมีความผิดฐานร่วมกับพวกฉ้อโกงโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5526/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจตนาออกเช็คเพื่อหลักฐานดำเนินคดีอาญา ไม่ถือเป็นการออกเช็คเพื่อชำระหนี้ จึงไม่ผิดตาม พ.ร.บ. เช็ค
จำเลยกู้เงินผู้เสียหายและนำเช็คที่มีแต่ลายมือชื่อของจำเลยโดยมิได้ลงจำนวนเงินและวันที่มามอบให้ ผู้เสียหายทราบว่าเช็คที่จะดำเนินคดีอาญาได้ต้องลงรายการให้ครบ จึงให้จำเลยลงรายการในเช็ค แต่จำเลยเขียนหนังสือได้เพียงลงชื่อของตนเองผู้เสียหายก็ให้คนเขียนตัวอย่างให้จำเลยเขียนตามจนครบรายการในเช็ค เช่นนี้ การที่จำเลยเขียนเช็คดังกล่าว ก็เพราะผู้เสียหายต้องการจะได้หลักฐานในการดำเนินคดีทางอาญาแก่จำเลยเมื่อจำเลยไม่ชำระหนี้ที่กู้ยืม มิใช่จำเลยมีเจตนาออกเช็คเพื่อชำระหนี้เงินกู้จำเลยจึงไม่มีความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.2497 มาตรา 3
of 99