คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
ไมตรี กลั่นนุรักษ์

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 981 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1507/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ เจ้าพนักงานทุจริตต่อหน้าที่ เบียดบังเงินรายได้ของแผ่นดิน
จำเลยเป็นเจ้าพนักงานมีหน้าที่รับเงินรายได้ของหน่วยราชการที่ตนสังกัดและได้รับเงินรายได้ไว้ แต่มิได้นำเงินนั้นส่งคลังตามระเบียบซึ่งตามปกติจะต้องนำส่งคลังในวันเดียวกันกับวันที่ได้รับเงินไว้ เว้นแต่มีเหตุจำเป็นก็ให้นำส่งคลังในวันรุ่งขึ้นถัดไปที่เป็นวันทำการทั้งจำเลยมิได้ลงบัญชีรับเงินไว้เป็นหลักฐานจนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบภายในของกรมเจ้าสังกัดตรวจพบการกระทำของจำเลยเป็นเวลาถึง 5 เดือนเศษจำเลยจึงได้นำเงินส่งคลัง นับว่าจำเลยมีเจตนาทุจริตเบียดบังไปเป็นประโยชน์ส่วนตัวแล้ว.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การอุทธรณ์ที่ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อ ศาลมีอำนาจรับพิจารณา
อุทธรณ์ของจำเลยได้ระบุข้อเท็จจริงที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยย่อ เพียงแต่ไม่ได้ย่อทางนำสืบของโจทก์จำเลยเท่านั้นไม่เป็นการขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 193 ถือได้ว่าได้ระบุข้อเท็จจริงโดยย่อที่ยกขึ้นอ้างอิงไว้แล้ว เป็นอุทธรณ์ที่ศาลอุทธรณ์มีอำนาจรับไว้พิจารณาได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1455/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การระบุข้อเท็จจริงโดยย่อในอุทธรณ์: ไม่จำเป็นต้องย่อทางนำสืบของคู่ความ
อุทธรณ์ของจำเลยได้ระบุข้อเท็จจริงที่จำเลยอุทธรณ์คัดค้านคำพิพากษาของศาลชั้นต้นโดยย่อ เป็นอุทธรณ์ที่ชอบด้วยกฎหมาย แม้จะไม่ได้ย่อ ทางนำสืบของโจทก์จำเลยไว้ก็ไม่เป็นการขัดต่อ ป.วิ.อ.มาตรา 193 แต่อย่างใด.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายรับจากบัตรนำเที่ยว: การคำนวณภาษีถูกต้องตามหลักการ แม้มีส่วนลดให้ตัวแทน
การจัดบริการนำเที่ยวโดยวิธีขายบัตรนำเที่ยว ไม่ว่าโจทก์ขายบัตรนำเที่ยวให้แก่สำนักงานท่องเที่ยวหรือเป็นเรื่องสำนักงานท่องเที่ยวทำหน้าที่เพียงเป็นตัวแทนโจทก์ในการขายบัตรนำเที่ยว โจทก์ก็จะต้องจ่ายผลประโยชน์ให้แก่สำนักงานท่องเที่ยวผลประโยชน์ซึ่งได้แก่ผลต่างของราคาในบัตรนำเที่ยวกับราคาที่โจทก์คิดกับสำนักงานท่องเที่ยวก็คือค่าใช้จ่ายในการขายบัตรนำเที่ยวของโจทก์ ราคาตามบัตรนำเที่ยวจึงเป็นส่วนที่โจทก์ได้รับหรือพึงได้รับต้องถือว่าเป็นรายรับของโจทก์ทั้งหมดตามความใน มาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร โจทก์ต้องคำนวณรายรับของโจทก์ตามความเป็นจริงที่ปรากฏราคาในบัตรนำเที่ยว จะคำนวณรายรับจากราคาที่คิดจากสำนักงานท่องเที่ยวไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1246/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ รายรับจากบัตรนำเที่ยว: การคำนวณภาษีถูกต้องตามหลักการทางภาษีอากร
การจัดบริการนำเที่ยวโดยวิธีขายบัตรนำเที่ยว ไม่ว่าโจทก์ขายบัตรนำเที่ยวให้แก่สำนักงานท่องเที่ยวหรือเป็นเรื่องสำนักงานท่องเที่ยวทำหน้าที่เพียงเป็นตัวแทนโจทก์ในการขายบัตรนำเที่ยว โจทก์ก็จะต้องจ่ายผลประโยชน์ให้แก่สำนักงานท่องเที่ยวผลประโยชน์ซึ่งได้แก่ผลต่างของราคาในบัตรนำเที่ยวกับราคาที่โจทก์คิดกับสำนักงานท่องเที่ยวก็คือค่าใช้จ่ายในการขายบัตรนำเที่ยวของโจทก์ ราคาตามบัตรนำเที่ยวจึงเป็นส่วนที่โจทก์ได้รับหรือพึงได้รับต้องถือว่าเป็นรายรับของโจทก์ทั้งหมดตามความในมาตรา 79 แห่งประมวลรัษฎากร โจทก์ต้องคำนวณรายรับของโจทก์ตามความเป็นจริงที่ปรากฏราคาในบัตรนำเที่ยว จะคำนวณรายรับจากราคาที่คิดจากสำนักงานท่องเที่ยวไม่ได้.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดฐานพยายามกระทำชำเราเด็กหญิง แม้การกระทำไม่สำเร็จผล และการยับยั้งการกระทำ
จำเลยชวนผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 4 ปีเศษไปดูการ์ตูนที่บ้านจำเลยแล้วพาไปนอนบนกระดาน ถอดกางเกงผู้เสียหายและจำเลยออก แล้วจำเลยใช้อวัยวะเพศดันไปตรงอวัยวะเพศของผู้เสีหายเพียงครั้งเดียว บริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายไม่มีบาดแผล จำเลยไม่ได้กระทำซ้ำต่อไปเพื่อให้สำเร็จความใคร่ทั้ง ๆ ที่จำเลยมีโอกาสที่จะกระทำได้นับได้ว่าเป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 80, 82
แม้ผู้เสียหายไม่มีช่องคลอด ผิดปกติแต่กำเนิด อันเป็นเหตุประกอบให้เห็นว่า โดยสภาพวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อทำให้การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ก็ตาม ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยหยุดการกระทำต่อผู้เสียหายเพราะได้เห็น หรือทราบข้อเท็จจริงอันนี้ เมื่อจำเลยยับยั้งเสียเองได้ จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้นคงมีความผิดเท่าที่ต้องตามกฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิด คือกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1218/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ ความผิดพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิง และการยับยั้งการกระทำจนไม่สำเร็จ
จำเลยชวนผู้เสียหายซึ่งเป็นเด็กหญิงอายุ 4 ปีเศษไปดูการ์ตูนที่บ้านจำเลยแล้วพาไปนอนบนกระดาน ถอดกางเกงผู้เสียหายและจำเลยออก แล้วจำเลยใช้อวัยวะเพศดันไปตรงอวัยวะเพศของผู้เสีหายเพียงครั้งเดียว บริเวณอวัยวะเพศของผู้เสียหายไม่มีบาดแผล จำเลยไม่ได้กระทำซ้ำต่อไปเพื่อให้สำเร็จความใคร่ทั้ง ๆที่จำเลยมีโอกาสที่จะกระทำได้นับได้ว่าเป็นการยับยั้งเสียเองไม่กระทำการให้ตลอด จำเลยจึงมีความผิดฐานพยายามข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุไม่เกิน 13 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 277 วรรคแรก ประกอบด้วยมาตรา 80,82
แม้ผู้เสียหายไม่มีช่องคลอด ผิดปกติแต่กำเนิด อันเป็นเหตุประกอบให้เห็นว่า โดยสภาพวัตถุที่มุ่งหมายกระทำต่อทำให้การกระทำของจำเลยไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ก็ตาม ก็ไม่ปรากฏว่าจำเลยหยุดการกระทำต่อผู้เสียหายเพราะได้เห็น หรือทราบข้อเท็จจริงอันนี้ เมื่อจำเลยยับยั้งเสียเองได้ จำเลยก็ไม่ต้องรับโทษสำหรับการพยายามกระทำความผิดนั้นคงมีความผิดเท่าที่ต้องตามกฎหมายบัญญัติไว้เป็นความผิด คือกระทำอนาจารตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 279.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาซื้อขาย และการสิ้นสุดสัญญาซื้อขายรถยนต์ โดยการตีราคารถเก่าเป็นส่วนหนึ่งของราคา
โจทก์ลงชื่อในใบสั่งซื้อรถยนต์จากจำเลยในนามส่วนตัวโดยมิได้ระบุว่าทำแทนผู้ใด แม้โจทก์จะใช้ข้อความในหนังสือบอกเลิกสัญญาว่าบริษัท ม. จำกัดได้จองรถไว้ก็เป็นเพราะความเข้าใจผิดของโจทก์เอง เนื่องจากโจทก์มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าวจึงอาจใช้ตำแหน่งปะปนกับกิจการส่วนตัว ดังนั้นถือว่าโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลยในนามส่วนตัว
โจทก์ซื้อรถจากจำเลยโดยนำรถเก่าของโจทก์ให้จำเลยตีราคาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของราคารถใหม่ที่จะซื้อ เมื่อปรากฏว่าจำเลยตีราคารถเก่า 330,000 บาท และรับรถไปแล้ว การที่โจทก์ขอเปลี่ยนรถคันที่ซื้อใหม่และจำเลยยอมคืนเงินให้โจทก์300,000 บาท โดยนำเงินส่วนที่เหลือ 30,000 บาท รวมกับเช็คเงินสดจำนวน 50,000 บาทที่โจทก์มอบแก่จำเลยแล้วเป็นการวางมัดจำรถคันใหม่ที่ขอเปลี่ยน ดังนี้ การตีราคารถเก่าเพื่อขายรถใหม่จึงสิ้นสุดไปแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ในสิ่งต่าง ๆ ที่จำเลยทำลงในรถเก่าที่โจทก์นำมาตีราคา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1217/2530 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ อำนาจฟ้องสัญญาซื้อขาย, การตีราคารถเก่าเป็นส่วนหนึ่งของราคา, สัญญาซื้อขายสิ้นสุดลง
โจทก์ลงชื่อในใบสั่งซื้อรถยนต์จากจำเลยในนามส่วนตัวโดยมิได้ระบุว่าทำแทนผู้ใด แม้โจทก์จะใช้ข้อความในหนังสือบอกเลิกสัญญาว่าบริษัท ม. จำกัด ได้จองรถไว้ก็เป็นเพราะความเข้าใจผิดของโจทก์เอง เนื่องจากโจทก์มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการของบริษัทดังกล่าวจึงอาจใช้ตำแหน่งปะปนกับกิจการส่วนตัว ดังนั้น ถือว่าโจทก์เป็นคู่สัญญากับจำเลยในนามส่วนตัว โจทก์ซื้อรถจากจำเลยโดยนำรถเก่าของโจทก์ให้จำเลยตีราคาเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของราคารถใหม่ที่จะซื้อ เมื่อปรากฏว่าจำเลยตีราคารถเก่า 330,000 บาท และรับรถไปแล้ว การที่โจทก์ขอเปลี่ยนรถคันที่ซื้อใหม่และจำเลยยอมคืนเงินให้โจทก์ 300,000 บาท โดยนำเงินส่วนที่เหลือ 30,000 บาท รวมกับเช็คเงินสดจำนวน 50,000บาทที่โจทก์มอบแก่จำเลยแล้วเป็นการวางมัดจำรถคันใหม่ที่ขอเปลี่ยนดังนี้ การตีราคารถเก่าเพื่อขายรถใหม่จึงสิ้นสุดไปแล้ว จำเลยไม่มีสิทธิเรียกค่าเสียหายจากโจทก์ในสิ่งต่าง ๆ ที่จำเลยทำลงในรถเก่าที่โจทก์นำมาตีราคา.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1207/2530

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การประกอบธุรกิจโฆษณาเป็นรับจ้างทำของ ไม่ใช่ตัวแทนหรือนายหน้า ต้องเสียภาษีการค้าร้อยละ 2
โจทก์ประกอบธุรกิจรับจ้างโฆษณาให้แก่ลูกค้า โดยโจทก์ให้ความคิด ให้แปลนความคิดเกี่ยวกับรูปแบบ คำพูด ภาพยนตร์ เทป ซึ่งเป็นเรื่องสร้างสรรค์แนวความคิดในการออกแบบโฆษณาให้มีผู้รู้จักสินค้าของลูกค้ามากที่สุดแล้วโจทก์จ้างสื่อโฆษณาอันได้แก่วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ ให้ทำการโฆษณาหรือโจทก์จ้างผู้อื่นให้ผลิตวัสดุโฆษณาทำการโฆษณา การประกอบธุรกิจโฆษณาดังกล่าวโจทก์ไม่ได้ทำหน้าที่เป็นคนกลางช่วยชี้ช่องให้ลูกค้าของโจทก์กับสื่อโฆษณาได้เข้าทำสัญญากันอันเป็นการกระทำของนายหน้า หรือออกเงินทดรองหรือค่าใช้จ่ายแทนลูกค้าอันเป็นการกระทำของตัวแทน จึงไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามประเภทการค้า 10นายหน้าและตัวแทน แห่งบัญชีอัตราภาษีการค้า หากแต่เป็นการรับทำการงานโฆษณาโดยถือผลสำเร็จของงานเป็นสาระสำคัญ จึงเป็นการรับจ้างทำของ ต้องเสียภาษีการค้าตามประเภทการค้า 4 ชนิด 1(ฉ)การรับจ้างทำของอย่างอื่น.
of 99