พบผลลัพธ์ทั้งหมด 800 รายการ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิด พ.ร.บ.จัดหางานฯ กับความผิดฉ้อโกงเป็นคนละกรรม ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคลาดเคลื่อน
ความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ. 2511มิใช่ความผิดอันยอมความได้ และเป็นความผิดอีกข้อหาหนึ่งต่างหากจากความผิดฐานฉ้อโกง จะยกฟ้องข้อหาความผิดดังกล่าวด้วยเหตุขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 96 เช่นเดียวกับความผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิด พ.ร.บ.จัดหางานฯ และความผิดฉ้อโกงเป็นคนละข้อหา ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยคลาดเคลื่อน
ความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511มิใช่ความผิดอันยอมความได้ และเป็นความผิดอีกข้อหาหนึ่งต่างหากจากความผิดฐานฉ้อโกงจะยกฟ้องข้อหาความผิดดังกล่าวด้วยเหตุขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 96 เช่นเดียวกับความผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 954/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
อายุความความผิด พ.ร.บ.จัดหางานฯ ไม่เชื่อมโยงกับอายุความฉ้อโกง ศาลต้องพิจารณาแยกกัน
ความผิดตามพระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน พ.ศ.2511มิใช่ความผิดอันยอมความได้ และเป็นความผิดอีกข้อหาหนึ่งต่างหากจากความผิดฐานฉ้อโกง จะยกฟ้องข้อหาความผิดดังกล่าวด้วยเหตุขาดอายุความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 96 เช่นเดียวกับความผิดฐานฉ้อโกงไม่ได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
กรรมสิทธิ์ร่วมและขอบเขตการครอบครองที่ดิน: การปฏิบัติตามคำพิพากษาศาล
ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีถึงที่สุดว่า โจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในที่ดินพิพาท และต่างครอบครองเป็นส่วนสัดโดยส่วนของโจทก์ครอบครองเฉพาะบริเวณบ้านที่โจทก์ได้ครอบครองมาแต่เดิมเท่านั้น คำพิพากษาที่ถึงที่สุดดังกล่าวย่อมผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 เมื่อโจทก์ต่อเติมตึกแถวของโจทก์ที่ครอบครองมาแต่เดิม โดยขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยชอบที่จะร้องขอให้ศาลบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้.
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 695/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างหลังมีคำพิพากษาถึงที่สุดเรื่องกรรมสิทธิ์ร่วมและการครอบครองที่ดิน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาคดีถึงที่สุดว่า โจทก์จำเลยมีกรรมสิทธิ์ร่วมกันในที่ดินพิพาท และต่างครอบครองเป็นส่วนสัดโดยส่วนของโจทก์ครอบครองเฉพาะบริเวณบ้านที่โจทก์ได้ครอบครองมาแต่เดิมเท่านั้น คำพิพากษาที่ถึงที่สุดดังกล่าวย่อมผูกพันคู่ความตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 145 เมื่อโจทก์ต่อเติมตึกแถวของโจทก์ที่ครอบครองมาแต่เดิม โดยขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นจึงเป็นการไม่ปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ จำเลยชอบที่จะร้องขอให้ศาลบังคับให้โจทก์ปฏิบัติตามคำพิพากษาได้
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 461/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
การทำร้ายร่างกายจนถึงแก่ความตาย: เจตนาทำร้าย vs. เจตนาฆ่า และการพิจารณาเหตุต่อสู้
จำเลยและผู้ตายร่วมเสพสุราและเกิดทะเลาะวิวาททำร้ายกัน จำเลยอายุมากกว่าผู้ตายและความแข็งแรงสู้ผู้ตายไม่ได้ จึงใช้ไม้ไผ่ที่เก็บได้จากข้างทางตีผู้ตายที่บริเวณใบหน้าหนึ่งทีทำให้หน้าผากด้านขวากระโหลกศีรษะยุบและดั้งจมูกหักเป็นเหตุให้ผู้ตายถึงแก่ความตาย ดังนี้ จำเลยมีเจตนาเพียงทำร้ายผู้ตาย มีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 290 วรรคแรก.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 381/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
คำรับสารภาพประกอบหลักฐานยึดของกลาง มีน้ำหนักรับฟังลงโทษฐานลักทรัพย์ได้ แม้ไม่มีพยานรู้เห็นโดยตรง
จำเลยรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวน พร้อมกับนำเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมไปตรวจค้นและยึดเครื่องยนต์และชิ้นส่วนอุปกรณ์ของรถจักรยานยนต์ผู้เสียหายได้เป็นของกลาง คำรับสารภาพของจำเลยดังกล่าวแม้จะเป็นเพียงพยานบอกเล่า แต่เมื่อนำมาประกอบคำเบิกความของพยานโจทก์ซึ่งเป็นผู้จับกุมและสอบสวน พยานโจทก์จึงมีน้ำหนักรับฟังลงโทษจำเลยได้.(ที่มา-ส่งเสริม)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2531 เวอร์ชัน 2 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
เช็คพิพาท: การแก้ไขวันเดือนปีไม่ทำให้เกิดเช็คฉบับใหม่ ความผิดฐานออกเช็คไม่มีอายุความ
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยแก้ไขวันเดือนปีในเช็คพิพาทให้โจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินอีก ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดียวกันโจทก์จึงนำเช็คพิพาทมาฟ้อง ดังนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในครั้งแรกความผิดย่อมเกิดขึ้นแล้ว การที่โจทก์นำเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งหลังมาฟ้อง จึงหาเป็นความผิดขึ้นอีกไม่ เพราะการกระทำอันเดียวกันจะเกิดเป็นความผิดสองครั้งหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2531 เวอร์ชัน 3 คำพิพากษาฎีกานี้ มีเนื้อหาจากเว็บทางการหลายรูปแบบ
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คโดยเจตนาไม่ให้ใช้เงิน ความผิดย่อมเกิดขึ้นเมื่อเช็คถูกปฏิเสธครั้งแรก การนำเช็คเดิมไปขึ้นเงินอีกไม่ถือเป็นความผิดใหม่
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยแก้ไขวันเดือนปีในเช็คพิพาทให้โจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินอีก ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดียวกันโจทก์จึงนำเช็คพิพาทมาฟ้อง ดังนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในครั้งแรกความผิดย่อมเกิดขึ้นแล้ว การที่โจทก์นำเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งหลังมาฟ้องจึงหาเป็นความผิดขึ้นอีกไม่ เพราะการกระทำอันเดียวกันจะเกิดเป็นความผิดสองครั้งหาได้ไม่
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 267/2531
ชื่อเรื่องฎีกานี้ถูกสร้างโดย Ai ทางเว็บขอไม่รับรองความถูกต้อง โปรดตรวจสอบความถูกต้องก่อนนำไปใช้
ความผิดฐานออกเช็คไร้เงิน การกระทำความผิดซ้ำและการเกิดความผิดขึ้นใหม่
จำเลยออกเช็คพิพาทชำระหนี้โจทก์ ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินมาครั้งหนึ่งแล้ว ต่อมาจำเลยแก้ไขวันเดือนปีในเช็คพิพาทให้โจทก์นำเข้าบัญชีเพื่อเรียกเก็บเงินอีก ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินเช่นเดียวกันโจทก์จึงนำเช็คพิพาทมาฟ้อง ดังนี้ เมื่อธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินในครั้งแรกความผิดย่อมเกิดขึ้นแล้ว การที่โจทก์นำเช็คที่ธนาคารปฏิเสธการจ่ายเงินครั้งหลังมาฟ้องจึงหาเป็นความผิดขึ้นอีกไม่ เพราะการกระทำอันเดียวกันจะเกิดเป็นความผิดสองครั้งหาได้ไม่.