พบผลลัพธ์ทั้งหมด 981 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 197/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การพิสูจน์ตัวผู้กระทำผิดจากการเบิกความพยานหลายปากและพยานหลักฐานประกอบอื่น แม้มีเหตุโต้แย้ง
คดีปล้นทรัพย์ เหตุเกิดบนรถยนต์โดยสารปรับอากาศ อ. ผู้เสียหายคนหนึ่งนั่งใกล้กับจำเลยบริเวณหน้าห้องสุขา มีแสงสว่างจากโคมไฟหน้าห้องสุขาส่องสว่างสามารถอ่านหนังสือพิมพ์ได้อ. ได้คุยกับจำเลยนานถึง 2 นาทีก่อนจะเกิดเหตุปล้นทรัพย์นอกจากนี้ ศ. พยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้โดยสารได้เบิกความยืนยันว่าจำเลยเป็นคนร้ายที่ปลดสร้อยคอและล้วงเอาเงินรวมทั้งทรัพย์สินอื่นไปจากตน โดยจำลักษณะต่าง ๆ บนใบหน้าของจำเลยได้ พยานโจทก์ดังกล่าวฟังลงโทษจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 195/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผลสมบูรณ์ของการโอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์: การทำสัญญาและการชำระราคาเป็นสำคัญ
อุทธรณ์ของผู้ร้องที่ว่า การที่ผู้ร้องและจำเลยได้ยื่นคำขอโอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์ ณ ที่ทำการชุมสายโทรศัพท์ ถือได้ว่าการโอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์ของผู้ร้องมีผลสมบูรณ์ตามกฎหมายแล้วตั้งแต่วันที่ได้ทำคำขอโอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์และเป็นการปฏิบัติถูกต้องตามวิธีการโอนสิทธิเรียกร้องอันถือได้ว่าองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยได้ยินยอมให้มีการโอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์ดังกล่าวแล้ว เป็นอุทธรณ์ข้อกฎหมาย
จำเลยและผู้ร้องได้ตกลงโอนขายสิทธิการเช่าโทรศัพท์ต่อกันทั้งได้ทำคำขอโอนและรับโอนการเช่าโทรศัพท์ร่วมกันต่อองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยก็รับทราบและได้แจ้งให้จำเลยและผู้ร้องไปชำระเงินค่าโอนย้ายโทรศัพท์แล้ว อีกทั้งผู้ร้องก็ได้ชำระราคาให้จำเลยและจำเลยได้ส่งมอบเครื่องโทรศัพท์ไว้ในครอบครองของผู้ร้องแล้วตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขายดังนั้นการโอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์รายนี้ย่อมมีผลสมบูรณ์ตั้งแต่ขณะทำสัญญาเสร็จการที่จะไปทำการเปลี่ยนชื่อผู้เช่าโทรศัพท์จากจำเลยมาเป็นชื่อผู้ร้องเป็นแต่เพียงแบบพิธีการเท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริม)
จำเลยและผู้ร้องได้ตกลงโอนขายสิทธิการเช่าโทรศัพท์ต่อกันทั้งได้ทำคำขอโอนและรับโอนการเช่าโทรศัพท์ร่วมกันต่อองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยองค์การโทรศัพท์แห่งประเทศไทยก็รับทราบและได้แจ้งให้จำเลยและผู้ร้องไปชำระเงินค่าโอนย้ายโทรศัพท์แล้ว อีกทั้งผู้ร้องก็ได้ชำระราคาให้จำเลยและจำเลยได้ส่งมอบเครื่องโทรศัพท์ไว้ในครอบครองของผู้ร้องแล้วตั้งแต่วันทำสัญญาซื้อขายดังนั้นการโอนสิทธิการเช่าโทรศัพท์รายนี้ย่อมมีผลสมบูรณ์ตั้งแต่ขณะทำสัญญาเสร็จการที่จะไปทำการเปลี่ยนชื่อผู้เช่าโทรศัพท์จากจำเลยมาเป็นชื่อผู้ร้องเป็นแต่เพียงแบบพิธีการเท่านั้น.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จัดการสหกรณ์เบียดบังเงิน: ความผิดฐานใดที่ถูกต้องตามกฎหมาย
ผู้จัดการสหกรณ์มิใช่ผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จัดการสหกรณ์ไม่เป็นผู้มีอาชีพ/ธุรกิจที่น่าไว้วางใจตามประมวลกฎหมายอาญา
ผู้จัดการสหกรณ์มิใช่ผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 192/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ผู้จัดการสหกรณ์เบียดบังเงิน ยุติว่าอยู่ในความครอบครอง จึงมีความผิดฐานยักยอกทรัพย์
ผู้จัดการสหกรณ์มิใช่ผู้มีอาชีพหรือธุรกิจอันย่อมเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 354
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 181/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบเมื่อคู่ความตกลงให้ศาลตัดสินคดีจากหลักฐานที่มีอยู่ แม้จะไม่มีการปูโฉนด
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยบุกรุก ขอให้ขับไล่และเรียกค่าเสียหายชั้นชี้สองสถาน ศาลกำหนดให้โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน ก่อนสืบพยาน คู่ความแถลงขอให้เจ้าพนักงานที่ดินทำการรังวัดและปูโฉนด แต่เจ้าพนักงานไม่สามารถปูโฉนดแนวเขตได้ ได้แต่ทำรูปแผนที่กระดาษส่งศาล คู่ความแถลงขอให้ศาลชี้ขาด เมื่อศาลเห็นว่าแผนที่ดังกล่าวทับกันไม่สนิท ไม่อาจใช้แผนที่ชี้ขาดได้ว่าจำเลยบุกรุกที่ดินโจทก์หรือไม่ จึงวินิจฉัยคดีว่า โจทก์มีหน้าที่นำสืบก่อน แต่โจทก์ไม่สืบพยานจึงต้องแพ้คดี พิพากษายกฟ้อง เช่นนี้ถือว่าเป็นการดำเนินกระบวนพิจารณาโดยชอบ.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่แสดงตัวและแจ้งเหตุหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ผิดเอง ก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย
กรณีรถสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดชนกันได้รับความเสียหายแม้ว่าความเสียหายนั้นจะมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที เมื่อจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับไว้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคแรก และมีโทษตามมาตรา 160 วรรคแรก
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2531)
(ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2531)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่แสดงตัว-แจ้งเหตุหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ได้เป็นฝ่ายผิด
กรณีรถสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดชนกันได้รับความเสียหายแม้ว่าความเสียหายนั้นจะมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นแล้วจำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที เมื่อจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับไว้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคแรกและมีโทษตามมาตรา 160 วรรคแรก
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 126/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
หน้าที่แสดงตัว-แจ้งเหตุหลังเกิดอุบัติเหตุ แม้ไม่ผิดก็ต้องปฏิบัติตามกฎหมายจราจร
กรณีรถสองคันแล่นสวนทางกันและเกิดชนกันได้รับความเสียหายแม้ว่าความเสียหายนั้นจะมิได้เกิดขึ้นเพราะความผิดของจำเลยก็ตาม ก็ถือได้ว่าจำเลยขับรถในทางซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลหรือทรัพย์สินของบุคคลอื่นแล้ว จำเลยจึงมีหน้าที่ต้องแสดงตัวและแจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงทันที เมื่อจำเลยมิได้แจ้งเหตุต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ก็เป็นการไม่ปฏิบัติตามที่กฎหมายบังคับไว้ จำเลยจึงต้องมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 78 วรรคแรก และมีโทษตามมาตรา 160 วรรคแรก. (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 1/2531)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 90/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การฆ่าผู้อื่นโดยสำคัญผิดว่าเป็นเป้าหมายเดิม ยังคงเป็นการฆ่าโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
จำเลยให้พวกมาร้องเรียก พ.ให้ออกมาจากบ้านโดยจำเลยแอบซุ่มยิงอยู่ แม้บังเอิญผู้ตายลุกขึ้นมาเปิดประตูบ้านลงบันไดเพื่อจะไปถ่ายปัสสาวะข้างล่าง แล้วถูกจำเลยใช้อาวุธปืนยิงโดยสำคัญผิดว่าเป็น พ.ก็ตาม การกระทำของจำเลยก็เป็นการฆ่าผู้ตายโดยไตร่ตรองไว้ก่อน