คำพิพากษาที่เกี่ยวข้องกับผู้พิพากษา
เสียง ตรีวิมล

พบผลลัพธ์ทั้งหมด 800 รายการ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3970/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม้คดีอาญาไม่สามารถพิสูจน์ตัวผู้ขับรถได้ โจทก์ยังสืบได้ในคดีแพ่ง
จำเลยเคยถูกอัยการฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลแขวงในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ศาลแขวงวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้ขับรถคันเกิดเหตุ คงมีเพียงบางปากยืนยันว่าผู้ขับรถเป็นหญิง แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นจำเลย จำเลยก็นำสืบปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลย พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด ดังนี้ถือว่าศาลในคดีอาญาไม่ได้ชี้ขาดว่าจำเลยไม่ได้เป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ เมื่อผู้เสียหายในคดีอาญาดังกล่าวเป็นโจทก์ฟ้องทางแพ่งเป็นคดีนี้เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลย โจทก์จึงมีสิทธินำพยานเข้าสืบให้ฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3970/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ แม้คดีอาญาศาลยกฟ้อง แต่คดีแพ่งยังฟังได้ว่าจำเลยเป็นผู้ขับรถและประมาท ทำให้เกิดความเสียหาย
จำเลยเคยถูกอัยการฟ้องเป็นคดีอาญา ต่อศาลแขวงในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ศาลแขวงวินิจฉัยว่าโจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้ขับรถคันเกิดเหตุ คงมีเพียงปากเดียวยืนยันว่าผู้ขับรถเป็นหญิง แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นจำเลยจำเลยก็นำสืบปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าวพยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลย พิพากษายกฟ้องคดีถึงที่สุด ดังนี้ถือว่าศาลในคดีอาญาไม่ได้ชี้ขาดว่าจำเลยไม่ได้เป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ เมื่อผู้เสียหายในคดีอาญาดังกล่าวเป็นโจทก์ฟ้องทางแพ่งเป็นคดีนี้เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลย โจทก์จึงมีสิทธินำพยานเข้าสืบให้ฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3970/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ คดีแพ่งเรียกค่าเสียหายจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ แม้คดีอาญาไม่ชี้ว่าจำเลยเป็นผู้ขับ แต่โจทก์มีสิทธิพิสูจน์ในคดีแพ่ง
จำเลยเคยถูกอัยการฟ้องเป็นคดีอาญาต่อศาลแขวงในข้อหากระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ศาลแขวงวินิจฉัยว่า โจทก์ไม่มีพยานยืนยันว่าจำเลยเป็นผู้ขับรถคันเกิดเหตุ คงมีเพียงบางปากยืนยันว่าผู้ขับรถเป็นหญิง แต่ไม่ยืนยันว่าเป็นจำเลย จำเลยก็นำสืบปฏิเสธว่าจำเลยไม่ได้เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว พยานหลักฐานโจทก์ไม่พอฟังลงโทษจำเลย พิพากษายกฟ้อง คดีถึงที่สุด ดังนี้ถือว่าศาลในคดีอาญาไม่ได้ชี้ขาดว่าจำเลยไม่ได้เป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ เมื่อผู้เสียหายในคดีอาญาดังกล่าวเป็นโจทก์ฟ้องทางแพ่งเป็นคดีนี้เรียกค่าเสียหายฐานละเมิดจากจำเลย โจทก์จึงมีสิทธินำพยานเข้าสืบให้ฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนขับรถคันเกิดเหตุ

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3963/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพในคดีอาญา: ศาลมีอำนาจพิพากษาโดยไม่ต้องสืบพยานจำเลย
ในคดีอาญานั้นเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็มีอำนาจที่จะพิพากษาคดีไปได้โดยไม่จำต้องสืบพยานจำเลยอีกต่อไป

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3963/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การรับสารภาพจำเลยในคดีอาญา: ศาลมีอำนาจพิพากษาโดยไม่ต้องสืบพยานเพิ่มเติม
ในคดีอาญานั้นเมื่อจำเลยให้การรับสารภาพ ศาลก็มีอำนาจที่จะพิพากษาคดีไปได้โดยไม่จำต้องสืบพยานจำเลยอีกต่อไป.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3834/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาท การลักทรัพย์และละเมิดจากดินลูกรัง ศาลฎีกาวินิจฉัยสิทธิการครอบครองเป็นของผู้ฟ้อง
จำเลยขุดเอาดินลูกรังในที่ดินของโจทก์ไปขาย ถือได้ว่าเป็นการเอาดินลูกรังของโจทก์ไปโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์และเป็นการละเมิดต่อโจทก์

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3834/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การครอบครองที่ดินพิพาท การลักทรัพย์ และละเมิด การพิสูจน์ความเป็นเจ้าของที่ดิน
จำเลยขุดเอาดินลูกรังในที่ดินของโจทก์ไปขาย ถือได้ว่าเป็นการเอาดินลูกรังของโจทก์ไปโดยทุจริต จึงเป็นความผิดฐานลักทรัพย์และเป็นการละเมิดต่อโจทก์.

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3794/2532 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ สัญญาประกันตัว - การไม่สามารถนำตัวจำเลยมาศาล - การลดค่าปรับ - เหตุผลไม่เพียงพอ
ผู้ประกันขอลดค่าปรับโดยอ้างว่า ผู้ประกันมิได้เพิกเฉยละเลยต่อสัญญาประกันที่ทำไว้ต่อศาล ได้พยายามติดตามตัวจำเลยมาส่งศาลตลอดมา การผิดสัญญาประกันจึงมิใช่เจตนาร้ายแรง และการที่ผู้ประกันต้องชำระค่าปรับเต็มตามสัญญาประกัน ผู้ประกันต้องเดือดร้อนมากเนื่องจากได้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการติดตามจำเลยไปมาก ผู้ประกันเป็นราษฎรประกอบอาชีพโดยสุจริตและชรามากแล้ว สุขภาพไม่แข็งแรงมีลักษณะคล้ายกับเป็นอัมพาตไปครึ่งซีก ต้องให้แพทย์รักษาอยู่ตลอดเวลาสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากนั้น ไม่เข้าลักษณะที่ศาลจะปรานีลดค่าปรับให้ผู้ประกันได้ เพราะจนถึงเวลาที่ศาลมีคำพิพากษาเรื่องปรับผู้ประกัน ผู้ประกันก็ยังไม่สามารถนำตัวจำเลยมาส่งศาลเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาของศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3794/2532 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดสัญญาประกันตัว: ศาลฎีกายืนตามศาลล่าง ไม่ลดค่าปรับเนื่องจากผู้ประกันยังไม่สามารถนำตัวจำเลยมาส่งศาลได้
เหตุที่ผู้ประกันอ้างว่า ผู้ประกันมิได้เพิกเฉยละเลยต่อสัญญาประกันที่ทำไว้ต่อศาล ได้พยายามติดตามตัวจำเลยมาส่งศาลตลอดมา การผิดสัญญาประกันจึงมิใช่เจตนาร้ายแรง และการที่ผู้ประกันต้องชำระค่าปรับเต็มตามสัญญาประกัน ผู้ประกันต้องเดือดร้อนมาก เนื่องจากได้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการติดตามจำเลยไปมากผู้ประกันเป็นราษฎรประกอบอาชีพโดยสุจริตและชรามากแล้ว สุขภาพไม่แข็งแรงมีลักษณะคล้ายกับเป็นอัมพาตไปครึ่งซีกต้องให้แพทย์รักษาอยู่ตลอดเวลา สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ไม่เข้าลักษณะที่ศาลจะปรานี ลดค่าปรับให้ผู้ประกันได้ เพราะจนถึงเวลาที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาเรื่องปรับผู้ประกัน ผู้ประกันก็ยังไม่สามารถนำตัวจำเลยมาส่งศาลเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาของศาลได้

คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 3794/2532

ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้ การผิดสัญญาประกันตัวจำเลย: ศาลฎีกาไม่อนุญาตลดค่าปรับแม้ผู้ประกันมีภาระหนักและพยายามติดตามตัวจำเลย
เหตุที่ผู้ประกันอ้างว่า ผู้ประกันมิได้เพิกเฉยละเลยต่อสัญญาประกันที่ทำไว้ต่อศาล ได้พยายามติดตามตัวจำเลยมาส่งศาลตลอดมา การผิดสัญญาประกันจึงมิใช่เจตนาร้ายแรง และการที่ผู้ประกันต้องชำระค่าปรับเต็มตามสัญญาประกัน ผู้ประกันต้องเดือดร้อนมาก เนื่องจากได้สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายในการติดตามจำเลยไปมากผู้ประกันเป็นราษฎรประกอบอาชีพโดยสุจริตและชรามากแล้ว สุขภาพไม่แข็งแรงมีลักษณะคล้ายกับเป็นอัมพาตไปครึ่งซีกต้องให้แพทย์รักษาอยู่ตลอดเวลา สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมาก ไม่เข้าลักษณะที่ศาลจะปรานี ลดค่าปรับให้ผู้ประกันได้ เพราะจนถึงเวลาที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาเรื่องปรับผู้ประกัน ผู้ประกันก็ยังไม่สามารถนำตัวจำเลยมาส่งศาลเพื่อรับโทษตามคำพิพากษาของศาลได้.
of 80